Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2239

สรุปบท ตอนที่ 2239 พบอ๋าวเจิ้นเทียนอีกครั้ง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 2239 พบอ๋าวเจิ้นเทียนอีกครั้ง – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2239 พบอ๋าวเจิ้นเทียนอีกครั้ง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2239 พบอ๋าวเจิ้นเทียนอีกครั้ง

ขณะเดียวกันจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยก็พูดว่า ‘สหายยุทธ์ เจ้าลองคิดดูว่าตอนเข้ามาในแดนวังมังกรนี้ ได้เผยช่องโหว่ตรงไหนให้องค์ชายสี่คลางแคลงกันแน่’

หลินสวินคิดดูครู่หนึ่งแล้วเล่ารายละเอียดตอนที่ตนเข้ามาทีละเรื่อง

‘ข้าเข้าใจแล้ว’

ไม่นานจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยก็เข้าใจ ‘เรื่องนี้ไม่กล่าวโทษสหายยุทธ์หลิน แต่เจ้าแค่ไม่รู้ว่าจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรไม่เหลียวแลองค์ชายเจ็ดมาตลอด ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเลวร้าย แต่เจ้ากลับนำป้ายคำสั่งของจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรมาขอพบองค์ชายเจ็ด…’

ไม่รอให้พูดจบหลินสวินก็เข้าใจ พยักหน้าพลางกล่าว ‘เรื่องนี้ข้าประมาทเอง’

จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยสื่อจิตอย่างรวดเร็ว ‘สหายยุทธ์ เวลาไม่คอยท่า ตอนนี้องค์ชายสี่ยังรออยู่ข้างนอก เจ้าคิดว่าควรทำอย่างไรต่อไป’

หลินสวินใคร่ครวญเล็กน้อย สายตามองไปยังจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย ‘ข้ามีวิธีหนึ่ง สามารถทำให้สหายยุทธ์ไม่ต้องติดร่างแห ทั้งยังทำให้ข้าเจอองค์ชายเจ็ดได้อย่างราบรื่น เพียงแต่… จะทำให้สหายยุทธ์ลำบากอยู่บ้าง’

จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยอึ้งไป คล้ายนึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง สีหน้าพลันปรวนแปรไม่หยุด เนิ่นนานกว่าจะกัดฟันกล่าว ‘ได้รับความลำบากเล็กน้อยจะเป็นไร ขอแค่ช่วยสหายยุทธ์ได้ ให้ทุ่มเททุกอย่างก็คุ้มค่า’

หลินสวินพยักหน้าแล้วเริ่มสื่อจิต

นอกถ้ำ หัวคิ้วอ๋าวเสวียนเฟิงขมวดขึ้น ยามรู้สึกว่าหมดความอดทนอยู่บ้างก็ได้ยินเสียงกัมปนาทดังมาจากในถ้ำลึกที่มืดสนิทนั่น พลังต้องห้ามถาโถมออกมา

กลิ่นอายน่าหวาดกลัวนั้นทำให้อ๋าวเสวียนเฟิงหยุดหายใจ ผู้ติดตามคนอื่นแต่ละคนล้วนตื่นตระหนกไม่หยุด

ผ่านไปครู่ใหญ่พลังต้องห้ามในถ้ำจึงสงบลง

ขณะเดียวกันเสียงของจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยพลันดังมาจากส่วนลึกของถ้ำนั้น “นายน้อย จัดการเรียบร้อยแล้ว”

“สำเร็จแล้ว!”

ผู้ติดตามพวกนั้นต่างกระตือรือร้นขึ้นมา

อ๋าวเสวียนเฟิงก็ยิ้มรับ ก้าวเข้าไปในถ้ำก่อน ตั้งแต่ต้นจนจบล้วนไม่เฉลียวใจแม้แต่น้อย

ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นแดนวังมังกร เป็นอาณาเขตของพวกเขาเผ่าเจินหลง!

และในจิตใต้สำนึกของอ๋าวเสวียนเฟิงก็ไม่คิดเลยว่า ระดับจักรพรรดิที่ถูกเผ่าตนควบคุมชะตาชีวิตอย่างจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยจะมีใจออกห่าง

เมื่อเดินเข้าไปในถ้ำได้ไม่นานก็เห็นจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยรออยู่ตรงนั้นดังคาด ข้างกายเขามีเงาร่างหนึ่งนอนหมดสติอยู่บนพื้น เป็นตายไม่อาจรู้

“จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย รีบปลุกเจ้าสวะที่คิดไม่ซื่อนี่ขึ้นมา ข้าอยากรู้นักว่าเขามาทำไมกันแน่!”

ในแววตาอ๋าวเสวียนเฟิงเต็มไปด้วยความอำมหิต ความจริงยังย่ามใจอยู่บ้าง คิดว่าตนมีสายตาเฉียบแหลม มองเล่ห์กลออก!

“องค์ชายสี่ เจ้าทำให้ข้าผิดหวังมาก”

แต่เวลานี้กลับเห็นจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง แสงมรรคพวยพุ่ง ผู้ติดตามมากมายที่อยู่ใกล้ล้วนไม่ทันได้ตอบสนองก็ถูกกำราบ แต่ละคนทรุดลงกับพื้น ไม่ทันแม้แต่จะร้องทุรนทุราย

แย่แล้ว!

ความย่ามใจบนหน้าอ๋าวเสวียนเฟิงชะงักค้าง แทบจะพุ่งตัวออกไปข้างนอกตามสัญชาตญาณทันที

ปึง!

เพียงแต่ตอนที่เขาเพิ่งขยับตัว ท้ายทอยก็ถูกฟาดเข้าเต็มๆ เบื้องหน้าพลันมืดมัวไปชั่วขณะ เกือบจะหมดสติไป ร่างกระแทกพื้น ล้มลงไปในท่าหมากินขี้

“จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย เจ้ากล้าทรยศเผ่าข้ารึ!”

อ๋าวเสวียนเฟิงบันดาลโทสะ สีหน้าคล้ำเขียว แต่เมื่อหันกลับไปก็พบว่ารูปร่างของจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยแปรเปลี่ยนเป็นหลินสวิน

เขาอึ้งไปชั่วขณะ หนาวสะท้านในใจ “เจ้า…”

“โน่น จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยที่เจ้าเรียกอยู่ตรงนั้น แต่เขาไม่อาจช่วยเจ้าได้อีกแล้ว” หลินสวินชี้ร่างที่นอนอยู่ไกลออกไปแล้วกล่าวง่ายๆ

“เจ้าเป็นใครกันแน่?!”

อ๋าวเสวียนเฟิงตวาดลั่น เสียงราวฟ้าร้องกัมปนาท

หลินสวินหัวเราะขึ้นมา มองปราดเดียวก็รู้ความคิดของอีกฝ่ายแล้ว “ที่นี่ถูกพลังของข้าปกคลุมแล้ว ต่อให้เจ้าร้องจนคอแตกก็ไม่มีคนสังเกตเห็นความผิดปกติเพียงเสี้ยว”

อ๋าวเสวียนเฟิงหนาวเยือกในใจอย่างที่สุด มือเท้าเย็นเยียบ แต่เขายังคงไม่กล้าเชื่อ ทำไมบนโลกนี้ถึงมีคนกล้าแฝงตัวเข้ามาในอาณาเขตเผ่าเจินหลงของพวกเขา

ไม่กลัวตายหรือ

ใครบ้างไม่รู้ว่าหากล่วงเกินเผ่าเจินหลงของพวกเขาแล้วจะถูกล้างเผ่าพันธุ์!?

หลินสวินกล่าว “ข้าเดาว่าตอนนี้เจ้าคงยากจะรับเรื่องทั้งหมดนี้แน่ ตอนนั้นอาหกของเจ้าก็คิดเช่นนี้ ถึงขั้นเชื่อว่าข้าคนแซ่หลินไม่กล้าสังหารเขา…”

อ๋าวเสวียนเฟิงสีหน้าแปรเปลี่ยนยกใหญ่ “เจ้าฆ่าท่านอาหกรึ!?”

จักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรเป็นเหมือนคนที่ ‘ไม่เกรงกลัวฟ้าดิน’ ในเผ่าเจินหลง มรรควิถีทั้งตัวล้วนเรียกได้ว่าเป็นบุคคลชั้นยอด!

เวลานี้จิตใจของอ๋าวเสวียนเฟิงมีสัญญาณว่าจะเสียการควบคุมอยู่บ้างแล้ว เป็นไปได้อย่างไร นี่เป็นไปได้อย่างไร

สำหรับคนชนชั้นสูงที่เติบโตในเผ่าเจินหลงมาตั้งแต่เด็กอย่างอ๋าวเสวียนเฟิง ท้องฟ้าของแดนเจินหลงคือท้องนภาประจำเผ่าของพวกเขา แผ่นดินคือปฐพีประจำเผ่าของพวกเขา สิ่งมีชีวิตหมื่นเผ่ากลางฟ้าดินล้วนเป็นบ่าวรับใช้และขุนนางของพวกเขา

หลายปีมานี้สถานการณ์เช่นนี้ไม่เคยเกิดการเปลี่ยนแปลงมาก่อน

“หืม?”

อ๋าวเจิ้นเทียนที่กำลังฝึกปราณพลันลืมตาขึ้น เมื่อเห็นหลินสวิน ทั้งตัวเขาล้วนตะลึงงันอยู่ตรงนั้น เกือบคิดว่าฝันไป

“พี่… หลิน?” อ๋าวเจิ้นเทียนหยัดร่างขึ้น “นี่เป็นเขตหวงห้ามของเผ่าข้า ทำไมเจ้าถึงปรากฏตัวที่นี่”

“ข้ามาหาจิ่งเซวียน” หลินสวินกล่าว

สีหน้าอ๋าวเจิ้นเทียนพลันเปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นมา ถอนใจยาวพลางกล่าว “ข้าว่าแล้ว ขอแค่ไม่เห็นญาติผู้น้องคนนั้นของข้ากลับไปดินแดนรกร้างโบราณ ไม่ช้าก็เร็วเจ้าต้องมาที่นี่แน่”

เขานำสุรากาหนึ่งออกมา “ไม่เจอกันหลายสิบปี อยากดื่มสักจอกหรือไม่”

หลินสวินส่ายหัวพลางกล่าว “ครั้งนี้ข้าฝ่าอันตรายยิ่งใหญ่กว่าจะมาถึงที่นี่ เจ้าคิดว่าข้ายังมีใจดื่มสุราอีกหรือ”

อ๋าวเจิ้นเทียนเก็บกาสุราลงไปเงียบๆ กล่าวด้วยเสียงต่ำลึกและจริงใจ “พี่หลิน เจ้าไม่ควรมา หากเจ้ายังเชื่อข้าเหมือนปีนั้น ข้าหวังว่าเจ้าจะจากไป ไปได้ไกลเท่าไหร่ก็ไปให้ไกลเท่านั้น ชีวิตนี้อย่าเหยียบเข้ามาในโลกนี้อีก”

หลินสวินขมวดคิ้วกล่าว “ข้าขอถามเจ้าว่าตอนนี้จิ่งเซวียนอยู่ที่ไหน”

อ๋าวเจิ้นเทียนส่ายหัว “ปีนั้นหลังจากงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกรปิดฉาก ข้าก็ถูกกักบริเวณอยู่ที่นี่ หลายสิบปีนี้ไม่เคยมีโอกาสออกไปข้างนอกสักก้าว มีหรือจะรู้ว่าน้องจิ่งเซวียนอยู่ที่ไหน”

ในใจหลินสวินรู้สึกเดือดดาลอย่างบอกไม่ถูก พุ่งเข้าไปคว้าสาบเสื้อของอ๋าวเจิ้นเทียนทันที “ปีนั้นเจ้าพูดจาหนักแน่นว่าจะรับรองความปลอดภัยของจิ่งเซวียน ข้าจึงรับปากให้จิ่งเซวียนตามเจ้ามาที่นี่ แต่ตอนนี้เจ้ากลับบอกข้าว่า… ไม่รู้ว่าจิ่งเซวียนอยู่ที่ไหน”

ในดวงตาล้ำลึกของเขาเต็มไปด้วยความโกรธที่จวนจะระเบิด

อ๋าวเจิ้นเทียนสีหน้าหดหู่ ก้มหน้าไม่กล้าสบตาหลินสวิน กล่าวอย่างขมขื่น “ข้าก็คิดไม่ถึงว่าในงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกร ถึงกับเกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นนั้นขึ้น…”

เขาสูดหายใจลึกพลางกล่าว “พี่หลิน แม้ข้าจะไม่รู้ว่าตอนนี้น้องจิ่งเซวียนอยู่ที่ไหน แต่กล้าเอาชีวิตมารับรองกับเจ้า น้องจิ่งเซวียนไม่มีทางเกิดเรื่องอันตรายใดแน่!”

ตึง!

หลินสวินเหวี่ยงเขาลงกับพื้น แววตาเยียบเย็น “หากเจ้ายังเห็นข้าหลินสวินเป็นเพื่อนจริงก็บอกข้ามา ในงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกรเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้นกันแน่! ทำไมหลังจากนั้นทุกคนในเผ่าเจินหลงของพวกเจ้าจึงอยากสังหารข้าหลินสวิน”

อ๋าวเจิ้นเทียนสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด ทรวงอกกระเพื่อมไหว ในใจเหมือนทรมานและดิ้นรนหาใดเปรียบ

ครู่ใหญ่เขาจึงก้มหน้ากล่าวอย่างขมขื่น “เรื่องนี้ข้าพูดไม่ได้ พี่หลิน ข้าขอร้องเจ้าล่ะ ฉวยโอกาสช่วงที่เหล่าคนใหญ่คนโตของเผ่าข้ายังไม่พบเจ้า รีบจากไปตอนนี้ดีไหม เรื่องนี้ภายหน้าข้าอ๋าวเจิ้นเทียนจะจัดการให้เจ้าแน่!”

น้ำเสียงถึงขั้นเจือความวิงวอน

แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ในใจหลินสวินก็ยิ่งรู้สึกว่าไม่เข้าทีอยู่บ้างแล้ว

เขาควบคุมความโกรธภายในใจอย่างเต็มที่ มองอ๋าวเจิ้นเทียนที่ทรุดลงกับพื้นและไม่กล้าสบตาตนเอง ในแววตาเผยความผิดหวังอย่างอดไม่ได้พลางกล่าว “ดูท่าว่าข้ามาหาเจ้าก็เปล่าประโยชน์ ช่างเถอะ เรื่องนี้ข้าหลินสวินจะจัดการเอง!”

……………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์