Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2358

ตอนที่ 2358 ปริศนาตระกูลหลิน

เวลาหนึ่งถ้วยชา

สำหรับเย่เสี่ยวชีแล้ว เขาเพิ่งออกคำสั่งให้คนในตระกูลไปกักขังผู้นำขุมอำนาจพวกนั้นทั้งหมด

จากนั้นจึงเรียกคนตระกูลเย่มาประชุมด่วนอย่างตึงเครียดและว้าวุ่นใจ

เนื้อหาในการประชุมนั้นง่ายมาก การเดินทางครั้งนี้ของหลินสวินจะช่วยทายาทรุ่นเยาว์ของตระกูลเย่ที่ถูกแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์จับตัวไปให้กลับมาได้อย่างราบรื่นหรือไม่

ทุกคนต่างไม่แน่ใจและประหม่า

แม้แต่เย่หลิงซวงที่เลื่อมใสศรัทธาหลินสวินเป็นอย่างยิ่งก็ไม่มั่นใจ

เรื่องทางโลกเปลี่ยนแปลงไป สถานการณ์ของโลกชั้นล่างนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าพลิกดิน ต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิงนานแล้ว

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ โลกชั้นล่างในอดีต ราชันระดับอมตะเคราะห์ล้วนเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนชั้นยอดของโลก

แต่ปัจจุบันผู้แข็งแกร่งระดับราชันนั้นมีมากจนนับไม่ถ้วน แหวกว่ายดุจฝูงปลานานแล้ว!

ผู้มากอิทธิพลอย่างแท้จริงคือคนที่อยู่เหนือระดับอริยะ กึ่งจักรพรรดิที่แค่กระทืบเท้าก็ทำให้ใต้หล้าสั่นสะเทือนได้!

อีกทั้งสิบกว่าปีนี้ไอวิญญาณในใต้หล้ายังฟื้นคืนกลับมาจนแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม หลายคนต่างสงสัยว่ายุคที่จะบรรลุระดับจักรพรรดิ ไม่นานก็คงมาเยือน

ในสถานการณ์เช่นนี้หลินสวินที่เงียบหายไปหลายปีแล้วกลับมาอีกครั้ง ยังจะสร้างตำนานเหมือนแต่ก่อนได้หรือไม่

ใครก็ไม่กล้าถือดีตัดสิน

ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดและว้าวุ่นใจเช่นนี้ เงาร่างหลินสวินลงมาจากฟากฟ้า

พวกเย่เสี่ยวชีล้วนอึ้งไป ไม่ทันตั้งตัว ใช้เวลาเพียงหนึ่งถ้วยชาก็กลับมาแล้วหรือ

“พี่หลิน หรือว่า… ระหว่างทางเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้น” เย่เสี่ยวชีอดถามไม่ได้

คนอื่นก็มองไปทางหลินสวินเช่นกัน

“แค่พวกไก่กระเบื้องสุนัขดินเผาเท่านั้น มีหรือจะก่อคลื่นลมอะไรได้อีก”

หลินสวินยิ้มน้อยๆ แล้วสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง

คนรุ่นเยาว์ในตระกูลเย่ทั้งหมดที่ถูกเขาช่วยกลับมาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าทุกคน

ทั้งที่นั้นต่างฮือฮาทันที

ทุกคนล้วนเบิกตากว้าง ตื่นเต้นจนต้องลุกขึ้น เมื่อมองไปที่หลินสวินอีกครั้งสายตาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว

มาถึงตอนนี้แล้ว พวกเขามีหรือจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

เวลาหนึ่งถ้วยชา ห้อตะบึงไปกลับแปดหมื่นลี้ บดขยี้เกาะวิญญาณเมฆาเหิน!

“ผู้อาวุโสเด็ดจริงๆ โลกหล้าไม่อาจคาดเดา”

เย่หลิงซวงตื่นเต้นจนตะโกนเสียงกังวาน

เย่เสี่ยวชีขยี้หัวของนางอย่างหนัก กล่าวไม่สบอารมณ์ “ผู้อาวุโสอะไร นี่คือพี่ใหญ่ของปู่เจ้านะ!”

นัยน์ตาปราดเปรื่องของเย่หลิงซวงกลอกไปมา ยิ้มหวานพลางกล่าว “ท่านปู่หลิน”

หลินสวินรับรู้รสชาติของการเป็น ‘ปู่’ ครั้งแรกในชีวิต มุมปากพลันกระตุกอย่างยากสังเกตเห็น ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

เขามองสำรวจเย่หลิงซวงจากหัวจรดเท้าแล้วดีดนิ้วมือครั้งหนึ่ง ตำรามรดกมหามรรคเล่มหนึ่งกลายเป็นประทับ พุ่งเข้าไปในสมองของฝ่ายหลัง

“นางหนู ตำรามรรคเล่มนี้คงเหมาะกับเจ้า ถือเป็นของขวัญแรกพบแล้วกัน ภายหน้าต้องฝึกปราณให้ดีๆ รีบเหนือกว่าปู่ของเจ้าในเร็ววัน”

หลินสวินยิ้มแย้มพลางกล่าว เรียกเย่เสี่ยวชีมาแล้วออกจากมรรคสถานแห่งนี้ไป

เขามีเรื่องบางอย่างที่อยากคุยกับเย่เสี่ยวชีตามลำพัง

“หลายปีนี้โลกชั้นล่างเกิดการเปลี่ยนแปลงไปเท่าไรกันแน่ สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร”

ในคฤหาสน์ที่เงียบสงบหลังหนึ่ง หลินสวินเอ่ยถาม

เย่เสี่ยวชีคล้ายคาดเดาไว้แล้วว่าหลินสวินจะถามถึงเรื่องนี้ เขาถอนใจเบาๆ สาธยายสถานการณ์ของโลกชั้นล่างในช่วงหลายสิบปีนี้อย่างเนิบช้า

โดยคร่าวคือห้าสิบปีก่อนฟ้าดินเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไอวิญญาณถือกำเนิดอย่างบ้าคลั่ง ทั่วโลกชั้นล่างฟื้นคืนสภาพรอบด้าน ระเบิดศักยภาพแฝงและพลังชีวิตไร้สิ้นสุดออกมาฉับพลัน ราวกับภูเขาไฟที่เงียบสงบชั่วกัปกัลป์ทำลายพันธนาการ

ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่าหรือต้นไม้ใบหญ้าล้วนเริ่มเพิ่มพูนศักยภาพ โดยเฉพาะผู้ฝึกปราณพวกนั้น ยามฝึกปราณเพื่อแจ้งมรรคล้วนง่ายกว่าแต่ก่อนถึงสิบเท่าร้อยเท่า พลังปราณก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนหน่อไม้หลังฝนยามฤดูใบไม้ผลิ

ห้าสิบปีก่อน ราชันระดับอมตะเคราะห์ด่านเก้าสามารถเย้ยหยันใต้หล้า ครองอำนาจสะท้านทั่ว

ห้าสิบปีให้หลัง คนที่ก่อคลื่นลมทั่วหล้าได้คือกึ่งจักรพรรดิ!

ไอวิญญาณฟื้นคืนกลับมา ทำให้สถานการณ์ในใต้หล้าเปลี่ยนไปเช่นกัน

ในอดีตจักรวรรดิจื่อเย่ามีราชวงศ์เป็นใหญ่ ขุมอำนาจของตระกูลทรงอิทธิพลเป็นรอง

แต่เมื่อไอวิญญาณฟื้นคืน ห้าสิบปีมานี้ทยอยมีสำนักใหญ่จากดินแดนรกร้างโบราณมาเยือนโลกชั้นล่างและขยายอิทธิพล

สำนักเก่าแก่พวกนี้ล้วนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในดินแดนรกร้างโบราณ หลายปีมานี้ต่างก้าวย่างอย่างมั่นคงในโลกชั้นล่าง ครอบครองแดนมงคลมีชื่อมากมายไว้อย่างเหนียวแน่นแล้ว

จนถึงตอนนี้สถานการณ์ที่จักรวรรดิจื่อเย่าปกครองใต้หล้านั้นหายไปนานแล้ว ใต้หล้านี้ก้าวเข้าสู่เวทีซึ่งขุมอำนาจใหญ่ประชันกันแล้ว

ตามที่เย่เสี่ยวชีกล่าวมา

โลกชั้นล่างในตอนนี้ ยอดขุมอำนาจใหญ่ล้วนเป็นสำนักเก่าแก่ที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณพวกนั้น อย่างแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์ แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ สำนักกระบี่เทียมฟ้า สำนักยุทธ์นครนิล เรือนกระบี่เร้นปุจฉาเป็นต้น

นัยน์ตาดำของหลินสวินไหววูบ “ไม่มีข่าวสักนิดเลยหรือ”

เย่เสี่ยวชีส่ายหัว “มีข่าวลือเกิดขึ้นมากมาย แต่ล้วนถูกพิสูจน์ว่าเป็นเท็จ เรื่องนี้จึงกลายเป็นปริศนาในโลกปัจจุบัน”

เขาเว้นช่วงไปก่อนกล่าวอย่างลังเล “แต่เท่าที่ข้ารู้ ขุมอำนาจบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับพวกเจ้าตระกูลหลินกลับล้วนประสบเคราะห์ อย่างสำนักศึกษามฤคมรกต ภาคีนักสลักวิญญาณ โถงทองคำ… เกือบทั้งหมดล้วนดับสลาย”

หลินสวินเพียงรู้สึกว่าความโกรธที่ไม่อาจระงับผุดขึ้นในใจ สีหน้าก็มืดทะมึนลง

สำนักศึกษามฤคมรกตและภาคีนักสลักวิญญาณล้วนก่อตั้งโดยท่านลู่ ตอนเด็กหลินสวินยังเคยได้รับความช่วยเหลือจากสองขุมอำนาจใหญ่นี้มากมาย

ส่วนโถงทองคำก็เป็นร้านค้าที่ก่อตั้งร่วมกับสหายกู่เหลียงรวมถึงบิดาของเขากู่เยี่ยนผิง ยามเขาเหยียบย่างเข้าสู่จักรวรรดิจื่อเย่าครั้งแรกในชีวิต!

เมื่อหลายปีก่อนจากการทุ่มเทจิตใจของพ่อลูกกู่เยี่ยนผิงและกู่เหลียง โถงทองคำกลายเป็นร้านค้าใหญ่ที่เลื่องชื่อลือนามในจักรวรรดินานแล้ว ชื่อเสียงและรากฐานล้วนตามหลังอัครการค้ามาติดๆ!

แต่หลินสวินกลับคิดไม่ถึงว่ายามกลับมาโลกชั้นล่างครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสำนักศึกษามฤคมรกต ภาคีนักสลักวิญญาณ หรือโถงทองคำกลับล้วนประสบเคราะห์!

“ใครเป็นคนทำ”

น้ำเสียงหลินสวินราบเรียบ นัยน์ตาเยียบเย็นจนน่ากลัว

เย่เสี่ยวชีกล่าวเสียงขื่น “ขุมอำนาจที่ทำเรื่องนี้มีจำนวนไม่น้อย ล้วนเป็นสำนักใหญ่ที่มาจากดินแดนรกร้างโบราณ ผู้คนบนโลกต่างลือว่าทุกอย่างนี้ล้วนเกิดขึ้นเพราะเจ้า…”

“เพราะข้าหรือ” หลินสวินเลิกคิ้ว

“ใช่ ได้ยินว่าหลายปีที่เจ้าอยู่ในดินแดนรกร้างโบราณนั้นเคยล่วงเกินขุมอำนาจพวกนั้นมาก่อน หลังจากรู้ว่าขุมอำนาจในนครต้องห้ามพวกนั้นมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเจ้าก็เลยเปิดฉากล้างแค้น”

เย่เสี่ยวชีพูดถึงตรงนี้แล้วกล่าวพึมพำ “ยังดีที่ราชวงศ์แห่งจักรวรรดิกับคนในตระกูลหลินของเจ้าหายตัวไปนานแล้ว ไม่เช่นนั้น…”

พูดไม่ทันจบเขาพลันหยุดหายใจ

ก็เห็นหลินสวินปลดปล่อยไอสังหารน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขตออกมาจากตัวจนปกคลุมฟ้าดินทันที บีบกดจนห้วงอากาศปั่นป่วนครวญคร่ำ ท่ามกลางความเลือนรางเหมือนมีลักษณ์ประหลาดชวนประหวั่นอย่างภูเขาศพทะเลเลือด สรรพชีวิตจ่อมจม มหาจักรพรรดิร้องตะโกน สุริยันจันทราดับสูญปรากฏ

พริบตานี้สภาวะจิตของเย่เสี่ยวชีมีความรู้สึกว่าจะพังทลาย

ยังดีที่ไอสังหารน่ากลัวจนไม่อาจจินตนาการนี้ถูกเก็บกลับไปในพริบตา ทำให้เย่เสี่ยวชีเป่าปากโล่งใจเฮือกใหญ่ แต่เสื้อผ้ากลับชุ่มเหงื่อไปทั้งตัว!

นี่ทำให้เย่เสี่ยวชีตื่นตะลึงอย่างอดไม่ได้ พลังปราณของหลินสวินในตอนนี้บรรลุถึงขั้นน่าหวาดกลัวระดับใดกันแน่

“เจ้าอ้วน เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ อย่าได้แพร่งพรายออกไป ทั้งไม่อาจให้พวกเขารู้ว่าข้าหลินสวินกลับมาแล้ว”

สีหน้าของหลินสวินราบเรียบไร้คลื่นลม ไม่มีคลื่นความรู้สึกแม้แต่น้อย มีเพียงนัยน์ตาคู่นั้นที่เฉยชาเยียบเย็นจนน่ากลัว

เย่เสี่ยวชีเข้าใจในทันที หากขุมอำนาจจากดินแดนรกร้างโบราณพวกนั้นรู้ว่าหลินสวินปรากฏตัวในโลกชั้นล่าง ทั้งบดขยี้อาณาเขตของแดนศักดิ์สิทธิ์แกนสวรรค์จนสิ้นซากในเวลาหนึ่งถ้วยชา คงต้องระวังภัยและป้องกันตัวขึ้นมาแน่

ถึงขั้นว่าพวกเขามีโอกาสสูงที่จะจับตัวคนที่เกี่ยวข้องกับหลินสวินให้มากขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ใช้พวกเขามาข่มขู่เพื่อจัดการหลินสวิน!

………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์