Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2312

สรุปบท ตอนที่ 2312 โจมตีสังหารบรรพจารย์จักรพรรดิ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 2312 โจมตีสังหารบรรพจารย์จักรพรรดิ – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2312 โจมตีสังหารบรรพจารย์จักรพรรดิ ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 2312 โจมตีสังหารบรรพจารย์จักรพรรดิ

สีราตรีดุจหมึก

หลังจากสองจักรพรรดิสงครามชื่อเหิงและเฟยหลิงเดินพ้นประตูภูเขา จู่ๆ ชื่อเหิงก็ถอนใจยาว “เฟยหลิง เจ้าสำนักตายแล้ว ผู้อาวุโสระดับจักรพรรดิเจ็ดคนที่เหลือก็ประสบเคราะห์กันหมด ลำพังแค่เรื่องนี้ ก็ทำให้สำนักของพวกเราสูญเสียระดับจักรพรรดิไปสี่ส่วนแล้ว…”

เฟยหลิงสายตาวาบวาว “พี่ชื่อเหิงอยากพูดอะไร”

ชื่อเหิงกล่าวใคร่ครวญ “สำนักโบราณจรัสเทพในตอนนี้เหมือนมังกรไร้หัว ตอนนี้ถึงจะมีผู้อาวุโสชั้นสูงควบคุมสถานการณ์ แต่รอหลังจากจัดการหลินเต้ายวนนี่เสร็จ ช้าเร็วก็ต้องแต่งตั้งเจ้าสำนักคนใหม่”

“เจ้าอยากเป็นเจ้าสำนักหรือ” เฟยหลิงนัยน์ตาหดรัด

ชื่อเหิงหัวเราะเบาๆ กลาวว่า “ข้าคุณสมบัติไม่ถึงหรอก ช่างเถอะ รอจัดการเจ้าสวะหลินเต้ายวนนี่ค่อยหารือเรื่องนี้ก็ไม่สาย”

เฟยหลิงกล่าวทอดถอนใจ “ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดว่าตำแหน่งเจ้าสำนักจะตกเป็นของใครจริงๆ แต่เป็น…”

“แต่เป็นอะไร”

“การต่อสู้ที่เขาหุบเหวโลหิตทำให้สำนักโบราณจรัสเทพของพวกเราการโจมตีรุนแรง พี่ชื่อเหิงคิดจริงๆ หรือว่าหลินเต้ายวนนั่นจะเป็นพวกจัดการง่ายๆ ขนาดนั้น”

“มีพวกผู้อาวุโสชั้นสูงคอยชักใบนำทาง จะฆ่าเจ้าหมอนี่ไม่ได้เลยเชียวหรือ”

“บางที… อาจฆ่าตายได้ แต่คิดอยากกำจัดมกุฎมหาจักรพรรดิเช่นนี้ สำนักโบราณจรัสเทพของพวกเราเกรงว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนที่ไม่อาจรับไหวเป็นแน่…”

เมื่อชื่อเหิงได้ยินเช่นนี้สีหน้าก็เปลี่ยนไปมาครู่หนึ่ง เนิ่นนานกว่าจะฝืนยิ้มกล่าวว่า “อย่ากังวลเกินกว่าเหตุ ต่อให้หลินเต้ายวนนั่นจะแข็งแกร่งแค่ไหน จะสามารถทำลายสำนักโบราณจรัสเทพของพวกเราได้เชียวหรือ”

ขณะพูดเขาสูดหายใจลึก สายตากวาดมองรอบบริเวณ กล่าวว่า “ต่อให้ถอยหมื่นก้าว เมื่อถึงคราววิกฤตคับขันจริงๆ พวกเราแค่ต้องหลบอยู่ในสำนัก ก็พอรับประกันได้ว่าชีวิตจะไร้อันตราย!”

“ใช่หรือ”

จู่ๆ เสียงเย็นเยียบสายหนึ่งก็ดังขึ้น

ชื่อเหิงและเฟยหลิงสั่นเทิ้มทั้งตัว หมายจะตอบสนองทันทีแต่ก็ช้าไปก้าวหนึ่ง

ตอนที่เสียงนั้นดังขึ้น กรงเล็บสุนัขข้างหนึ่งก็ตะปบเข้ามาอย่างไร้สุ้มเสียง

ปึง! ปึง!

เสียงหนักทึบดังขึ้นสองครั้ง ชื่อเหิงและเฟยหลิงเกร็งไปทั้งตัวก่อนหมดสติไป เมื่อเห็นว่าร่างจะร่วงลงจากฟากฟ้าก็ถูกต้าหวงใช้กรงเล็บคว้าไว้คนละข้าง หิ้วขึ้นมาก่อนพากลับไปด้วย

“นั่นคืออะไร”

ในประตูภูเขาจู่ๆ เสียงตกใจแกมสงสัยสายหนึ่งก็ดังขึ้น ก็เห็นเงาร่างสองสายโฉบพรวด จากนั้นแสงมรรคเจิดจ้าตามมาติดๆ ดุจคบเพลิงลุกโหมกลางราตรีมืด

ต้าหวงหรี่ตาลง เคลื่อนตัวพุ่งตัวออกไปฉับพลัน

ทว่าในความมืดยังมีเงาร่างสายหนึ่งตอบสนองไวกว่าเขา ลงมือทันทีที่เงาร่างสองสายนั่นเดินออกมาแล้ว

ปึง! ปึง!

เป็นเสียงหนักทึบสองสายอีกครา ระดับจักรพรรดิสองคนที่เพิ่งเดินออกมานั่นก็ถูกฟาดสลบตรงๆ เหมือนกัน

คนที่ลงมือก็คือหลินสวิน

เขาโยนเหยื่อยัดเข้าไปในเจดีย์ไร้สิ้นสุดลวกๆ คราวนี้จึงถลึงตามองต้าหวงปราดหนึ่ง “ตอนซุ่มรอจะส่งเสียงได้อย่างไร”

ต้าหวงอึกอักทันที “คราวหน้ารับรองว่าจะไม่ทำอีกแล้ว!”

ทว่าการเคลื่อนไหวเช่นนี้ยังคงทำให้ผู้สืบทอดสำนักโบราณจรัสเทพที่เฝ้าระวังอยู่พื้นที่ใกล้เคียงตกใจ พากันเอ่ยปากถามขึ้น

“เป็นใต้เท้าท่านไหนเคลื่อนไหว”

นี่คือประตูภูเขาสถานที่สำคัญของสำนักโบราณจรัสเทพ ปกคลุมด้วยพลังผนึกและด่านตรวจที่เรียกได้ว่าถี่ยิบ ในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมานี้ไม่เคยมีศัตรูใดกล้าเข้ามารุกราน

ฉะนั้นเมื่อสัมผัสถึงการเคลื่อนไหวแปลกๆ ปฏิกิริยาแรกของผู้สืบทอดสำนักโบราณจรัสเทพเหล่านั้นกลับไม่ใช่แตกตื่น แต่เป็นสงสัย

“ข้าจะเคลื่อนไหว ยังต้องรายงานพวกเจ้าด้วยหรือ”

ก็เห็นรูปร่างหน้าตาหลินสวินเปลี่ยนไปเงียบๆ กลายสภาพเป็นระดับจักรพรรดิคนหนึ่งที่ถูกจับตัว แม้แต่เสียงก็ยังเหมือนตัวจริง เผยอานุภาพสูงส่ง

“ที่แท้เป็นผู้อาวุโสชิงฉวีนี่เอง พวกข้าไม่ทราบต้องขออภัยด้วย!” ผู้สืบทอดสำนักโบราณจรัสเทพที่เร่งเข้ามาเหล่านั้น เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาหลินสวินก็เผยท่าทีเคารพนบนอบทันที

“ถอยไปเถอะ” หลินสวินโบกมือแล้วออกไปอย่างผ่าเผย

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่เห็นพิรุธใดๆ

จนกระทั่งกลับมาถึงหน้ากระบวนค่ายกลมรรคสิ้นฟ้าอาสัญที่เสี่ยวอู่วางไว้ หลินสวินและต้าหวงต่างปล่อยเชลยที่ถูกจับออกมา

โดยต้าหวงลงมือไต่สวนด้วยตัวเอง ไม่ทันไรก็ได้ข้อมูลบางส่วนจากปากพวกชื่อเหิง เฟยหลิงสี่คน

“ยังคิดจะใช้วิธีทำลายหอวิหคทองแดงมาบีบให้เจ้าปรากฏตัวที่นี่ วิธีการของบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงนี่ช่างเหี้ยมจริงๆ!”

ต้าหวงสายตาเย็นเยียบ “เจ้าหนู เจ้าว่าต่อไปพวกเราควรทำอย่างไร”

หลินสวินครุ่นคิดครู่หนึ่ง กล่าวว่า “เฝ้ารอต่อไป อีกอย่าง จะส่งข่าวไปให้แดนกษิติครรภ์ด้วยก็ได้ ทำตามที่บรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงบอก ทำให้พวกเขาส่งคนระดับบรรพจารย์จักรพรรดิบางส่วนมาได้จะดีที่สุด”

“ได้!”

ต้าหวงสายตาทอประกาย

โจมตีสำนักโบราณจรัสเทพครั้งนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรต้องสะเทือนแดนกษิติครรภ์ทันทีแน่นอน และจะทำให้อีกฝ่ายเริ่มระวังรอบด้านอีกด้วย

แต่หากอาศัยโอกาสนี้ล่อคนใหญ่คนโตบางส่วนของแดนกษิติครรภ์มาสำนักโบราณจรัสเทพได้ ก็สามารถกำจัดไปพร้อมกันได้!

“ต้าหวงเจ้ามาจัดการเรื่องนี้ จำไว้อย่าเผยฐานะเด็ดขาด”

หลินสวินกล่าวกำชับ

ต้าหวงตอบรับว่องไวและเริ่มเคลื่อนไหวในคืนวันนั้น

เวลาเคลื่อนคล้อย สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในสองวันนี้การต่อสู้ที่เกิดขึ้นบนยอดเขาหุบเหวโลหิตแพร่สะพัดไปทั่วทุกมุมในโลกมืดนานแล้ว เรียกความโกลาหลครั้งใหญ่!

ตั้งแต่หอวิหคทองแดงเสื่อมโทรม สำนักโบราณจรัสเทพและแดนกษิติครรภ์ก็ดุจดั่งนายเหนือหัวสูงสุด อานุภาพปิดคลุมทั่วโลกมืด

ทว่าการต่อสู้บนเขาหุบเหวโลหิตก็เหมือนฟ้าถูกเจาะขาดเป็นรู ทำให้ทั่วหล้าสั่นสะเทือน!

จักรพรรดิเต้ายวน!

ต้าหวงกล่าว “หากข้าลงมือแค่คนเดียว เกรงว่าคงเอาลาหัวโล้นสามคนไม่อยู่…”

“ให้ซีไปกับเจ้าด้วย” หลินสวินกล่าวตัดบท

ต้าหวงอ้าปากหัวเราะขึ้นมาทันที ใช้กรงเล็บตบหน้าขาหนึ่งฉาด “งั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว!”

“ดี เอาแบบนี้แหละ”

หลินสวินทำการตัดสินใจ

จากนั้น ต้าหวงและซีก็ออกไปพร้อมกันเงียบๆ

สำนักโบราณจรัสเทพ

“เหตุใดผ่านไปสองวันแล้วยังไม่เห็นพวกชื่อเหิง เฟยหลิงสองคนส่งข่าวกลับมาเลย” ภายในโถงใหญ่สำนัก บรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงที่เหมือนเด็กหนุ่มก็ขมวดคิ้วเอ่ยปากขึ้น

ภายในโถงใหญ่ คนใหญ่คนโตทั้งกลุ่มสบตากัน ล้วนสงสัยกันเป็นแถบเช่นกัน

มีคนกล่าวครุ่นคิด “บางที ผู้อาวุโสสองคนล้วนกำลังยุ่งกับเรื่องจัดการหอวิหคทองแดงเต็มกำลังอยู่กระมัง”

“แต่ตอนนี้ ก็ไม่มีข่าวว่าจะจัดการหอวิหคทองแดงส่งกลับมาเหมือนกัน”

บรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงสายตาเย็นเยียบ “ส่งคนไปสืบทีว่าเรื่องนี้เป็นมาอย่างไรกันแน่”

จากนั้นก็มีคนรับคำสั่งออกไปทันที

บรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงกล่าวต่อไปว่า “หากไม่ผิดคาด วันนี้บรรพจารย์จักรพรรดิสามคนอย่างต้าซวี คูหมิง ตู้เฉินจากแดนกษิติครรภ์ก็จะมาถึง เมื่อเป็นเช่นนี้ การจัดการหลินเต้ายวนนั่นก็ยิ่งลอยลำกว่าเดิม”

กล่าวถึงตอนท้าย เขาก็อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้

เหล่าคนใหญ่คนโตในที่นี้ต่างก็ฮึกเหิมกันใหญ่

บรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงก็หัวเราะเช่นกัน แต่ในใจเขารู้ดียิ่งว่าปัญหาเดียวในตอนนี้ก็คือหลังจากได้รู้ข่าวเหล่านี้ หลินเต้ายวนนี่จะมาหรือไม่มากันแน่!

และนี่ก็หมายความว่าต่อให้พวกเขาเตรียมพร้อมเสร็จสรรพ แต่ตราบใดที่ศัตรูไม่มา การเตรียมพร้อมทั้งหมดนี้ล้วนจะไหลหายไปตามกระแสน้ำเช่นกัน

จนกระทั่งยามดึกสงัด บรรพจารย์จักรพรรดิจากแดนกษิติครรภ์สามคนอย่างต้าซวี คูหมิง ตู้เฉิน ถึงกับยังมาไม่ถึงสำนักโบราณจรัสเทพ

นี่ทำให้พวกบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงที่รอคอยมาตลอดล้วนอดขมวดคิ้วไม่ได้ สามบรรพจารย์จักรพรรดิปรากฏตัวพร้อมกัน อิงจากความเร็วของพวกเขา น่าจะมาถึงนานแล้ว

หรือว่าจะเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรระหว่างทาง

เวลาเคลื่อนคล้อยทีละนิด เมื่อแสงรุ่งอรุณพรากสีราตรี เช้าวันใหม่มาเยือน หว่างคิ้วของพวกบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงก็เผยแววอึมครึม

ในใจพวกเขาล้วนผุดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น

ดังคาด ในวันนั้นข่าวร้ายข่าวหนึ่งส่งเข้ามา…

สามบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างต้าซวี คูหมิง ตู้เฉิน ถูกดักสังหารระหว่างทางมุ่งหน้ามาสำนักโบราณจรัสเทพ ล้วนไม่รอดสักคน ร่วงหล่น ณ ที่นั้น!

……………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์