Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2346

ตอนที่ 2346 ไม่สู้มึนเมาคราวหนึ่งกับเรื่องทางโลก

ฟ้าดินแห้งเหี่ยว ภูผาธาราทรุดยวบ

หลินสวินเก็บเจดีย์ไร้สิ้นสุด ในใจก็ถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่งเช่นกัน

การประสบเคราะห์ในวัยเยาว์ของหลิงเสวียนจื่อทำให้เขานึกถึงตัวเอง เพิ่งจะเกิดเหมือนกัน กลับถูกศัตรูชิงชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดไป เติบโตในคุกใต้เหมืองที่ไร้แสงเดือนแสงตะวันแห่งนั้นมาตั้งแต่เด็ก…

จนกระทั่งตอนนี้ ขนาดบิดามารดาเป็นหรือตายก็ยังไม่รู้

สิ่งที่ไม่เหมือนหลิงเสวียนจื่อคือ ตอนนั้นข้างกายเขายังมีท่านลู่ แต่หลิงเสวียนจื่อได้แต่ต้องพึ่งตัวเอง

หลินสวินพานนึกถึงอวิ๋นชิ่งไป๋ มีกระดูกกระบี่โดยกำเนิด แต่กลับบ้านแตกล้มตาย ชีวิตไม่ใช่ของตน ทำให้ผู้คนนึกถึงก็อดสะอื้นไห้ไม่ได้

เนิ่นนานหลินสวินหมุนตัว ทอดมองไปไกลๆ

สรรพชีวิตนับไม่ถ้วนที่ชมการต่อสู้ก่อนหน้านั้น ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่หยิบมือ ส่วนใหญ่ล้วนเผ่นหนีจากการต่อสู้เมื่อครู่นี้กันหมด

นอกจากพวกระดับจักรพรรดิไม่กี่คน สิ่งที่ทำให้หลินสวินแปลกใจคือเมิ่งเหลียนชิงถึงกับยังอยู่ในที่นั้น เพียงแต่มีท่าทางเหมือนวิญาณล่องลอย

คิดๆ ครู่หนึ่งเขาสาวเท้าเดินเข้าไปทางนั้น

“เทพธิดาเมิ่ง ขะ เขา… เขามาแล้ว”

เหยียนจวิ้นส่งเสียงตะกุกตะกัก ดวงตาฉายแววหวาดกลัวและระส่ำระสาย

ก่อนจะเข้าสู่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เขายังกล้าเรียกหลินสวินว่าสหาย แต่ตอนนี้… มีหรือจะยังกล้า

พร้อมกันนั้นเมิ่งเหลียนชิงราวเพิ่งตื่นจากฝัน เงยมองออกไป ก็เห็นหลินสวินเดินเข้ามาทางนี้จริงๆ ชั่วขณะหนึ่งนางเองก็อึ้งงัน ภายในใจเริ่มบีบรัดเช่นกัน

นี่เขาจะทำอะไร

คนที่ประหม่ายิ่งกว่านางและเหยียนจวิ้นคือพวกระดับจักรพรรดิหลายคนนั่น ตอนที่หลิงเสวียนจื่อยังไม่ปรากฏตัว พวกเขาต่างตั้งใจจะลงมือกับหลินสวิน

เวลานี้เห็นหลินสวินเดินมา เพิ่งคิดหนีก็ไม่ทันแล้ว แต่ละคนอกสั่นขวัญแขวน

หลินสวินไม่สนใจพวกเขาด้วยซ้ำ เดินตรงไปข้างกายเมิ่งเหลียนชิง กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกแล้ว ว่าไม่ได้เก็บเรื่องในอดีตมาใส่ใจนานแล้ว”

จากนั้นเขาทอดสายตามองไปยังเหยียนจวิ้น กล่าวยิ้มๆ “สหายยุทธ์ พบกันก็คือวาสนา คัมภีร์มรรคเล่มนี้เจ้าเก็บไว้เถอะ ภายหน้าก็ตั้งใจฝึกปราณ”

เขาดีดนิ้วคราหนึ่ง ประทับมรดกสายหนึ่งกลายเป็นแสงขาว ไหลเข้าสู่สมองของเหยียนจวิ้น

เหยียนจวิ้นรู้สึกเพียงเสียงดังวู้มคราหนึ่งในหัว พลังมรดกอันใหญ่โตมโหฬารหาใดเปรียบก็ทะลักสู่ห้วงนิมิต แก่นอัศจรรย์มหามรรคอันเร้นลับนับไม่ถ้วนลอยผลุบโผล่ดุจกระแสน้ำ

จนกระทั่งเนิ่นนานตอนที่เหยียนจวิ้นดึงสติกลับมา ก็เห็นว่าในลานไม่เห็นเงาร่างของหลินสวินนานแล้ว

เขาอดผิดหวังไม่ได้ “ผู้อาวุโสท่านนั้นเล่า”

“ไปแล้ว”

นัยน์ตาสุกใสของเมิ่งเหลียนชิงที่อยู่ข้างๆ กันเจือแววทอดถอนใจ

ยามนี้ความยึดติดและเงามืดในใจนางมลายสิ้นไปนานแล้ว ทั้งตัวล้วนผ่อนคลายลง นางตระหนักได้อย่างลึกซึ้งแล้วว่าตนกับคนผู้นั้น… ไม่ได้อยู่โลกเดียวกันนานแล้ว

เมื่อมองทะลุ ก็ปล่อยวางแล้ว

“ไปแล้ว?” จิตใจเหยียนจวิ้นพลิกม้วน

“เจ้าคือเหยียนจวิ้นจากเผ่าใบไม้วิญญาณหรือ” เมิ่งเหลียนชิงเอ่ยถาม ดวงตาคู่นั้นมองสำรวจเหยียนจวิ้นจากหัวจรดเท้า

“ใช่”

เหยียนจวิ้นพยักหน้าหงึกๆ ถึงขั้นไม่กล้าสบตามองเมิ่งเหลียนชิงอยู่บ้าง

“พวกเราก็ไปกันเถอะ”

เมิ่งเหลียนชิงหมุนตัวออกไป

“เอ๋ พวกเรา?” เหยียนจวิ้นอึ้งค้าง จากนั้นพลันดีใจ รีบกุลีกุจอไล่ตามไป เทพธิดาเมิ่งถึงกับเป็นฝ่ายเชื้อเชิญตนร่วมเดินทาง นี่ทำให้เขารู้สึกเหมือนฝันไป

“ต่อไปหากมีเวลาว่างก็มาหาข้าที่เผ่าหงส์หิรัณย์ได้ มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถกมรรคด้วยกัน” ระหว่างทางเมิ่งเหลียนชิงเอ่ยเสียงเบา

เหยียนจวิ้นตื่นเต้นจนทั่วร่างสั่นเทิ้ม พยักหน้าตกลงสุดแรง

ในใจเขารู้สึกรางๆ ว่าเหตุที่เมิ่งเหลียนชิงปฏิบัติกับตนต่างออกไป เกรงว่าคงมีความเกี่ยวข้องกับหลินสวินแบบแยกกันไม่ขาดเป็นแน่

‘ผู้อาวุโสวางใจเถอะ ข้าเหยียนจวิ้นจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน!’ เหยียนจวิ้นลอบสาบานในใจ

….

แดนลับอสูรมารอริยะ หลินสวินสาวเท้าเนิบนาบ เดินผ่านสถานที่ที่เคยกรำศึกในปีนั้น เขาบาดเจ็บไม่มาก แต่ก็ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะหายเป็นปกติอย่างสิ้นเชิง

ในระหว่างนี้เขาตั้งใจจะอยู่ที่แดนลับอสูรมารอริยะ

รอให้อาการบาดเจ็บหายดีแล้วค่อยเดินทางข้ามทะเลกลืนวิญญาณ ไปดูที่จักรวรรดิจื่อเย่าเสียหน่อย

“เจ้าไม่กลัวว่าภายหน้าจะไม่อาจข่มหลิงเสวียนจื่อนี่ได้เลยหรือ”

ระฆังไร้กฎที่แขวนอยู่บนเส้นผมเอ่ยปากถาม

“การต่อสู้ในมหามรรค เขาแพ้แล้ว ขอเพียงข้ามีชีวิตอยู่ เขาย่อมยากจะดิ้นหลุดจากเจดีย์ไร้สิ้นสุดนี่ได้”

หลินสวินกล่าวง่ายๆ

ศิษย์พี่สี่คนนี้ของตน แม้จะเรียกได้ว่าเป็นปีศาจที่ยากจะพบเห็นในหมื่นกาล แต่หลินสวินมั่นใจว่าสามารถกดข่มเขาต่อไปบนเส้นทางแห่งมหามรรคได้แน่!

นี่คือความมั่นใจในตัวเองอย่างไร้เทียมทานอย่างหนึ่ง

“หืม?”

ทันใดนั้นระฆังไร้กฎคล้ายสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง กล่าวว่า “ในหุบเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ไกลโพ้นนั่น มีคนกำลังพูดถึงชื่อเจ้าอยู่”

หลินสวินอึ้งไปทันควัน

….

กลางหุบเขา

“ชนะแล้ว พี่ใหญ่ชนะแล้ว!” เจ้าคางคกสีหน้ายินดี ฮึกเหิมเหมือนตัวเองเป็นคนโค่น ‘ท่านจอมมรรค’ นั่นอย่างไรอย่างนั้น

อาหลู่เองก็ยิ้มกว้าง

“เสียดายก็แต่ไม่ได้เห็นท่วงท่าสง่างามแห่งระดับจักรพรรดิที่ไร้ศัตรูแห่งยุคของนายท่าน…”

เสี่ยวอิ๋นทอดถอนใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์