ตอนที่ 2344 วาจาบัญญัติฟ้า
ภายในใจหลิงเสวียนจื่อไม่อาจสงบเช่นกัน
การถกมรรคสี่ยกก่อนหน้านี้ทำให้เขาเข้าใจมรรคาในอดีตของหลินสวินทั้งหมดแล้ว กระทั่งหยั่งถึงพลังทั้งปวงที่หลินสวินหยั่งรู้ได้ในมรรคา
เดิมเขานึกว่าในการถกมรรคยกที่ห้า ตนที่รู้เรื่องทุกอย่างของหลินสวินแล้วจะเอาชนะศิษย์น้องเล็กคนนี้ได้อย่างแน่นอน
แต่ผลลัพธ์…
กลับเหนือความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง!
ทว่าชั่วพริบตาเดียวหลิงเสวียนจื่อก็คาดเดาที่มาที่ไปของเรื่องนี้ได้
หลังจากหลินสวินบรรลุมกุฎจักรพรรดิ เคยแปรสภาพโดยที่ตัวเองไม่รู้ไปครั้งหนึ่ง อีกทั้งการแปรสภาพครั้งนี้ยังเต็มไปด้วยความลึกลับยิ่งยวด!
‘แดนปรินิพพาน หนึ่งบัวในหมื่นกาล…’
สังหรณ์อันแรงกล้าผุดขึ้นในใจหลิงเสวียนจื่อ มรรคาในระดับจักรพรรดิของหลินสวินจะต้องเกี่ยวข้องกับแดนปรินิพพานนั่นแน่!
ทว่าด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาดของเขา ยังไม่อาจอนุมานไปมากกว่านี้ได้สักนิด
เขาไม่รู้ว่าในโลกวัฏจักรนั้น หลินสวินเคยสร้างมรรคาที่สมบูรณ์ซ้ำอีกครั้ง มรรควิถีทั้งตัวต่างเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งในทั่วหล้าชั่วกาล
และไม่รู้ว่าตอนบรรลุมกุฎจักรพรรดิบนกำแพงเมืองด่านจักรพรรดินั้น เคราะห์จักรพรรดิที่หลินสวินประสบจะน่าพรั่นพรึงและวิปริตปานไหน
ยิ่งไม่รู้ว่าเพื่อให้หลินสวินข้ามด่านเคราะห์สำเร็จ ลวดลาย ‘เสี้ยวจันทร์สามดารา’ ที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลหลงเหลือไว้ ความจริงแล้วเป็นพลังเจตจำนงของเจ้าแห่งคีรีดวงกมล
เป็นเพราะอาศัยพลังเจตจำนงนี้ จึงเอาชนะการโจมตีที่มาจากยักษ์ใหญ่มากมายของฟากฝั่งฟ้าดาราแห่งนั้นได้!
และเป็นเพราะประสบการณ์ในแดนปรินิพพานนั้น ทำให้มรรคาของหลินสวินกลายเป็นหนึ่งเดียวตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน!
แต่ทว่าคาดเดาความลึกลับภายในนั้นไม่ถูก ไม่ได้หมายความว่าหลิงเสวียนจื่อจะยอมแพ้แต่เพียงเท่านี้
ไม่นานนักเขาก็สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลากลับมาสงบนิ่ง มองดูหลินสวินที่อยู่ไกลออกไปแล้วเอ่ยว่า
“ศิษย์น้องเล็ก ถ้าเจ้ารับการโจมตีครั้งต่อไปได้ ข้าหลิงเสวียนจื่อรับรองว่าจะให้เจ้ามาจัดการ!”
ถ้อยคำของเขาเผยความเด็ดขาด
“ยังไม่ตัดใจหรือ” หลินสวินถาม
“อาจารย์กำราบข้ามาไม่รู้นานเท่าไรยังไม่อาจเปลี่ยนเจตจำนงของข้าได้ เจ้าคิดว่าความปราชัยเล็กๆ ก่อนหน้านี้จะกระทบข้าได้สักเท่าไร”
หลิงเสวียนจื่อเอ่ยเสียงเรียบ
ผมดำทั้งหัวของเขาค่อยๆ หงอกขาว แต่ดวงตาทั้งสองข้างกลับยิ่งเฉียบคม เสื้อผ้าไหวกระพือเกิดเสียง พลังเจตจำนงหาใดเทียบพุ่งทะลุเมฆา เหนี่ยวนำกฎเกณฑ์มหามรรครอบทิศเหมือนมือใหญ่ไร้รูป
ทั้งแดนลับอสูรมารอริยะต่างสั่นสะเทือนขึ้นในยามนี้ มองเห็นด้วยตาเปล่า ว่าภูผาธาราอันไร้ที่สิ้นสุดแห่งนั้นมีกระแสพลังถาโถมเข้าหาหลิงเสวียนจื่ออย่างบ้าคลั่งเหมือนกระแสน้ำ
ครืน!
ฟ้าดินส่งเสียงครั่นครืน โลกแห่งนี้ล้วนสั่นสะเทือน
ทั้งแดนลับอสูรมารอริยะกว้างใหญ่ไพศาลปานไหน แต่ตอนนี้กลับคล้ายถูกหลิงเสวียนจื่อนำมาใช้และควบคุมอยู่
“นี่…”
ระดับจักรพรรดิที่อยู่ไกลๆ รู้สึกเพียงสภาวะจิตปั่นป่วนใกล้จะพังทลาย พลังของทั้งแดนหนึ่งเชียวนะ จะถูกคนผู้เดียวควบคุมได้อย่างไร
นี่น่าสะพรึงเกินไปแล้ว!
ครั้นหันกลับมามองหลิงเสวียนจื่ออีกครั้ง ร่างกายสูงโปร่งกลับเหมือนดั่งเสาค้ำฟ้าของฟ้าดินแห่งนี้ ยามหายใจเข้าออก ควบคุมหมื่นกระแสวัฏจักร กลืนกินมหามรรคสิบทิศ ความแกร่งกล้าของอานุภาพกดข่มโลกแห่งนี้!
ส่วนผมยาวสีดอกเลาทั้งหัวนั้นก็ดูสะดุดตาผิดธรรมดา
ชั่วพริบตานี้หลินสวินเองก็เผยสีหน้าเคร่งเครียดอย่างหาได้ยาก
มีเพียงเขาที่อยู่ระดับมกุฎจักรพรรดิเท่านั้นถึงสัมผัสได้ว่า พลังที่หลิงเสวียนจื่อครอบครองในตอนนี้น่ากลัวปานไหน
หากเปลี่ยนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นแปดธรรมดาคนหนึ่งอยู่นี่ จะต้องประหวั่นพรั่นพรึง ถูกบดขยี้โดยสมบูรณ์!
ฮู้ม
เงาร่างหลินสวินแผ่ขยาย เสียงอึงอลดังสนั่นราวกับคลื่นโหมทะเลคลั่งแว่วออกมาจากภายในร่าง ชีพจรเส้นปราณทั้งร่าง อวัยวะตันห้ากลวงหก โลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ต่างโคจรถึงขีดสุดในยามนี้ ทำให้ร่างกายของเขาแปรเปลี่ยนเป็นเจิดจ้าดั่งมายา
กายดุจเตาหลอม มหามรรคดั่งหุบเหว!
นี่ก็เป็นครั้งแรกเช่นกัน ที่หลินสวินสำแดงมรรควิถีของตนออกมาถึงขีดสุดในการประลองกับคนระดับเดียวกัน
ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะศิษย์พี่สี่ของเขาคนนี้แข็งแกร่งเกินไป!
“ไป”
แขนเสื้อกว้างของหลิงเสวียนจื่อไหวกระพือ ควบคุมฟ้าดิน โบกฝ่ามือออกไปครั้งหนึ่ง
ตูม!
พลังมหามรรคที่มาจากทั่วทิศเหมือนหาทางระบายเจอ พลันพุ่งเข้าปกคลุมหลินสวินราวกับน้ำล้นเขื่อน
มองจากไกลๆ ก็เหมือนทั้งแดนลับอสูรมารอริยะหมายจะกำจัดหลินสวิน!
เมื่อได้เห็นภาพนี้ทุกคนต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง นี่เหมือนกับพลังแห่งสวรรค์ปรากฏ กำลังพุ่งเป้าไปที่หลินสวิน!
“เปิด!”
ในขณะเดียวกันหลินสวินก็รวบนิ้วเป็นกระบี่ฟันออกไป
ชั่วพริบตานั้นพลังมรรคจักรพรรดิอันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตผุดออกจากร่างเขาอย่างบ้าคลั่ง แปรเปลี่ยนเป็นปราณกระบี่โชติช่วงสายหนึ่ง ส่องสว่างไปทั้งท้องนภา
กระบี่นี้แปลงเป็นหมื่นลักษณ์ภูผาธารา หลักฟ้าเขตดิน สุริยันจันทราดารา ส่องสะท้อนลักษณ์ในโลกต่างๆ นานา น่าตื่นตาตื่นใจ
และจุดที่กระบี่นี้โฉบออกมา ก็เผยภาพภัยพิบัติที่สรรพสิ่งดับสูญ
หนึ่งกระบี่เกิดดับ!
ตูม!
เมื่อกระบี่นี้ฟันออกมา ฟ้าดินแห่งนี้ประหนึ่งถูกฟันแยกออก เจตกระบี่ล้ำเลิศทะลวงได้ทุกสิ่ง แผ่ขยายไปยังฟ้ากว้าง
ทั้งแดนลับอสูรมารอริยะต่างตกอยู่ท่ามกลางเสียงกึกก้องกัมปนาท ฟ้าถล่มดินทลาย สุริยันจันทราพลิกคว่ำ น่าสะพรึงกลัวหาใดเทียบ
ระดับจักรพรรดิเหล่านั้นแม้หลบหนีมาไกลลิบแล้ว แต่ยังคงจิตวิญญาณเจ็บแปลบ ตายังลืมไม่ขึ้น ตื่นตะลึงอย่างอดไม่ได้
“เปล่าประโยชน์ มหามรรคที่เจ้าครอบครอง หมื่นวิชาที่เจ้าควบคุม อย่างไรก็เป็นแค่การยืมใช้อยู่ดี ต่อให้พลังแข็งแกร่งเพียงไหน แล้วจะมีประโยชน์อะไร”
หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบ ก้องสะท้อนชั้นเมฆ
ก็พบว่าหลิงเสวียนจื่อยิ้มน้อยๆ สีหน้ามีชีวิตชีวาทว่าสงบนิ่ง ปากเอ่ยเบาๆ
ปราณกระบี่เรียวเล็กโปร่งแสงสายหนึ่งเคลื่อนออกมา เผยให้เห็นประกายคมที่สามารถสะท้านหมื่นกาล ส่องสะท้อนลักษณ์ทั่วหล้า
ท่ามกลางความคลุมเครือ คล้ายมีเสียงกระบี่กังวานใสดั่งเสียงสวรรค์ดังขึ้น ประหนึ่งมาจากแดนเซียน ไม่เหมือนสิ่งที่โลกมนุษย์จะมีได้
สายตานับไม่ถ้วนมองมา แต่กลับไม่อาจมองเห็นกระบี่นี้ได้ชัดเจนแม้สักนิด ทำได้เพียงรับรู้ถึงความยำเกรงและหวาดหวั่นจากในจิตใจ
กระบี่นี้ประทับสารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณทั้งร่างของหลิงเสวียนจื่อ ควบรวมขึ้นจากการหล่อหลอมผ่านกาลเวลานับไม่ถ้วน สภาวะจิต เจตจำนง และมหามรรคต่างสำแดงอยู่ภายในนั้น
กระบี่นี้ พบมันดั่งพบฟ้า
กระบี่นี้ มีนามว่า ‘วาจาบัญญัติฟ้า’!
หลินสวินนัยน์ตาหดรัดลงทันที ร่างกายเจ็บแปลบ เงาร่างยังอยู่ครึ่งทางก็โคจรพลังทั้งหมดถึงขีดสุด เปลี่ยนร่างเป็นเตาหลอม
และในมือเขาก็ฟันกระบี่ออกไปครั้งหนึ่งเช่นกัน
หมื่นกระบี่คืนหนึ่ง!
แต่ในยามนี้ กระบี่อันน่าหวาดหวั่นไร้ที่สิ้นสุดนี้ กลับถูกปราณกระบี่เรียวเล็กโปร่งแสงนั้นโจมตีสลายไปในชั่วพริบตา ระเบิดกระจุยออกมา
“ทะยาน!”
หลินสวินไม่ลังเลสักนิด ฟันออกมาอีกหลายสิบครั้ง
ปราณกระบี่ตัดสลับ เพียงไม่กี่อึดใจ ปราณกระบี่เรียวเล็กนั้นก็บดขยี้ปราณกระบี่ทั้งหมดของหลินสวิน จากนั้นพุ่งตามหลินสวินไป
ภาพเช่นนั้นเรียกได้ว่าสะท้านจิตวิญญาณ
เมื่อเห็นว่าปราณกระบี่เรียวเล็กนั้นบีบเข้ามาใกล้ หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แววแน่วแน่ฉายวาบในดวงตา
ก็พบว่ามือทั้งสองของเขายื่นออกไป หุบเหวกลืนสวรรค์ผุดออกมาโดยพลัน สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณทั้งร่าง รวมถึงมรรควิถีทั้งตัวหลอมเข้าไปในนั้นจนหมด
โครม!
ประหนึ่งฟ้าถล่มดินทลาย ทั้งแดนลับอสูรมารอริยะสั่นสะเทือนฉับพลัน ประหนึ่งภูเขาไฟนับแสนปะทุ กระแสปั่นป่วนน่าสะพรึงไร้สิ้นสุดม้วนตลบไปทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน กลบโลกจมมิด ประกายแสงเช่นนั้นพร่างพราวเกินไป ขาวโพลนไปทั้งแถบ
ผู้ชมการต่อสู้ที่เหลืออยู่เหล่านั้น ไม่ว่าจะพลังปราณสูงต่ำต่างสูญเสียการรับรู้ไป ราวกับสัมผัสทั้งหกไม่มีอยู่ ไม่อาจสัมผัสสิ่งใดได้อีก
“ใครแพ้ใครชนะ”
กระทั่งครู่ใหญ่ยามฝุ่นควันจางหาย เมื่อสัมผัสของทุกคนกลับมาช้าๆ ครรลองสายตาค่อยๆ ชัดเจนขึ้น ก็พบว่า…
ฟ้าดินดั่งซากปรักหักพัง แห้งแล้งถล่มทลาย
เงาร่างสูงตระหง่านดั่งเตาหลอมอมตะร่างหนึ่งยืนอยู่กลางอากาศ โอบล้อมไปด้วยแสงเทพตระการตา
สองมือของเขาประกบกัน หยุดประกายคมของปราณกระบี่เรียวเล็กแวววาวนั้นเอาไว้
ไม่อาจสั่นคลอน
ประหนึ่งเทพสวรรค์!
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์