ตอนที่ 2368 อ่อนแอเกินไปแล้ว
บนเวิ้งฟ้า กึ่งจักรพรรดินับร้อยคนรวมตัวกัน!
หากอยู่ในโลกชั้นล่าง กึ่งจักรพรรดิแต่ละคนล้วนเรียกได้ว่าเป็นตัวตนที่อยู่เหนือโลก
แม้ว่าตอนนี้ไอวิญญาณฟื้นคืนกลับมา ระเบียบมหามรรคแห่งฟ้าดินมั่นคงถึงขีดสุด แต่อานุภาพของระดับกึ่งจักรพรรดิก็ยังเผาภูผาต้มสมุทรได้อย่างง่ายดาย
เมื่อกึ่งจักรพรรดินับร้อยคนปรากฏตัวพร้อมกัน อานุภาพนั้นจะน่ากลัวเพียงใด
ตูม!
ฟ้าดินแตกเป็นเสี่ยงๆ สั่นสะเทือนไปทั่วทิศ
เกิดฟ้าผ่ารุนแรง สายลมคลั่งม้วนกลืนไปชั่วขณะ อานุภาพกดดันเสมือนคงอยู่จริงบดบังแสงจากฟากฟ้าประหนึ่งเมฆดำหนาทึบ ทำให้พื้นที่แถบนี้ราวกับรัตติกาลมาเยือน
กึ่งจักรพรรดินับร้อยคนนั้นต่างยืนอยู่คนละบริเวณ ทั้งหมดล้วนใบหน้าเหี้ยมเกรียม แฝงความเฉยชาและน่าเกรงขามอันเป็นเอกลักษณ์
สายตาของทุกคนกวาดผ่านร่างของพวกเขา
สำนักกระบี่เทียมฟ้า แดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ สำนักยุทธ์นครนิล เขาวิญญาณหมื่นอสูร เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ…
มีขุมอำนาจใหญ่ของดินแดนรกร้างโบราณถึงสิบกว่าแห่ง ส่งกึ่งจักรพรรดินับร้อยคนมาลงมือพร้อมกัน!
พริบตานั้นทั่วฟ้าดินเงียบสงัด
ทุกคนที่เห็นภาพนี้หายใจไม่สะดวกเหมือนหัวใจถูกบีบอย่างหนักหน่วง
เป็นไปได้อย่างไร
ทำไมถึงมีกึ่งจักรพรรดิมากเช่นนี้!?
ผู้คนนับไม่ถ้วนร้องอย่างบ้าคลั่งในใจ
ผู้แข็งแกร่งกึ่งจักรพรรดิเป็นคนระดับใด หากเป็นช่วงก่อนที่ไอวิญญาณจะฟื้นคืนกลับมาก็แทบหายไปจากโลก ไม่อาจได้พบเห็น ต่อให้อยู่ในโลกปัจจุบัน หากในขุมอำนาจหนึ่งมีกึ่งจักรพรรดิคนหนึ่งบัญชาการ ย่อมสามารถสร้างคลื่นลม โอหังเหนือโลกฟากหนึ่งได้
เหมือนขุมอำนาจตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงอย่างตระกูลฮวา ตระกูลฉือ ตระกูลฉีที่ครองอาณาเขตในโลกชั้นล่างมารุ่นต่อรุ่น ก่อนจะพินาศย่อยยับต่างมีกึ่งจักรพรรดิแค่หนึ่งถึงสองคนเท่านั้น
แต่ตอนนี้ขุมอำนาจดินแดนรกร้างโบราณเพิ่งมาถึงก็มีกึ่งจักรพรรดินับร้อยคน นี่ต้องการจะใช้อานุภาพกดดันอันเด็ดขาดข่มขวัญทุกคนบนโลกชัดๆ!
บุคคลรุ่นอาวุโสมากมายล้วนมองออก สาเหตุที่ทุกขุมอำนาจใหญ่ของดินแดนรกร้างโบราณตั้งกระบวนรบใหญ่เช่นนี้ ก็เพื่อข่มขวัญกล่าวเตือนผู้คน เชือดไก่ให้ลิงดู!
ส่วนหลินสวินก็คือ ‘ไก่’ ที่ใกล้จะถูกฆ่าตัวนั้น
“หากหลินสวินเจ้าแห่งภูเขาชำระจิตคาดเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ เขายังมีความกล้าประกาศศึกกับขุมอำนาจของดินแดนรกร้างโบราณพวกนั้นอยู่หรือไม่”
เวลานี้ผู้ฝึกปราณทุกคนในโลกชั้นล่างล้วนหนาวสั่นไปทั้งตัวราวตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง
เผชิญหน้ากับกึ่งจักรพรรดินับร้อยคนนี้ ต่อให้บ้าระห่ำแค่ไหน สำหรับคนที่เชื่อมั่นในตัวหลินสวินก็ไม่อาจไม่ยอมรับ ว่าหากวันนี้หลินสวินกล้าปรากฏตัวต้องประสบเคราะห์แน่
ถูกกึ่งจักรพรรดินับร้อยโอบล้อม เกรงว่าหลินสวินคงไม่มีโอกาสแม้แต่จะหนี
ถึงอย่างไรต่อให้หลินสวินแข็งแกร่งแค่ไหน สุดท้ายก็แค่ตัวคนเดียว เขาสามารถสู้กับกึ่งจักรพรรดินับร้อยคนในเวลาเดียวกันได้หรือ
เวลานี้ทุกคนไม่กล้าฝากความหวังกับหลินสวินอีกแม้แต่น้อย
“หลินสวินอยู่ที่ไหน”
ทันใดนั้นเสียงหนักเข้มราวอสนีบาตสะท้อนทั่วฟ้าดิน ดังก้องอยู่ในหูราวกับเสียงของเทพไท้
บนเวิ้งฟ้า ชายผมขาวชุดม่วงที่พาดกระบี่มรรคคนหนึ่งจากแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณเอ่ยปาก “หรือว่ากลัวจนหัวหด”
ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนสีหน้าปรวนแปรไม่หยุด หากพวกเขาเป็นหลินสวิน ถ้าเห็นภาพนี้ก็คงหนีในพริบตาแน่นอน มีหรือจะกล้าปรากฏตัวอีก
“เจ้าเดรัจฉานน้อยนี่พูดไม่เป็นคำพูดจริงๆ!”
“ข้ายังคิดว่าหลายปีนี้เขาพัฒนาไปมากแค่ไหน ใครจะคิดว่าตัวเองส่งสารท้าประลอง แต่กลับไม่กล้าโผล่หัว!”
เสียงถากถาง หยามเหยียด เยียบเย็นดังมาจากปากของบุคคลสำคัญระดับกึ่งจักรพรรดิพวกนั้น ดังก้องจนฟ้าดินแถบนี้เกิดเสียงครั่นครืน
“พวกเดรัจฉานเฒ่า ตาบอดหรือไง ข้าคนแซ่หลินรออยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว”
เสียงราบเรียบหนึ่งสะท้อนก้องฟ้าดิน ดังอยู่ในหูของทุกคนอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
สายตานับไม่ถ้วนมองไปตามเสียงทันใด
พลันเห็นว่าในซากปรักหักพังของภูเขาชำระจิต มีเงาร่างสายหนึ่งเหมือนพุ่งวาบมากลางอากาศ ปรากฏตัวอยู่ในครรลองสายตาของผู้คน
เงาร่างเขาสูงตระหง่าน ราบเรียบละโลกีย์ ผมดำนัยน์ตาดำ ชุดยาวสะบัดโบก เป็นหลินสวินนั่นเอง
คราวนี้ผู้คนจึงตระหนักได้อย่างฉับพลัน ที่แท้หลินสวินก็รออยู่ที่นี่นานแล้ว เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้ถึงการมีอยู่ของเขา!
แต่เมื่อเงาร่างของเขาปรากฏในสายตาของทุกคน กลับเป็นว่ามีแค่ความเศร้ารันทดและเสียดาย
ไม่อาจไม่โศกเศร้า บนเวิ้งฟ้านั้นมีกึ่งจักรพรรดินับร้อยคนเต็มๆ กลิ่นอายน่าหวาดกลัวปกคลุมฟ้าดินทั้งแถบ การปรากฏตัวของหลินสวินไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย
‘ทำไมถึงเป็นเขา!’
เว่ยอวิ๋นจงนัยน์ตาหดรัด เผยสีหน้าประหลาดใจ
หญิงสาวหยิ่งทะนงที่อยู่ข้างกายเขาก็เบิกตากว้างยากจะเชื่อ ก่อนหน้านี้ยามเจอหลินสวินที่ทะเลตะวันออก นางยังเคยแสดงท่าทีหยามเหยียด
ใครจะคิดว่าคนที่เหมือน ‘คนผ่านทาง’ คนนี้ กลับเป็นเจ้าแห่งภูเขาชำระจิตที่ชื่อเสียงสะเทือนใต้หล้าเมื่อหลายปีก่อนนั่น!
“ท่านพ่อ ท่านอาจะชนะได้จริงหรือ”
มือเล็กของสือหลินหลางที่สวยน่ารักกำเสื้อของสืออวี่แน่น พูดอย่างประหม่าหาใดเปรียบ
“น่าจะ… ได้กระมัง”
สืออวี่สีหน้าจริงจัง ในใจก็กลัดกลุ้มเช่นกัน
“ไม่ใช่น่าจะได้ แต่เป็นได้แน่นอน” เจ้าคางคกที่อยู่ด้านข้างเอ่ยแก้
เขากับพวกอาหู อาหลู่ เสี่ยวอิ๋น เสี่ยวเทียนก็มาด้วย ยืนมองอยู่ในฝูงชน
แต่เปรียบเทียบกับความตึงเครียดและมองโลกในแง่ร้ายของคนอื่นแล้ว พวกเขากลับดูนิ่งสงบและผ่อนคลายมาก
ภายใต้เวิ้งฟ้าเมฆดำกดทับทั่วนคร
เมื่อเห็นหลินสวิน เหล่ากึ่งจักรพรรดิพวกนั้นก็อึ้งไป สีหน้าล้วนกระอักกระอ่วนอยู่บ้างเล็กน้อย
คนเป็นๆ คนหนึ่งอยู่ใต้จมูกของพวกเขาชัดๆ แต่กลับไม่สังเกตเห็น นี่ก็เหมือนการเยาะเย้ยพวกเขาว่ามีตาแต่ไร้แววโดยไร้สุ้มเสียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์