ตอนที่ 2318 ฝีปากดี
แสงธรรมสีดำเหมือนม่านแห่งราตรีนิรันดร์ปกคลุมท้องฟ้า
บนยอดเขา พวกจักรพรรดิธรรมซวีเฟิงยืนสูงอย่างเคร่งขรึมและสงบนิ่ง ปราศจากความตื่นตระหนก แตกตื่น หรือแม้แต่อารมณ์แปรปรวน
ไกลออกไปหลินสวินและซีหยุดเท้าลง ยามมองเห็นภาพนี้ต่างสบตากัน ในใจครัดเคร่งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
บรรยากาศแบบนี้ทำให้คนรู้สึกแปลกมาก ราวกับกำลังรอความตาย
“แค่พวกเจ้าหรือ ถ้าข้าคนแซ่หลินจำไม่ผิด น่าจะมีพวกระดับบรรพจารย์จักรพรรดิที่ยังไม่ตายกระมัง”
หลินสวินเปิดปาก น้ำเสียงเฉยเมยกึกก้องทั่วฟ้า
เสื้อคลุมของเขาพลิ้วไหว ผมยาวแผ่สยาย เผยแววอหังการอย่างหนึ่ง
“พวกนี้ล้วนไม่สำคัญแล้ว”
จักรพรรดิธรรมซวีเฟิงมองไปยังหลินสวิน “หลินเต้ายวน เจ้าไม่สงสัยเลยหรือว่าเหตุใดตั้งแต่สมัยก่อนเจ้าก็ถูกแดนกษิติครรภ์ของข้ามองเป็นคนนอกรีต”
ดวงตาหลินสวินวาบประกาย “เพราะ ‘คัมภีร์มหาครรภ์จุติ’ ที่อริยสงฆ์ตู้จี้และนางพญาหงส์ทมิฬสร้างขึ้นกระมัง”
จักรพรรดิธรรมซวีเฟิงส่ายหัว “อาจารย์อาตู้จี้มากสามารถอย่างน่าประหลาด ทุ่มเทพยายามหมดใจ ในที่สุดก็สร้างคัมภีร์มรรคที่ไม่เคยมีมาก่อนได้สำเร็จ แม้ว่าเขาจะทรยศแดนกษิติครรภ์ แต่ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจ้าที่ถูกมองว่าเป็นคนนอกรีต”
“เช่นนั้นเพราะเหตุใด” หลินสวินเลิกคิ้ว
จักรพรรดิธรรมซวีเฟิงยิ้ม แม้ว่าจะเป็นรอยยิ้ม แต่กลับเจือความเฉยเมยอย่างหนึ่ง “เพราะเจ้าคือหายนะที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้ ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ใดในมรรคา ล้วนชักนำให้เกิดหายนะท่วมฟ้า”
“ถ้าไม่กำจัดเจ้า ในอนาคตทางเดินโบราณฟ้าดารานี้จะต้องถูกเจ้านำพาความพินาศที่ยากจะคาดถึงมาให้แน่นอน”
หลินสวินหยุดขำ “เจ้าตัดสินจากอะไร”
ในดวงตาของจักรพรรดิธรรมซวีเฟิงวาบแววประหลาด “ไม่ว่าจะเป็นศึกมรรคสิบทิศในสมัยดึกดำบรรพ์ หรือศึกมรรคของเหล่าจักรพรรดิในสมัยบรรพกาลล้วนแยกจากเจ้าไม่ได้ ยังมีพลังระเบียบต้องห้ามที่ปกคลุมฟ้าดาราทั่วนั่น เหตุใดถึงปรากฏขึ้น เจ้า… คงไม่ใช่ไม่รู้กระมัง”
หลินสวินขมวดคิ้ว เอ่ยเยาะหยัน “ข้าคนแซ่หลินจนถึงตอนนี้อายุไม่กี่ร้อยปีเท่านั้น เรื่องในสมัยบรรกาล ดึกดำบรรพ์ เจ้าดันเอาทั้งหมดผูกไว้บนหัวข้า ไม่รู้สึกว่าน่าอายบ้างหรือ”
จักรพรรดิธรรมซวีเฟิงด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก “คนที่ปลุกพรสวรรค์หุบเหวกลืนกินได้ ไม่ได้มีเจ้าคนเดียว แต่กลับมีเจ้าคนเดียวที่รับช่วงต่อห้องโถงมรรคาสวรรค์ที่เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์เหลือทิ้งไว้ นี่ก็คือรากเหง้าของภัยพิบัติ”
“แม่ของเจ้าลั่วชิงสวิน ลุงของเจ้าลั่วชิงเหอ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นทายาทของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ และล้วนปลุกพรสวรรค์หุบเหวกลืนกินสำเร็จ แต่พวกเขาไม่ได้รับการยอมรับจากห้องโถงมรรคาสวรรค์”
“ถ้าไม่ใช่เพราะเหตุนี้ เจ้าคิดว่าตระกูลลั่วซึ่งเป็นถึงเผ่าอมตะ จะสิ้นเปลืองเวลามาเนิ่นนานเพื่อปิดผนึกทางเดินโบราณฟ้าดาราแห่งนี้หรือ”
จักรพรรดิธรรมซวีเฟิงกล่าวเช่นนี้ และจับจ้องไปที่หลินสวิน “ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ เป็นเพราะการมีอยู่ของเจ้า ถึงทำให้ทั่วหล้าฟ้าดาราเกิดเภทภัยต่างๆ นานา!”
แววตาหลินสวินราบเรียบ สภาวะจิตไร้คลื่นลม กล่าวว่า “คนต่างพูดกันว่าพวกผู้บำเพ็ญธรรมล้วนมีฝีปากดี โต้เถียงไร้คนเทียบ วันนี้ข้าคนแซ่หลินนับว่าได้ประสบแล้ว”
มีใจอยากเพิ่มโทษ ไม่ว่าความผิดใดล้วนลากเข้ามาได้
จักรพรรดิธรรมซวีเฟิงถึงกับยกเอาเภทภัยสารพัดตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์มาโยนใส่หัวเขา นี่มันไร้ซึ่งเหตุผล ใส่น้ายป้ายสีชัดๆ
“ข้าเพียงแค่อธิบายข้อเท็จจริงเท่านั้น”
จักรพรรดิธรรมซวีเฟิงยังคงสงบมากดังเดิม “ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสเก้าของตระกูลลั่วที่ถูกขนามนามว่าจอมจักรพรรดิไร้นาม หรือผู้อาวุโสหกของตระกูลลั่วที่ถูกเรียกว่าจักรพรรดิสวรรค์ดำรง พวกเขาล้วนมาที่นี่เพื่อจับภัยพิบัติเช่นเจ้า”
หลินสวินรู้สึกเพียงว่าลาหัวโล้นเฒ่าผู้นี้มีความสามารถนัก ไม่ว่าเหตุผลมั่วซั่วอะไรล้วนสามารถลากมาใส่หัวตนได้ทั้งหมด
“ทำไมเจ้าไม่พูด ว่าตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งต่างหากที่เป็นผู้ชักนำภัยพิบัติรุนแรงที่สุดมากมายมาให้ทั่วหล้าฟ้าดารา” หลินสวินกล่าวอย่างเย็นชา
ในใจเขามไอสังหารพวยพุ่ง เหตุผลที่แดนกษิติครรภ์มองว่าตนเป็นพวกนอกรีตช่างไร้สาระและประหลาดถึงเพียงนี้ ใครที่ได้รู้ล้วนต้องโกรธทั้งนั้น
จักรพรรดิธรรมซวีเฟิงเอ่ยด้วยท่าทางสมเหตุสมผล “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า คนจากตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งก็ไม่ต้องมายังฟ้าดารานี้”
“ได้ ข้านับว่าเข้าใจแล้ว หลายปีมานี้พวกเจ้าคงคุ้นเคยกับการเป็นสุนัขของตระกูลลั่วอีกฟากฝั่งมาตลอด ทมุกคำพูดล้วนต้องเลียแข้งขาเจ้านาย นี่ก็เข้าใจได้”
หลินสวินคร้านจะฟังอีกต่อไป
ซีซึ่งอยู่ด้านข้างกล่าวเสียงใสเย็น “เจ้าเฒ่าพวกนี้กำลังถ่วงเวลา รีบรบรีบจบ ฆ่าพวกเขาก่อนค่อยไปหาบรรพจารย์จักรพรรดิเนี่ยจิ้น”
บรรพจารย์จักรพรรดิเนี่ยจิ้นก็คือระดับบรรพจารย์จักรพรรดิเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในแดนกษิติครรภ์ แต่เขาไม่ได้ปรากฏตัวอยู่ข้างกายจักรพรรดิธรรมซวีเฟิงในยามนี้
นี่ก็ผิดปกติมาก
“ได้”
หลินสวินพยักหน้า
“มารนอกรีต หรือเจ้าจะ…” จักรพรรดิธรรมซวีเฟิงเอ่ยปากยังหมายพูดอะไรบางอย่าง
ฟุบ!
ก็เห็นว่าซีลงมือแล้ว ในฝ่ามือพลันมีประกายแสงระเบียบกลุ่มหนึ่งอุบัติขึ้น แปลงเป็นทวนศึกเล่มหนึ่งแล้วชูมือขึ้นโบก
ประกายคมไร้ใดเทีบสายหนึ่งแหวกอากาศ เข้าฟันโจมตี
“ลงมือ!”
นัยน์ตาของจักรพรรดิธรรมซวีเฟิงหดรัด เรียกประคำสีดำเส้นหนึ่งออกมา เสียงวู้มดังขึ้น ชัดนำพลังระเบียบต้องห้ามทั่วฟ้าเข้ามา
เห็นได้ชัดว่าประคำสีดำนี้เหมือนกับ ‘บรรทัดหยกนำมรรค’ ที่อยู่ในมือของบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงแห่งสำนักโบราณจรัสเทพ สามารถยืมพลังของระเบียบต้องห้ามที่ปกคลุมทั่วหล้าฟ้าดารานั้นมาใช้ได้
น่าเสียดาย ตอนนั้นบรรพจารย์จักรพรรดิอวี่ฉงที่ยืมใช้พลังนี้ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของซี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิธรรมซวีเฟิงซึ่งมีพลังเพียงระดับจักรพรรดิขั้นแปดปลายยอดเท่านั้น
ทันใดนั้นเสียงระเบิดดังขึ้นกลางฟ้าดิน ท่ามกลางการปะทะของแสงระเบียบ ร่างของจักรพรรดิธรรมซวีเฟิงก็กระแทกออกไปอย่างแรง เลือดออกเจ็ดทวาร
ภูเขาเทพที่ตั้งตระหง่านมั่นคงลูกนั้นยังผ่าขาดท่อน พังทลายโดยพลัน นี่ยังเป็นเพราะมีพลังผนึกปกป้อง ไม่เช่นนั้นภูเขาลูกนี้คงราบเป็นหน้ากลองไปแล้ว!
“ขวางพวกเขาไว้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์