Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2353

สรุปบท ตอนที่ 2353 แดนหมื่นมรรค: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2353 แดนหมื่นมรรค จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2353 แดนหมื่นมรรค คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2353 แดนหมื่นมรรค

วันต่อมา

บนมหาสมุทรสีมรกต เงาร่างสายหนึ่งวูบไหวอยู่กลางอากาศ เคลื่อนไปด้วยความเร็วที่คาดไม่ถึงคล้ายลำแสงสายหนึ่ง

เขาสวมชุดสีขาวพระจันทร์ ผมดำนัยน์ตาดำ รูปร่างสูงตระหง่านเหมือนสนเขียว ผิวขาวกระจ่างเรียบเนียนดั่งหยก ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มได้รูปดุจแกะสลัก

มองจากภายนอกเขาก็เหมือนชายหนุ่มคนหนึ่ง กลิ่นอายไม่ลึกลับซับซ้อน แต่หากมีบุคคลระดับจักรพรรดิอยู่ที่นี่ ย่อมต้องรู้สึกได้ถึงพลังกดดันที่ถาโถมเข้าใส่

เหมือนเผชิญหน้ากับนายเหนือหัวที่บัญชาตะวันจันทรา ควบคุมจักรวาลคนหนึ่ง!

คนผู้นี้แน่นอนว่าคือหลินสวิน

‘ในที่สุดก็ใกล้ถึงแล้ว…’

สายตาเขาทอดมองห่างออกไป รู้สึกทอดถอนใจ

เมื่อคำนวณโดยละเอียด ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาจากโลกชั้นล่างไป จนถึงตอนนี้ก็เกือบร้อยปีแล้ว

ในช่วงเวลานี้ ก็เป็นตอนที่แดนมกุฎปิดม่าน เขาถึงได้กลับมาโลกชั้นล่างอย่างรีบเร่งแค่ครั้งเดียว

ร้อยปีราวกับชั่วดีดนิ้ว

แต่เกรงว่าโลกชั้นล่างนี้คงมีเรื่องมากมายเปลี่ยนผัน เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!

‘พวกหลินจง ท่านพญาแร้ง เสี่ยวเคอ จูเหล่าซาน หนิงเหมิง สืออวี่… ยังสบายดีหรือไม่’

ความทรงจำในอดีตผุดขึ้นในใจทีละน้อย ทำให้จิตใจของหลินสวินปั่นป่วนอยู่บ้างเช่นกัน

ยิ่งใกล้บ้านเกิดอารมณ์ยิ่งสั่นไหว

เขาในตอนนี้มีความรู้สึกที่บอกไม่ถูกอย่างหนึ่ง ผ่านมาร้อยปีแล้ว ทุกคนในปีนั้น… ยังอยู่หรือไม่

จิตรับรู้ของเขาแผ่ขยายออกไป คล้ายว่าสัมผัสนัยเร้นลับของเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดินได้

แต่ไม่ทันไรหลินสวินก็ขมวดคิ้ว

น่านน้ำที่ห่างไกลเดิมอยู่ติดกับทะเลตะวันออกของจักรวรรดิจื่อเย่า แต่ตอนนี้ที่นั่นกลับมีปราการระเบียบสายหนึ่งปรากฏ!

ระเบียบของโลกที่พร่างพรายดุดันนับไม่ถ้วน ไหลบ่าลงมาจากฟากฟ้าเหมือนน้ำตก พลังระเบียบนั้นซัดสาดราวกระแสน้ำ ถึงขั้นกลายเป็นพญามังกรมากมายร่ายระบำ

มองจากไกลๆ ก็เหมือนปราการที่เชื่อมต่อฟ้าดินแห่งหนึ่ง ตัดขาดทะเลกลืนวิญญาณและทะเลตะวันออกของจักรวรรดิจื่อเย่าให้แยกจากกันอย่างสมบูรณ์!

ก่อนหน้านี้จิตรับรู้ของหลินสวินก็สังเกตเห็นเหตุการณ์ผิดแปลกนี้แล้ว

ระเบียบของโลกกลายเป็นปราการ ตัดขวางทะเลกลืนวิญญาณ สิ่งนี้ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต!

หลินสวินชะลอความเร็วแล้วเข้าไปใกล้

ใช้จิตรับรู้ของเขาพิจารณา พลังระเบียบที่เหมือนปราการสวรรค์นั้นราวกับผนึกพันธนาการชั้นแล้วชั้นเล่าทับซ้อนกัน ปกคลุมจักรวรรดิจื่อเย่าที่อยู่ตรงหน้าไว้ภายใน ตัดขาดกฎเกณฑ์ พลังวิญญาณ พลังมหามรรคทั้งหมด

หากกล่าวว่าจักรวรรดิจื่อเย่าเป็นโลกใบหนึ่ง

เช่นนั้นปราการระเบียบนี้ก็เป็นรัศมีแสงหลายชั้นห่อหุ้มจักรวรรดิจื่อเย่าไว้ภายใน กลายเป็นพลังระเบียบป้องกันตามธรรมชาติ

ต่อให้บรรพจารย์จักรพรรดิมากสามารถมาที่นี่ ยามเผชิญหน้ากับปราการระเบียบนี้ก็คงอกสั่นขวัญแขวน ไม่ต้องพูดว่าจะทำลาย ต่อให้สัมผัสเบาๆ ก็เกรงว่าคงถูกโจมตีอย่างรุนแรง!

‘เปลี่ยนไปจริงดังคาด…’

นัยน์ตาดำของหลินสวินวูบไหวไม่หยุด

เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ไม่เห็นกลิ่นอายของพลังระเบียบต้องห้ามใดอย่างสิ้นเชิง เห็นชัดว่าพลังที่ควบคุมโดยจักรพรรดิสวรรค์ดำรงนั้น ไม่อาจมาเยือนโลกชั้นล่างนี้ได้อีกแล้ว

เกรงว่าทุกอย่างนี้คงเกี่ยวข้องกับการฟื้นคืนของพลังใจกลางต้นกำเนิดหมื่นมรรค!

หลินสวินสำรวจอย่างละเอียด

คิดจะหวนกลับจักรวรรดิจื่อเย่าก็ต้องผ่านปราการระเบียบแห่งนี้ จำเป็นต้องหาวิธีตัดผ่านเข้าไป

ไม่ทันไรหลินสวินก็สังเกตเห็นว่าห่างออกไปหลายพันจั้ง ในอาณาเขตที่ปกคลุมด้วยกระแสน้ำระเบียบเชี่ยวกรากมีประตูน้ำวนสายหนึ่งปรากฏ ถ้าไม่ดูอย่างละเอียดคงยากจะสังเกตเห็น

หลินสวินเคลื่อนที่ไปโดยตรง สังเกตเล็กน้อยแล้วลังเลอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้

ประตูน้ำวนนี้คืออุโมงค์ตัดผ่านห้วงอากาศว่างเปล่าได้จริงๆ วิวัฒน์จากพลังระเบียบ แต่หลินสวินไม่รู้ว่าเข้าไปในนั้นแล้วจะถูกเคลื่อนย้ายไปที่ไหน

เวลานี้พลันมีเสียงทลายอากาศระลอกหนึ่งดังขึ้นแต่ไกล

หลินสวินหันไปมองก็เห็นผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งพุ่งโฉบมา ชายสามหญิงสอง เห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งมีชีวิตหลากเผ่าที่อาศัยอยู่ในทะเลกลืนวิญญาณ แม้ว่ารูปร่างจะเหมือนคน แต่กลับมีลักษณะพิเศษของกลุ่มเผ่าพันธุ์โดยเฉพาะ

ในบรรดาห้าคนนี้ คนที่กลิ่นอายอ่อนแอที่สุดก็มีพลังปราณระดับมหาอริยะ ชายรูปงามที่มีผมเขียวทั้งศีรษะซึ่งเป็นผู้นำคนนั้นก็มีพลังปราณระดับกึ่งจักรพรรดิหนึ่งด่าน

อีกทั้งอายุของพวกเขายังเยาว์วัยนัก พลังชีวิตรอบกายเร่าร้อน เห็นชัดว่าไม่ใช่คนรุ่นอาวุโสอะไร

“หืม? มีคนมาถึงก่อนด้วย สหายยุทธ์ท่านนี้ก็คิดมุ่งหน้าไปแดนหมื่นมรรคหรือ”

ทั้งห้าคนนั้นเห็นหลินสวินแล้วประหลาดใจมาก ชายร่างผอมบางที่ผิวพรรณเจือแสงเหลือบสีทองคนหนึ่งในนั้นเอ่ยปากถาม

แดนหมื่นมรรค?

หลินสวินอึ้งไปพลางกล่าว “ที่นั่นคือที่ไหน”

ทั้งห้าคนนั้นล้วนเผยสีหน้าสงสัย หญิงสาวหน้าพริ้มเพราเจือความเย่อหยิ่งแข็งกระด้างคนหนึ่งแค่นเสียงเย็นชากล่าว “สหาย หลายสิบปีมานี้เจ้าไม่เคยสนใจเรื่องทางโลกหรือ แม้แต่แดนหมื่นมรรคยังไม่รู้จัก ช่าง… น่าขันจริงๆ”

คำพูดเสียดหู เห็นหลินสวินขมวดคิ้ว คนผู้หนึ่งที่อยู่ด้านข้างพลันรีบร้อนกล่าว “แดนหมื่นมรรคก็คือสถานที่ซึ่งเดิมทีจักรวรรดิจื่อเย่าตั้งอยู่ เมื่อไอวิญญาณฟื้นคืนกลับมาในปีนั้น อาณาเขตของจักรวรรดิจื่อเย่าก็แผ่ขยายอย่างต่อเนื่อง ปรากฏช่องว่างคดเคี้ยวและถ้ำสวรรค์ลึกลับที่ไม่อาจระบุมากมาย”

‘ดูท่าว่าจักรวรรดิจื่อเย่าในตอนนี้ อย่างมากคงได้แค่ยอมให้พลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นแรกปรากฏ ไม่อย่างนั้นจะถูกกำราบถึงที่สุดจนยากจะก้าวเดิน…’

ยามหลินสวินครุ่นคิด เบื้องหน้าสว่างวาบ ปรากฏตัวบนห้วงอากาศแถบหนึ่งเหนือผืนทะเลคราม

เพียงพริบตาเขาก็สัมผัสได้ถึงความแตกต่างของฟ้าดินแถบนี้

ไอวิญญาณบริสุทธิ์โหมกระหน่ำดุจลมทะเลพัดผ่าน ม้วนกลืนห้วงอากาศว่างเปล่า แผ่ขยายไปทั่วทิศ ทำให้โลกแห่งนี้เต็มไปด้วยพลังชีวิตเข้มข้นที่พลุ่งพล่านหาใดเปรียบ

ขณะเดียวกันหลินสวินสังเกตเห็นว่ากฎเกณฑ์มหามรรคกลางฟ้าดินนั้นมั่นคงยิ่งยวด ในอดีตพลังที่ปลดปล่อยออกมายามหายใจเข้าออกก็สามารถทำให้ฟ้าดินสะเทือนได้

แต่ตอนนี้กลับได้แค่ทำให้ห้วงอากาศใกล้เคียงไหลเวียนเป็นวงกลม

สำหรับเรื่องนี้หลินสวินไม่ตกตะลึง หลายปีนี้เขาท่องไปบนทางเดินโบราณฟ้าดารา ก้าวผ่านห้วงอากาศ ท่องโลกมานับไม่ถ้วน

บางโลกเปราะบางจนเหมือนเครื่องแก้ว แค่อริยะซัดหมัดก็สะเทือนฟ้าสะท้านดิน เผาภูผาต้มสมุทร

บางโลกกลับมั่นคงราวหล่อจากทองเทพ ต่อให้ระดับจักรพรรดิโจมตีเต็มกำลัง อย่างมากก็ได้แต่ฟันภูเขาสะบั้นสมุทร บดขยี้พื้นที่แห่งหนึ่ง

โดยทั่วไประเบียบของโลกยิ่งมั่นคง ก็หมายความว่าคุณลักษณะไอวิญญาณที่รองรับได้นั้นยิ่งสูง กฎเกณฑ์มหามรรคยิ่งแข็งแกร่ง ยามบำเพ็ญเพียรในนั้นพลังปราณยิ่งสูง ประโยชน์ที่ได้รับก็ยิ่งมาก

เปรียบดั่งแคว้นกลางมรรคของโลกใหญ่หงเหมิง ระเบียบของโลกยิ่งใหญ่มั่นคง ปกคลุมด้วยพลังมหามรรคทั่วหล้าที่แข็งแกร่งหาใดเปรียบ

เห็นชัดว่าจักรวรรดิจื่อเย่าในตอนนี้ เมื่อการเปลี่ยนแปลงของไอวิญญาณฟื้นคืน พลังระเบียบทั่วโลกก็เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง!

“แกว๊ก!”

บนเวิ้งฟ้าพลันมีนกปีศาจตัวหนึ่งพุ่งโฉบมา ปีกเจิดจรัสส่องประกายดั่งเงินยวง เจือแสงมรรคเจิดจ้าลานตา บินผ่านห้วงอากาศ พุ่งตะครุบมาทางหลินสวิน

กลับเห็นหลินสวินยื่นมือคว้านกปีศาจตัวนี้ไว้กลางฝ่ามือ ฝ่ายหลังตกใจจนตัวสั่นงันงก คราวนี้ถึงตระหนักได้ว่ามองผิดไป เจอตัวอันตรายคนหนึ่งเข้าแล้ว

‘แค่เหยี่ยวเกล็ดเงินตัวหนึ่งเท่านั้น พลังปราณถึงขั้นเทียบกับราชันระดับอมตะเคราะห์คนหนึ่งได้ น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ แล้ว…’

หลินสวินคล้ายขบคิด เขาสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง เหยี่ยวเกล็ดเงินตัวนี้ก็ถูกปล่อยไป ฝ่ายหลังรอดพ้นเคราะห์ร้าย หลบหนีอย่างลุกลี้ลุกลน ไม่กล้าหยุดพักอย่างสิ้นเชิง

มันไม่รู้ว่าหลินสวินไม่ได้ใจกว้างมีเมตตา หากแต่คร้านจะลงมือกับเจ้าตัวเล็กเช่นนี้แต่แรก

‘ชั่วดีดนิ้วก็ผ่านไปร้อยปี ตอนนี้ไอวิญญาณของโลกชั้นล่างฟื้นคืนกลับมาพอดี ก็ไม่รู้ว่าจักรวรรดิจื่อเย่าจะเปลี่ยนไปเช่นไร…’

นัยน์ตาดำของหลินสวินทอดมองไปไกล สามารถแยกแยะได้รางๆ ว่าเดิมทีน่านน้ำแถบนี้คือทะเลตะวันออกของจักรวรรดิ แต่เทียบกับอดีตแล้ว เห็นได้ชัดว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกดินนานแล้ว

‘กลับไปก่อนค่อยว่ากัน’

ต่อให้เรื่องทางโลกแปรเปลี่ยน แม้แต่เหยี่ยวเกล็ดเงินตัวหนึ่งยังกลายเป็นราชันระดับอมตะเคราะห์ได้ แต่หลินสวินไม่ใส่ใจอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่เขากังวลที่สุดคือเหล่าสหายเก่าเมื่อปีนั้น

เขาพุ่งตรงไปโดยไม่รอช้า เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อคลื่นลม เขาเก็บกลิ่นอายของตนไว้แล้วโผนทะยานไปอย่างไร้สุ้มเสียง

———

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์