Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2342

ตอนที่ 2342 ในโลกมนุษย์จะได้พบสักกี่ครั้ง

ภูเขาเทพยุบตัว ผืนพสุธาสั่นคลอน

หมอกควันถาโถมแผ่กระจายประหนึ่งกระแสธาร ม้วนตลบไปทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

นั่นคือซากดวงกมล ดำรงอยู่หมื่นกาลจนถึงตอนนี้ แม้ถูกทำลายสำนักไป กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้พังพินาศลงโดยสมบูรณ์

ที่นี่เคยบันทึกความรุ่งโรจน์ของสำนักคีรีดวงกมล ประทับสิ่งละอันพันละน้อยในการฝึกปราณของผู้สืบทอดคีรีดวงกมลแต่ละคน

แต่ตอนนี้ต่างกลายเป็นกองเถ้าซากปรักตามการพังทลายของภูเขาเทพลูกนั้น

ดวงตาดำของหลินสวินลุ่มลึก แขนเสื้อไหวกระพือ ไฟโทสะคับฟ้าผุดขึ้นในใจ

หลิงเสวียนจื่อนี่ถึงกับวางแผนไว้ตั้งแต่เริ่มจนจบ!

ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนที่อยู่ไกลออกไปสั่นสะท้าน สีหน้าซีดเผือด หลายคนรับรู้ได้ว่าไม่สู้ดีแล้ว หลบหนีอย่างตื่นตระหนก ไม่กล้ารั้งอยู่ที่เดิมอีก

พวกเขาต่างสังหรณ์ใจ ว่าอีกเดี๋ยวเป็นไปได้สูงมากที่จะเกิดยอดศึกจักรพรรดิที่ไม่อาจประเมินได้ครั้งหนึ่ง!

ยามนี้ต่อให้ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นต่างสีหน้าเคร่งเครียด ถอยไปไกลยิ่ง พวกเขารู้ดีกว่าใครว่าการเปิดศึกระหว่างระดับจักรพรรดิ เพียงแค่อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาก็สามารถทำลายภูผาธาราแห่งนี้ได้!

ยิ่งไปกว่านั้นไม่ว่าจะเป็นหลิงเสวียนจื่อหรือหลินสวิน ยังไม่ใช่ระดับจักรพรรดิทั่วไปด้วย

ไม่มีใครยอมถูกลูกหลง และหากคิดจะดูการต่อสู้ ก็ทำได้เพียงหลบอยู่ไกลๆ

“หลิงเสวียนจื่อคนนี้เจ้าเล่ห์ยิ่งนัก ตั้งแต่เริ่มก็วางแผนใส่พี่ใหญ่!”

ในหุบเขาที่อยู่ไกลลิบ อาหลู่กราดเกรี้ยวเป็นที่สุด

สีหน้าอาหู เจ้าคางคก เจ้านกดำ เสี่ยวอิ๋นที่อยู่ใกล้กันต่างก็เปลี่ยนไป การเคลื่อนไหวข้างนอกเข้าหูพวกเขาทั้งหมด จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าการถกมรรคของหลินสวินกับหลิงเสวียนจื่อก่อนหน้านี้ถูกเอามาใช้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง!

ความจริงแล้วขนาดพวกเขายังไม่กล้าคาดคิด เพียงแค่การถกมรรคเท่านั้น หลิงเสวียนจื่อนั่นถึงกับหยั่งรู้นัยเร้นลับมรรคาของหลินสวินได้ เรื่องนี้น่ากลัวยิ่งนักอย่างไม่ต้องสงสัย ทำให้ทุกคนใจสะท้าน

ฝุ่นควันอบอวล ในซากดวงกมลที่เหมือนซากปรักหักพังเผยเงาร่างหนึ่งออกมา

เขาแต่งกายสีเขียวทั้งชุด รูปลักษณ์เป็นเด็กหนุ่มหล่อเหลา ผมดำรวบอยู่ที่ท้ายทอยลวกๆ มุมปากยกยิ้มจางๆ รูปงามดั่งหยก แจ่มใสเป็นอิสระ

ไม่ว่าใครได้เห็นก็ตาเป็นประกายอย่างอดไม่ได้ เป็นเด็กหนุ่มโสภาสง่างามนักคนหนึ่ง!

เขายืดตัวบิดขี้เกียจ สองมือกางออก หรี่ตาเงยหน้าขึ้นมองเวิ้งฟ้า สีหน้ามีแต่ความโลภและลุ่มหลง

การกำราบไม่รู้กี่ปี

ความมืดมิดและกดข่มไม่รู้กี่ปี

ในที่สุดตอนนี้

ก็ได้เห็นฟ้าตะวันอีกครั้งหนึ่ง!

ตูม!

ฟ้าดินสั่นคลอน เมฆสิบทิศถล่มลง กระแสมหามรรคทั้งปวงประหนึ่งน้ำล้นเขื่อนเทตัวลงมาจากฟ้า ผุดเข้าไปในร่างเด็กหนุ่มชุดเขียวผู้นั้นอย่างบ้าคลั่ง

มองเห็นด้วยตาเปล่าว่าอานุภาพทั้งตัวเขาเพิ่มสูงไม่หยุดหย่อน ปะทุขึ้นไม่หยุดหย่อน ใบหน้าหล่อเหลารับแสงมรรคเปล่งประกาย ดูเจิดจ้าตระการตาหาใดเทียบ

ไกลออกไปสรรพชีวิตนับไม่ถ้วนตกตะลึง เพียงมองดูจากไกลๆ ก็ทำให้พวกเขารู้สึกหวั่นกลัวอย่างบอกไม่ถูก

ดุจมดตัวจ้อยได้พบทวยเทพ!

กลางฟ้าดินหลินสวินยืนอยู่ที่เดิม ไม่ไหวติงแม้สักนิด ดวงตาดำมองเด็กหนุ่มชุดเขียวที่อยู่ไกลออกไป ต้องยอมรับว่าความสง่างามของเจ้าหมอนี่เรียกได้ว่าหาได้ยากยิ่งในโลก

เรื่องราวในโลกโหดร้ายเสมอ

มีบางคนเป็นที่รักในมหามรรคแต่กำเนิด เติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี ถูกสวรรค์เข้าข้างแต่เพียงผู้เดียว

พวกเขามีพรสวรรค์พิเศษ สติปัญญาล้ำเลิศแต่เกิด เพิ่งถือกำเนิดก็มีคุณลักษณะเย้ยฟ้าเหนือล้ำกว่าผู้ฝึกปราณทั่วหล้า เฉิดฉายไกลห่าง

และหลิงเสวียนจื่อก็เป็นบุคคลชั้นยอดในคนจำพวกนี้ เพียงแค่คำว่า ‘เป็นเลิศในหมื่นกาล’ ก็ดูออกแล้วว่าพรสวรรค์จะน่ากลัวปานไหน

กระทั่งครู่ใหญ่การเคลื่อนไหวในฟ้าดินถึงคืนสู่ความสงบ

เมื่อมองดูหลิงเสวียนจื่อที่เหมือนเด็กหนุ่มรูปงามในชุดเขียวอีกครั้ง แสงมรรคทั้งร่างก็รวมอยู่ภายใน สง่าดั่งเทพเซียนบนสวรรค์ คล้ายไม่ใช่คนบนโลก!

เขาชักสายตาที่แหงนมองเวิ้งฟ้ากลับมาช้าๆ ปัดเสื้อผ้า เบือนหน้ามายิ้มแฉ่งเอ่ยว่า “ศิษย์น้องเล็ก ขอบคุณมาก”

หลินสวินแค่นหัวเราะ “เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าจะหลุดพ้นไปเช่นนี้”

“ถูกกำราบมาเนิ่นนานเลยนะ… เจ้าไม่ดีใจกับศิษย์พี่สักหน่อยหรือ”

หลิงเสวียนจื่อถอนหายใจ ท่ามกลางความมืดมิดในการเวลาไร้สิ้นสุดนั้น ใครจะเข้าใจความทรมานและยากเข็ญภายในนั้นได้

จากนั้นเขาปรับสีหน้าทันใด ยิ้มละไมแล้วเดินเข้าหาหลินสวิน “ก่อนหน้านี้เจ้าถามข้าว่าจะกลับคำหรือไม่ คำตอบของข้าย่อมไม่เปลี่ยนไป”

“ข้ารู้ดีว่าในใจเจ้าจะต้องเกลียดข้าเข้ากระดูกดำแล้ว แต่ไม่เป็นไร การถกมรรคยกที่ห้านี้ ศิษย์พี่จะบอกเจ้าให้ว่าเหตุใดตอนนั้นข้าถึงจะใช้การถกมรรคไปพิชิตศิษย์พี่ศิษย์น้องคนอื่นๆ”

เขาเดินตามสบายนัก อย่างกับเดินเล่นอยู่ในสวน จนกระทั่งห่างจากหลินสวินพันจั้งจึงหยุดลง รอยยิ้มเจิดจ้า “เป็นอย่างไร กล้าลองดูไหม”

“พิชิตข้าหรือ” หลินสวินเลิกคิ้ว

หลิงเสวียนจื่อพยักหน้า “ถ้าพิชิตเจ้าได้แล้วค่อยให้เจ้าจัดการข้า นี่ก็ไม่ถือว่ากลับคำ และย่อมไม่อาจนับว่าผิดกฎ แต่ถึงตอนนั้นข้าเชื่อว่าเจ้าจะต้องละอายจนมาขอโทษข้า”

หลินสวินยิ้มอย่างอดไม่ได้ ประเมินหลิงเสวียนจื่อตั้งแต่หัวจรดเท้า “ระดับจักรพรรดิขั้นสี่หรือ”

“เช่นนี้ถึงเรียกได้ว่ายุติธรรม”

หลิงเสวียนจื่อเอ่ยเรื่อยเฉื่อย “ศิษย์น้องเล็ก เจ้าวางใจได้ ในศึกระดับเดียวกัน ถ้าข้าไม่สู้ไม่ได้ย่อมให้เจ้าจัดการตามใจ!”

วาจาตามใจชอบ เอ่ยปากฉับพลัน

สายตาหลินสวินเผยแววเย้ยหยัน “ถึงตอนนี้ข้าผิดหวังกับเจ้าโดยสิ้นเชิงแล้ว”

ครืน!

ฟ้าดินที่เดิมอึดอัดหาใดเทียบ ประหนึ่งรับอานุภาพอันน่ากลัวที่ร่างทั้งสองแผ่ออกมาไม่ไหว พลันยุบตัวพังทลายคล้ายกระจก

ก็ในชั่วขณะนี้เอง หลินสวินกับหลิงเสวียนจื่อลงมือพร้อมกัน

ตูม!

หลินสวินเหยียบห้วงอากาศ ซัดหมัดหนึ่งออกไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์