Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2317

ตอนที่ 2317 เทพแห่งศรัทธา

หลินสวินตอบด้วยตัวเองโดยไม่รอให้ซีถาม “ช่วงชิงแรงปรารถนามหามรรค!”

ซีนัยน์ตาหดรัด คล้ายรับรู้ถึงความร้ายแรงของปัญหา

ในโลกมืด แดนกษิติครรภ์หยั่งรากอยู่ที่นี่มานานปี และในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมก็มีเมืองมากมายนับไม่ถ้วน ในทุกเมืองจะมีการสร้างอารามเทพกษิติครรภ์

หากเพื่อสะสมแรงปรารถนามหามรรค การสะสมในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมานี้… แรงปรารถนามหามรรคที่แดนกษิติครรภ์สะสมไว้จะมากแค่ไหน

และจุดประสงค์ในการรวบรวมแรงปรารถนามหามรรคมากมายขนาดนี้มีไว้เพื่ออะไรกันแน่

“แรงปรารถนามหามรรคแบ่งเป็นสองประเภท หนึ่งคือตั้งปณิธานมหามรรคบนมรรคาของตน พิสูจน์หมื่นมรรคทั่วหล้า เปิดมรรคาสายใหม่ ไม่ก็เป็นการสร้างวิชที่ไม่เคยมีมาก่อนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แรงปรารถนามหามรรคเช่นนี้คนอื่นไม่อาจช่วงชิงไปได้”

ซีเอ่ยเนิบๆ ว่า “อีกประเภทคือแรงปรารถนาสรรพชีวิต ได้รับการกราบไหว้ศรัทธาจากสรรพชีวิต ก็จะได้รับพรแห่งพลังสรรพชีวิตไม่มีสิ้นสุด และได้ครอบครองพลังมหาศาลบนมรรคา ถึงขั้นสามารถสร้างกายทองกุศล ไม่เสื่อมไม่ดับ คงอยู่นิรันดร์”

“จากที่ข้าดู แรงปรารถนามหามรรคที่แดนกษิติครรภ์รวบรวม เกรงจะเป็นเพื่อสร้างกายทองกุศลของผู้มากสามารถคนหนึ่ง”

“เมื่อมีกายทองกุศลก็เหมือนดั่งเทพแห่งศรัทธาของสรรพชีวิต ขอเพียงสรรพชีวิตยังอยู่ คนแห่งศรัทธาผู้นี้ก็จะไม่เสื่อมไม่ดับ”

ได้ยินดังนี้หลินสวินก็อึ้งไป เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องกายทองกุศล เทพแห่งศรัทธานี้

“ฟังแล้วคล้ายเป็นวิธีหลอมที่เร้นลับอย่างหนึ่ง แต่ในสายตาระดับบรรพจารย์จักรพรรดิที่แท้จริง มรรคาแห่ง ‘เทพ’ ที่สร้างมาจากแรงปรารถนาสรรพชีวิตเช่นนี้ ก็คือทางสายมารนอกลู่นอกทางสายหนึ่ง”

ซีอธิบายรอบหนึ่ง

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิหมายจะทะลวงระดับของตน มุ่งไปยังมรรควิถีที่สูงยิ่งขึ้นมีแค่สองวิธี

หนึ่งคือมุ่งหน้าไปโลกฟากฝั่ง แสวงหาและแจ้งพลังมหามรรคใหม่

อีกหนึ่งคือการรวบรวมแรงปรารถนาสรรพชีวิต ใช้พลังแห่งศรัทธาทำให้มรรถวิถีของตนเกิดการเปลี่ยนแปลง และก้าวออกไปนอกธรณีประตูระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ

แต่วิธีที่สองนี้กลับมีข้อเสียยิ่งยวด

ใช้พลังแห่งสรรพชีวิตเพื่อทะลวงระดับ ก็ต้องถูกสรรพชีวิตพันธนาการ!

นี่ก็หมายความว่า ต่อให้มรรควิถีของตนทะลวงระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ ก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ประหนึ่งเป็นเทพแห่งจิตใจสรรพชีวิต ครอบครองพลังที่ยากจะจินตนาการ ไม่เสื่อมไม่ดับ คงอยู่นิรันดร์

แต่พร้อมกันนั้นมรรคาทั้งชีวิตก็จะหยุดลงที่ตรงนี้ สรรพชีวิตคงอยู่ตลอดไป มรรคาก็จะไม่มีวันได้ทะลวงออกไปอีก!

กล่าวถึงตรงนี้เสียงของซีเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ “ที่บอกว่ามรรคาเส้นนี้เป็นสายมารนอกลู่นอกทางก็อยู่ที่ว่า ขอเพียงเป็นพวกที่ทะลวงระดับจากการยืมแรงปรารถนาสรรพชีวิต มักจะใช้เจตจำนงแห่งตนแทนเจตจำนงสรรพชีวิต ใช้ความดีชั่วของตนเป็นดั่งความดีชั่วของสรรพชีวิต! ความเป็นตายของสรรพชีวิตล้วนอยู่ภายใต้ความคิดเดียวของคนผู้นี้!”

“นี่ไม่ต่างอะไรกับสรรพชีวิตกลายเป็นทาสเลยไม่ใช่หรือ” หลินสวินหนาวสะท้านในใจ

ซีกล่าว “ที่น่ากลัวที่สุดคือ เจ้าต่อกรกับคนที่มีกายทองกุศล ก็เท่ากับต่อกรกับสรรพชีวิต ถูกพันชีวิตชี้หน้า หมื่นชีวิตด่าทอ ต่อให้ร่างตายไปก็จะทิ้งชื่อเสียงฉาวโฉ่เอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ถูกหัวเราะเยาะด่าว่าทุกยุคทุกสมัย”

“และหากเจ้าฆ่า ‘เทพ’ เช่นนั้นตาย ก็เท่ากับฆ่าดวงใจแห่งสรรพชีวิต!”

“ดังนั้นถึงได้พูดว่านี่เป็นทางสายมาร”

ฟังจบหลินสวินอึ้งงันอย่างอดไม่ได้ ในใจหนาวเยือก การฝึกมรรคาเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนจริงๆ

หากแดนกษิติครรภ์รวบรวมแรงปรารถนาสรรพชีวิตเพื่อเทพแห่งศรัทธา แค่คิดก็รู้ว่าขอเพียง ‘เทพ’ เช่นนี้ปรากฏตัวจริงๆ นั่นจะพาให้คนหวาดหวั่นยิ่งยวด

“แต่เจ้าก็ไม่ต้องกังวลเกินไป ทางสายมารนี้ไม่ใช่จะเดินได้ง่ายๆ ปานนั้น ขอเพียงเกิดข้อผิดพลาดเล็กๆ ก็จะถูกพลังแห่งสรรพชีวิตย้อนกลับ กลายเป็นภัยแห่งการร่วงหล่นมรรคสลาย”

ซีเอ่ย “อย่างน้อยจากที่ข้ารู้ หมื่นมรรคทั่วหล้านี้ต่างมีการเคี่ยวกรำมรรคาเป็นของ สืบต่อยืนยาว มีเพียงทางมารสายนี้ที่ขอเพียงปรากฏขึ้นก็จะถูกทำลาย อย่างไรสรรพชีวิตทั่วหล้า ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วน ล้วนไม่ยินยอมให้เจตจำนงและความปรารถนาของตนถูกผู้อื่นควบคุมเหมือนกลายเป็นทาส เป็นตายไม่ขึ้นอยู่กับตน”

หลินสวินพยักหน้าน้อยๆ

เขาพอเข้าใจแล้ว แดนกษิติครรภ์กล้ารวบรวมแรงปรารถนาสรรพชีวิตอย่างเปิดเผยเช่นนี้ หนึ่งเพราะที่นี่คือโลกมืด ไร้ซึ่งระเบียบ

สองก็เพราะการคงอยู่ของแรงปรารถนาสรรพชีวิตมีประโยชน์อัศจรรย์มากมาย ในโลกนี้ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่ถึงขั้นเคยสักการะแรงปรารถนาสรรพชีวิตยามอยู่ระดับอริยะ

อย่างระฆังมหามรรคไร้กฎ ก็เคยสั่งสมแรงปรารถนาสรรพชีวิตที่น่ากลัวหาใดเปรียบ

หรืออย่าง ‘ประทับแห่งสรรพชีวิต’ ที่กายมรรคดินเหลืองของหลินสวินครอบครอง ก็เป็นการควบคุมแรงปรารถนาสรรพชีวิตอย่างหนึ่งเช่นกัน

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เกรงว่าทั่วหล้าทั้งบนล่างคงไม่มีใครเชื่อ ว่าแดนกษิติครรภ์กล้าเหยียบย่างบนทางสายมารนี้ที่คนทั่วหล้ามองว่าผิดมหันต์นี้

“ถ้าไม่กำจัดแดนกษิติครรภ์นี่ คงได้เป็นภัยร้ายแน่ๆ”

เสียงหลินสวินราบเรียบ ตั้งแต่ก่อนหน้านี้นานมากแล้ว เขาก็มีอคติและการต่อต้านตามสัญชาติญาณอย่างหนึ่งกับแดนกษิติครรภ์ กระทั่งตอนนี้ก็ยิ่งชิงชังและมองเป็นศัตรู

ว่าแล้วเขาก็ยื่นมือออกไปข้างหนึ่ง

ใต้เท้าของพุทธรูปบนแท่นบูชาปรากฏปากทางหนึ่ง แสงประกายพร่างพรม

ถ้าหมายเข้าไปภายใน ก็เหมือนมุดเข้าไปจากใต้เท้าพุทธรูปองค์นี้ ประหนึ่งกราบไหว้นอบน้อม

ซีส่งเสียงหยัน สะบัดมือออกไปลวกๆ

แสงมรรคพร่างพราวบาดตาม้วนพัดออกมา

ท่ามกลางเสียงอึงอล พุทธรูปไร้หน้าที่ไม่รู้ตั้งอยู่ที่นี่มากี่ปีแล้วพลันกลายเป็นธุลี พัดหายไปตามลม

ซีกับหลนสวินถึงค่อยเข้าไปในยามนี้

ปากทางถึงปลายทางล้วนเป็นแดนกษิติครรภ์

แดนลับที่ราวกับแคว้นพุทธแดนพิสุทธิ์แห่งหนึ่งลอยแผ่วพลิ้ว ท่ามกลางภูผาธารามีแสงธรรมสีดำไหลวน ทุกที่ล้วนมองเห็นวัดอรามที่เคร่งครัดเก่าแก่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์