ตอนที่ 2316 พุทธรูปไร้หน้า
ลับจิตดั่งคม
คำสี่คำ แต่ละคำดุจกระบี่ บรรจุประกายคมไว้ภายใน เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองสุดขีด ไม่ได้โอ้อวด แต่เป็นความอหังการที่ซ่อนคมไว้สุดขีดอย่างหนึ่ง
เมื่อมองโดยละเอียดหลินสวินก็อดหรี่ตาลงเบาๆ ไม่ได้ ถึงกับมีความรู้สึกเหมือนถูกรอยอักษรนั้นทิ่มแทง
แต่เมื่อใช้สภาวะจิตสัมผัส อักษรสี่คำนี้กลับเหมือนดวงดาวซ่อนลึกใต้บาดาล ดั่งไข่มุกปิดผนึกในหีบ เผยให้เห็นความลึกล้ำห่างไกลที่ไม่อาจจับต้องสัมผัสได้
หลินสวินอดเผยสีหน้าแปลกไปไม่ได้
เพียงสี่คำสั้นๆ สิ่งที่เห็นตรงหน้า สิ่งที่ใจสัมผัส กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง นี่ทำให้เขาเหมือนมองเห็นจักรพรรดิกระบี่แห่งยุคท่ามกลางความคลุมเครือ อหังการกร้าวแกร่ง ดุดันมาดมั่น
แต่สภาวะจิตของเขากลับเบาสบายดั่งเมฆ ล่องลอยอิสระ ให้ความรู้สึกกว้างขวางไร้อุปสรรคไร้พันธนาการ
“นี่คือหินลับกระบี่ชิ้นหนึ่ง”
ซีกล่าวขึ้นจากข้างๆ “แค่มองอักษรบนนั้น ก็รู้ว่าเจ้าของของสิ่งนี้จะต้องมีความสำเร็จยิ่งใหญ่ไม่เป็นรองใครในด้านมรรคกระบี่อย่างแน่นอน และสภาวะจิตของเขาก็กว้างใหญ่อิสระ ล่องลอยไกลโพ้นไม่ถูกพันธนาการ เป็นดั่งเซียนกระบี่คนหนึ่ง”
ในน้ำเสียงเจือความตกตะลึงไว้ด้วยเล็กน้อย
หลินสวินเห็นด้วยอย่างยิ่ง
ลับจิตดั่งคม ก็คือการลับสภาวะจิตเหมือนกับลับคมกระบี่ของตน
หินลับกระบี่ที่สืบทอดต่อมาไม่รู้กี่กาลเวลาชิ้นหนึ่ง ยังคงคละคลุ้งด้วยท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์สะท้านยุคเช่นนี้ แค่คิดก็รู้ว่าเจ้าของเหนือธรรมดาปานใด
แต่ว่ากันถึงแก่น อย่างไรนี่ก็เป็นหินลับกระบี่ชิ้นหนึ่ง นอกจากตัววัสดุที่พิเศษและยากพบเห็นยิ่ง ก็ไม่มีจุดพิเศษอื่นใดอีก
หลินสวินครุ่นคิดเล็กน้อย สุดท้ายก็ยังเก็บของชิ้นนี้เอาไว้ ลับจิตดั่งคม สี่คำนี้ทำให้เขามีความรู้สึกร่วมอยู่ลึกๆ ราวกับได้พบเพื่อนรู้ใจบนมหามรรคผ่านช่วงเวลาหมื่นกาล
ยินดียิ่งยวด
ซีคัดเลือกสมบัติบางส่วนขึ้นมาอีกเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่สนใจทรัพย์สมบัติที่เรียกได้ว่าละลานตานี้อีก
แม้สมบัติจะมีมากมาย แต่ก็ต้องเข้าตาด้วย
หลินสวินก็คัดสรรอย่างถี่ถ้วนเนิ่นนานเช่นกัน และเก็บเจตวัตถุ ลูกกลอนโอสถ ตำราโบราณที่เป็นประโยชน์ต่อการฝึกปราณของตนเอาไว้ส่วนหนึ่ง
จากนั้นรวบรวมสมบัติจักรพรรดิส่วนหนึ่งไว้เป็นอาหารให้กับพวกอู้เชวีย เย่จื่อ
เสี่ยวอู่ ต้าหวงต่างก็คัดเลือกสมบัติของตัวเอง ล้วนได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน
อย่างไรเสียนี่ก็เป็นทรัพย์สมบัติที่สำนักโบราณจรัสเทพสั่งสมมานานปี อย่าว่าแต่ผู้ฝึกปราณทั่วไปเลย แม้แต่ระดับจักรพรรดิเห็นเข้าก็ต้องบ้าคลั่งเพราะมันเป็นแน่
สุดท้ายหลินสวินก็เก็บทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไว้ทั้งหมด ตั้งใจจะมอบให้ชิงอิง ให้นางเป็นคนนำไปให้ผู้สืบทอดของหอวิหคทองแดง
หลังจากหยุดพักในประตูภูเขาสำนักโบราณจรัสเทพอีกหนึ่งวัน หลินสวินก็ตัดสินใจให้ต้าหวงอยู่จัดการปัญหาที่นี่ต่อ ส่วนเขาและซีล่วงหน้าไปสืบสถานการณ์ที่แดนกษิติครรภ์ด้วยกันก่อน
ในสำนักโบราณจรัสเทพมีผู้สืบทอดที่ถูกกำราบอยู่มาก พวกตัวเล็กตัวน้อยเหล่านี้พวกหลินสวินคร้านจะไปสังหาร ตั้งใจจะมอบให้หอวิหคทองแดงจัดการ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องผลพวงที่ตามมามากมาย ล้วนต้องให้หอวิหคทองแดงมาช่วยจัดการ
ถึงอย่างไรเมื่อยักษ์ใหญ่อย่างสำนักโบราณจรัสเทพล่มสลาย ขุมอำนาจ สมบัติ อาณาเขตที่เหลืออยู่… แต่ละเรื่องล้วนนับไม่หวาดไม่ไหว ยิบย่อยเป็นที่สุด
หลินสวินไม่มีแก่ใจจัดการเรื่องพวกนี้อีก
ที่ให้ต้าหวงอยู่ต่อก็เพราะจะให้มันและผู้แข็งแกร่งหอวิหคทองแดงรับช่วง จัดแจงกำลังคนไปกลืนกินและย่อยสลาย ‘มรดก’ ที่สำนักโบราณจรัสเทพเหลือทิ้งไว้
…
สองวันให้หลัง
แคว้นผลาญเมฆา
ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว แคว้นผลาญเมฆาคืออาณาเขตที่ควบคุมโดยแดนกษิติครรภ์ ที่นี่เป็นเหมือนแคว้นบำเพ็ญธรรมแห่งหนึ่ง ทุกแห่งหนล้วนมีแต่นักบวชโกนผม ผู้ฝึกปราณสวมจีวรสีดำ
ทว่าหลายวันมานี้ เมื่อข่าวสำนักโบราณจรัสเทพล่มสลายแพร่ออกมา แคว้นผลาญเมฆาก็ตกอยู่ในความโกลาหลครั้งใหญ่เช่นกัน ผู้ฝึกปราณที่อยู่ใต้อาณัติแดนกษิติครรภ์นับไม่ถ้วนล้วนเผ่นหนี เป็นผลให้อาณาเขตกว้างใหญ่แห่งนี้กลายสภาพเป็นหมองมัว ทุกแห่งหนล้วนวังเวงเย็นเยือก
“ดูท่าแดนกษิติครรภ์ต้องตระหนักถึงความร้ายแรง หดหัวเข้ากระดองเหมือนที่โลกภายนอกลือกันแล้วเป็นแน่”
เงาร่างของหลินสวินและซีปรากฏบนแคว้นผลาญเมฆา ตลอดทางนอกจากเห็นพวกตัวเล็กๆ หลบหนีกันแล้ว แม้แต่ผู้สืบทอดแดนกษิติครรภ์ที่พอเข้าตาก็ยังไม่เห็นสักคน
“ด้วยพลังของเจ้าและข้า หากบุกเข้าแดนกษิติครรภ์ ขอเพียงไม่เกิดอันตรายที่ไม่อาจคาดเดา การโค่นล้มขุมอำนาจนี้ก็น่าจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่”
ซีกล่าวสบายๆ
ลองนับนิ้วคำนวณดู ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิที่ร่วงหล่นในตอนนี้ของแดนกษิติครรภ์มีมากถึงสี่คนแล้ว ระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ ที่ถูกสังหารก็เกิดแปดคนแล้วเช่นกัน
และจากข้อมูลที่นางและหลินสวินมีอยู่ ในแดนกษิติครรภ์ตอนนี้น่าจะเหลือระดับบรรพจารย์จักรพรรดิแค่คนเดียว
ส่วนจักรพรรดิธรรมซวีเฟิงเจ้าสำนักแดนกษิติครรภ์ ก็แค่ระดับจักรพรรดิขั้นแปดปลายยอดเหมือนกับอวี้คุนจื่อแห่งสำนักโบราณจรัสเทพ
นัยน์ตาดำของหลินสวินลุ่มลึก กล่าวราบเรียบ “ลองหยั่งเชิงสถานการณ์ดูก่อน แค้นนี้ก็ต้องยุติเช่นกัน”
เขาไม่มีวันลืม ว่าก่อนหน้านี้ยามอยู่ดินแดนรกร้างโบราณก็เคยถูกแดนกษิติครรภ์มองเป็น ‘มารนอกรีต’ จับจ้องเล่นงานและกดหัวบ่อยครั้ง
ความแค้นระหว่างทั้งสองฝ่ายไม่อาจสลายได้แต่ต้น และถึงคราวต้องยุติลงแล้ว!
เขาศักดิ์สิทธิ์ดารา
ทางเข้าที่เชื่อมสู่แดนกษิติครรภ์ และถูกมองเป็น ‘เขาศักดิ์สิทธิ์’ ของแดนกษิติครรภ์ ในกาลเวลาที่ผ่านมา ประดุจแดนพิสุทธิ์สูงสุดที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธานับไม่ถ้วนมุ่งหน้ามาสักการะ
เวลาหนึ่งถ้วยชาให้หลัง
เงาร่างของหลินสวินและซีปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาศักดิ์สิทธิ์ดารา เงยมองไปไกลๆ ก็เห็นเขาลูกนี้รูปร่างคล้ายดอกบัวใหญ่เบ่งบาน ค้ำยันเวิ้งฟ้า สูงตระหง่านมโหฬาร ตระการตาสุดขีด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์