ตอนที่ 2369 กบก้นบ่อไม่รู้ความ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2369 กบก้นบ่อไม่รู้ความ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 2369 กบก้นบ่อไม่รู้ความ
“ลงมือ!”
เพียงพริบตาระดับกึ่งจักรพรรดิทั้งหมดออกโจมตีเต็มกำลัง ไม่คิดให้โอกาสหลินสวินลงมือแต่แรก สมบัตินับร้อยชิ้นสาดประกายพร่างพราย แทรกสอดวิชามรรคน่าหวาดกลัวนานัปการ พุ่งสังหารไปทางหลินสวินพร้อมกัน
เหตุการณ์นั้นสามารถทำให้เทพผีหวั่นหวาด!
หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย ไม่โศกเศร้ายินดี นัยน์ตาดำยิ่งไม่มีคลื่นความรู้สึกใดๆ
ก็เห็นเขาชี้นิ้วออกไปลวกๆ ดูผ่อนคลายสบายใจ
แต่ผู้อาวุโสเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬที่เอ็ดตะโรมาตลอดคนนั้น กล่าวกันว่าเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มีพลังปราณระดับกึ่งจักรพรรดิด่านสาม กลับถูกนิ้วที่แหวกอากาศออกไปซัดจนร่างระเบิด!
เลือดสีสดแดงก่ำนับไม่ถ้วนสาดกระจายเต็มห้วงอากาศ แขนขาขาดวิ่นปลิวว่อนไปทั่วฟ้า
หลังจากนั้นหลินสวินยื่นนิ้วมือออกมาตวัดวาดกลางอากาศ ปราณกระบี่เจิดจรัสยาวพันจั้งสายหนึ่งเคลื่อนกวาด ฟันตัวกึ่งจักรพรรดิสิบกว่าคนขาดเป็นสองท่อนตรงๆ ง่ายดายเหมือนถางวัชพืชแถบหนึ่ง
เลือดสีสดราวน้ำตกเจือเสียงร้องโหยหวนดังก้องท้องนภา
ผู้คนนับไม่ถ้วนตื่นตระหนก ตกใจจนหน้าถอดสี ขนพองสยองเกล้า
นี่ก็แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
ล้มล้างความคิดของทุกคนอย่างสิ้นเชิง!
เวลานี้หลินสวินเหมือนกลัวว่าจะช้าไปจึงทะยานตัวขึ้นมา
เสื้อแขนกว้างพลันพลิกตลบโบกสะบัด
ชิ้งๆๆ…
ปราณกระบี่ไท่เสวียนที่พร่างพรายบาดตานับไม่ถ้วนแผ่คลุมราวกับมรสุมคลั่ง แสงกระบี่เจิดจรัสพุ่งทะลวงเหนือเก้าชั้นฟ้า บดบังท้องนภาแถบนั้น
จากนั้นก็ตกลงมาพร้อมกันทันที
เหมือนฝนกระบี่ไร้เทียมทานห่าหนึ่งตกลงมา!
ตูม!
มีระดับกึ่งจักรพรรดิสามสิบกว่าคนถูกฆ่าตายคาที่ หลังจากร่างระเบิดกระจุยก็ถูกกระแสปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดนั้นบดขยี้จนเหือดระเหย สลายหายไปจนเกลี้ยง
ก่อนหน้านี้กลิ่นอายของหลินสวินราบเรียบพ้นโลกีย์ แต่ตอนนี้ยามสำแดงพลังออกมา ผู้คนถึงได้รับรู้ว่าอะไรที่เรียกว่าไร้คู่ต่อกร อะไรที่เรียกว่ากดกำราบ!
กึ่งจักรพรรดินับร้อยคนนั้น ความแข็งแกร่งของกระบวนรบสามารถทำให้สรรพชีวิตในโลกชั้นล่างสิ้นหวังได้จริงๆ
แต่ภายใต้การสังหารของหลินสวิน เพิ่งผ่านไปแค่ชั่วดีดนิ้วก็ถูกปลิดชีพอย่างง่ายดาย ราวกับต้นหญ้าไร้ค่าในชนบท!
สมบัติอะไร วิชามรรคอะไร ทั้งหมดราวกับกระดาษเปื่อยยุ่ย ไม่ว่าพลังปราณจะแข็งแกร่งแค่ไหน พลังกายแข็งแกร่งเท่าไหร่ เวลานี้ก็ล้วนดูเปราะบาง
กระทั่งฝนกระบี่ทั่วฟ้าจางหายไป
ภายใต้เวิ้งฟ้านั้นหมอกควันเคล้าคาวเลือดม้วนซัดปั่นป่วน เหลือเพียงกึ่งจักรพรรดิไม่กี่คนด้วยอยู่ห่างไปค่อนข้างไกล ทั้งหลีกหลบสุดชีวิตตั้งแต่พริบตาแรกจึงโชคดีหอบชีวิตกลับมาได้
กึ่งจักรพรรดิคนอื่นอีกเก้าสิบกว่าคนกลับถูกฆ่าตายหมด!
เวลานี้ทั้งโลกเงียบกริบ
เหลือเพียงเงาร่างที่สูงตระหง่านนั้นของหลินสวินหยัดยืนกลางอากาศ ผมดำนัยน์ตาดำ ท่าทางนิ่งเฉยไม่แยแส แต่อานุภาพนั้นกลับเหมือนเทพสวรรค์อุบัติบนโลก!
แววตาของคนนับไม่ถ้วนไหววูบ ตกใจจนจิตวิญญาณสูญเสียการควบคุม สั่นไปทั้งตัว
“จะ… เจ้าภูเขาชำระจิตเหมือนแค่ดีดนิ้ว… ก็ฆ่ากึ่งจักรพรรดิเก้าสิบกว่าคนได้? นี่น่าจะเป็นภาพหลอนกระมัง ข้า… ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเหมือนฝันไป”
“ฝันหรือ น่าจะใช่กระมัง…”
คนมากมายตะลึงงัน แววตานิ่งค้าง
อันที่จริงผลกระทบที่ตามมาจากเหตุการณ์นองเลือดเมื่อครู่นั้นมากเกินไปจริงๆ แค่ดีดนิ้ว กึ่งจักรพรรดิเก้าสิบกว่าคนก็สลายกลายเป็นธุลี?
ใครจะกล้าเชื่อ
บนโลกนี้จะมีพลังที่น่าหวาดกลัวเช่นนั้นได้อย่างไร
เวลานี้ต่อให้เป็นเหล่าผู้อาวุโสที่อวดตัวว่ามีแผนการล้ำลึกสุดหยั่ง ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางโลกมามากในที่นั้นก็ยังตกใจจนหนังศีรษะแทบระเบิด ในใจปั่นป่วน
ความจริงเป็นเพราะพวกเขาประเมินหลินสวินต่ำไปตั้งแต่ต้น กระทั่งเมื่อหลินสวินลงมือระเบิดอานุภาพของระดับมกุฎจักรพรรดิออกมา ถึงได้ทำลายความคาดหมายทั้งหมดของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง!
หากให้มหาจักรพรรดิบนทางเดินโบราณฟ้าดาราพวกนั้นเห็นเข้า ย่อมไม่มีทางเสียอาการเช่นนี้แน่
ถึงอย่างไรด้วยอานุภาพของจักรพรรดิเต้ายวน ยามจัดการกึ่งจักรพรรดิพวกนี้ นั่นก็เหมือนเทพไท้บนสวรรค์บดขยี้มดปลวกบนพื้นดิน ง่ายดายยิ่งกว่าฆ่าไก่เชือดสุนัข
“แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!”
สืออวี่ตื่นเต้นจนตะโกนลั่นขึ้นมา
“หึๆๆ ตื่นตูมไปได้ เจ้ายังไม่เคยเห็นมาดสง่างามยามพี่ใหญ่สังหารระดับจักรพรรดิ นั่นต่างหากที่เรียกว่าร้ายกาจ!”
พวกเจ้าคางคกกับอาหลู่ต่างหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
“เจ้าภูเขาชำระจิตไร้คู่ต่อกร!”
“ห้าวหาญนัก!”
“สะใจ!”
เวลานี้บุคคลรุ่นอาวุโสบางส่วนตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้น ราวกับหวนไปตอนยังหนุ่ม ภาพปีนั้นปรากฏขึ้นมา หลินสวินในตอนนั้นครองอำนาจทั่วหล้าเหมือนวันนี้ กร้าวแกร่งเจิดจ้า เป็นหนึ่งไม่มีสอง!
ไม่นานในที่นั้นพลันมีเสียงโห่ร้องยินดีระลอกหนึ่งดังขึ้น ผู้ฝึกปราณท้องถิ่นในโลกชั้นล่างมากมายต่างส่งเสียงตะโกน กู่ร้องยินดีให้หลินสวินอย่างอดไม่ได้
หลายปีมานี้ขุมอำนาจดินแดนรกร้างโบราณรุกรานโลกชั้นล่าง ยึดครองวาสนามหามรรคตามอำเภอใจ ก่อให้เกิดพายุโลหิตนับครั้งไม่ถ้วน ยึดรวบขุมอำนาจไปไม่รู้เท่าไหร่ สยบผู้ฝึกปราณท้องถิ่นในโลกชั้นล่างจนหายใจไม่สะดวก
แต่ฝีมือของหลินสวินในตอนนี้ กลับทำให้พวกเขาเห็นแสงอรุณเสี้ยวหนึ่งที่ทำลายความมืดมิด พลิกสถานการณ์ของใต้หล้า!
แม้แต่คนที่ไม่เห็นหัวหลินสวินก่อนหน้านี้ เวลานี้ก็พากันเลื่อมใส
“ไป!”
ท่ามกลางบรรยากาศอึกทึกครึกโครมนี้ กึ่งจักรพรรดิสองสามคนที่เหลืออยู่นั้นถูกทำให้ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อนานแล้ว เลือกหลบหนีตั้งแต่พริบตาแรกทันที
“ต่อหน้าข้าคนแซ่หลิน ไหนเลยจะมีหนทางรอดให้เลือกได้”
สายตาหลินสวินลุ่มลึก ก้าวออกไปก้าวหนึ่ง
ตูม!
ห้วงอากาศที่มีหลินสวินเป็นศูนย์กลางระเบิดกระจุยดังสนั่นราวกับเครื่องแก้ว พลังทำลายล้างชวนประหวั่นแผ่กระจายออกมาเหมือนลมกาฬวาต
กึ่งจักรพรรดิที่เหลืออยู่นั้นราวกับฟางข้าวที่ถูกม้วนกลืนเข้าไปในคลื่นทะเลพิโรธ ท่ามกลางเสียงร้องตื่นตระหนกหมดหนทาง ร่างแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆ จิตสิ้นวิญญาณซ่าน
พร้อมกับเสียงผ่อนคลาย ชายสวมชุดแขนกว้าง ท่าทางภูมิฐานคนหนึ่งเหินห้วงอากาศเข้ามา
ผู้อาวุโสชั้นสูงของสำนักกระบี่เทียมฟ้า เซี่ยซั่งซวี!
คนที่ถูกเซี่ยซั่งซวีเรียกว่าหมิงหยา ก็คือชายชราผมหนวดขาวโพลนและสวมชุดบัณฑิตนั่น เป็นผู้อาวุโสชั้นสูงของแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ
ฟุ่บ! ฟุ่บ!
ยามเซี่ยซั่งซวีปรากฏตัว ในสองทิศทางอื่นต่างมีเงาร่างหนึ่งปรากฏ
คนหนึ่งผมยาวสยาย สวมชุดดำท่าทางอำมหิต เป็นซิวอวิ๋นจื่อ สัตว์ประหลาดเฒ่าแห่งสำนักยุทธ์นครนิล
อีกคนเป็นผู้หญิงสวมชุดหลากสี ท่วงท่างามเพียบพร้อม ร่างกายแผ่แสงมรรคเปล่งประกาย เป็นผู้อาวุโสชั้นสูงเยวี่ยเหิงแห่งเขาวิญญาณหมื่นอสูร
ทั้งสี่คนล้วนแผ่อานุภาพของระดับจักรพรรดิออกมา อัดแน่นห้วงอากาศราวปกคลุมฟ้าดิน บีบกดจนผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนหน้ามืด ในหัวมีเสียงดังก้องจนแทบระเบิดออก
“ถอย!”
“ถอยอีก!”
ที่แห่งนั้นพลันโกลาหล ผู้คนนับไม่ถ้วนลนลาน ไม่กล้าเข้าใกล้แถบนี้อีก
ระดับจักรพรรดิสี่คนปรากฏตัวที่นี่พร้อมกัน
ก่อนหน้านี้นี่เป็นสิ่งที่ใครต่างไม่คาดคิด ความจริงแล้วนี่ยังเป็นครั้งแรกที่คนมากมายในที่นี้ได้เจอระดับจักรพรรดิด้วย
แค่มองก็ทำให้พวกเขารู้สึกตื่นตระหนกและหวั่นกลัว ไม่อาจปลุกใจให้คิดต้านทานแม้แต่น้อย
อานุภาพนั้นสูงส่งและน่าหวาดกลัวเกินไป!
เวลานี้ความรู้สึกของผู้คนที่เดิมตื่นเต้นดีใจล้วนอันตรธานหายไป ถูกความหนาวเยือกไร้สิ้นสุดเข้ามาแทน
ระดับจักรพรรดิสี่คนมาเยือน หลินสวินยังมีโอกาสต้านได้อีกหรือ
“หลินสวิน ความแค้นของเจ้ากับพวกเราสำนักแห่งดินแดนรกร้างโบราณไม่ตายไม่เลิกรานานแล้ว แต่ข้าสามารถมอบโอกาสให้เจ้าครั้งหนึ่ง ก้มหัวยอมจำนนต่อพวกเราตอนนี้ เรื่องในอดีตก็ถือว่าแล้วกันไป”
เซี่ยซั่งซวีแห่งสำนักกระบี่เทียมฟ้ากล่าวอย่างผ่อนคลาย เสียงของเขาดูจองหองราวสูงส่งเหนือผู้อื่น มองว่าให้หลินสวินยอมจำนนก็เหมือนการสร้างบุญคุณอย่างหนึ่ง
หมิงหยาแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์สมบัติวิญญาณ ซิวอวิ๋นจื่อแห่งสำนักยุทธ์นครนิล เยวี่ยเหิงแห่งเขาวิญญาณหมื่นอสูรก็เคลื่อนสายตาจับจ้องหลินสวิน
บนสีหน้าล้วนเผยความเฉยชา ท่าทีราวกำชัยไว้แล้ว
ฟ้าดินกดอัด ทั้งนครต้องห้ามปกคลุมด้วยไอสังหารที่ทำให้ผู้คนใจสั่นระรัว
กลับเห็นหลินสวินเอามือไพล่หลัง กล่าวขำขัน
“พวกเจ้านับเป็นตัวอะไร เพิ่งก้าวสู่ระดับจักรพรรดิก็กล้าให้ข้ายอมจำนนหรือ คิดว่าบรรลุจักรพรรดิแล้วไม่ต้องเกรงกลัวฟ้าดินจริงหรือ”
หากอยู่บนทางเดินโบราณฟ้าดารา แม้จะเป็นหกเรือนมรรคใหญ่ สิบเผ่านักรบใหญ่ ก็เกรงว่าคงไม่กล้าพูดจาโอ้อวดไร้ยางอายกับเขาเช่นนี้
ตอนนี้เจ้าเฒ่าที่เพิ่งบรรลุจักรพรรดิไม่กี่คนก็กล้าวางท่าเช่นนี้ ทำให้หลินสวินรู้สึกขบขันมากจริงๆ
ว่ากันตามจริงปัญหาอยู่ที่โลกทัศน์
ถูกจำกัดด้วยความรู้ความเข้าใจ แน่นอนว่าย่อมไม่รู้ความเหมือนกบก้นบ่อ!
……………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์