Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2383

สรุปบท ตอนที่ 2383 สังหารต่อเนื่อง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2383 สังหารต่อเนื่อง จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2383 สังหารต่อเนื่อง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2383 สังหารต่อเนื่อง

“จอมจักรพรรดิหลิน ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆ รึ”

ชายที่ผมหนวดสีขาวหิมะ นัยน์ตากลับเป็นสีเขียวมรกตเอ่ยปาก

คำตอบของหลินสวินง่ายยิ่ง กล่าวเรียบๆ “ภายในสามลมหายใจ หากพวกเจ้ายังไม่จากไปอีก ก็ทิ้งศพไว้ที่นี่เถอะ”

“โอหัง!”

หญิงที่มีผมยาวสีดำแกมเขียวนางผู้หนึ่งกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป ด่าทอว่า “พวกข้ามาที่นี่ ไม่ได้พุ่งเข้าเมืองไปสังหารตรงๆ ก็เป็นการไว้หน้าเจ้าจอมจักรพรรดิหลินแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เห็นพวกข้าอยู่ในสายตาอย่างชัดเจน ไม่มองตัวเองว่าสูงส่งมากไปหน่อยหรือ”

หลินสวินชำเลืองมองนางปราดหนึ่ง “ที่แท้เป็นจักรพรรดิขั้นเจ็ดคนหนึ่งนี่เอง มิน่าละถึงอารมณ์ร้ายกว่าระดับจักรพรรดิทั่วๆ ไป”

หญิงผมยาวสีดำแกมเขียวกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้ารู้ก็ดีแล้ว”

สีหน้าของนางฉายแววเย่อหยิ่ง

แต่ครู่ถัดมาก็พบว่าหลินสวินพ่นคำหนึ่งออกมาจากริมฝีปากเบาๆ

“ไสหัวไป!”

สีหน้าของหญิงผมดำแกมเขียวเปลี่ยนไป เหมือนพบกับความอัปยศครั้งใหญ่อย่างไรอย่างนั้น พลานุภาพทั่วร่างแปรเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้นมาทันใด

นางหมายจะพูดอะไรบางอย่าง

แต่หลินสวินที่อยู่ไกลออกไปโบกแขนเสื้อรอบหนึ่ง

ตูม!

ภูผาธาราสั่นสะเทือน ฟ้าดินพลิกคว่ำ

ปราณกระบี่บาดตาหาใดเปรียบสายหนึ่งฟันใส่หญิงผมยาวดำแกมเขียวที่อยู่ไกลออกไปประหนึ่งธารสวรรค์ทำลายเขื่อน ในปราณกระบี่มีหุบเหวลอยอยู่

“ทะยาน!”

หญิงผมยาวดำแกมเขียวตอบสนองในฉับพลัน เรียกกระเช้าดอกไม้ที่สีสันแพรวพราวใบหนึ่งออกมา ในกระเช้าพ่นประกายเทพมากมายออกมา ควบรวมเป็นทะเลบุปผาที่งดงามไพศาลแถบหนึ่งกลางฟ้า ปกฟ้าคลุมดิน งามจนทำให้คนใจสั่น

นี่เป็นศาสตราจักรพรรดิที่ทรงพลังชิ้นหนึ่ง อัศจรรย์ยากหยั่งถึง หากถูกกลีบดอกนั้นสัมผัสเข้า สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณทั่วร่างจะถูกกลืนกินหมดในพริบตา

ทันทีที่ลงมือก็เรียกสมบัติจักรพรรดิออกมา ใช้พลังทั้งหมดควบคุม เห็นได้ชัดว่าหญิงผมยาวดำแกมเขียวคนนี้ก็รู้ถึงผลงานการต่อสู้ของหลินสวิน และรู้ความน่ากลัวของเขา

น่าเสียดายที่นางพลาดไป

ในแดนหมื่นมรรคนี้ แม้พลังของทั้งคู่จะถูกกดไว้ที่ระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่งเหมือนกัน แต่ในระดับเดียวกันก็ไม่มีใครสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินได้

ต่อให้ร่างหลินสวินที่เคลื่อนไหวอยู่ตอนนี้เป็นเพียงกายมรรคทองขาวก็ตาม

ก็เห็น…

ตูม!

ปราณกระบี่ฟาดฟัน ทะเลบุปผาเพริศพรายที่ปกคลุมฟ้าดินถูกปราณกระบี่ไพศาลกรีดเปิดในชั่วพริบตา กระเช้าดอกไม้ที่ระยิบระยับนั่นก็ถูกฟันระเบิดท่ามกลางเสียงครวญรุนแรง

หญิงผมยาวดำแกมเขียวหวาดหวั่นโดยพลัน หนังหัวชาหนึบ คิดจะหนีก็ไม่ทันการแล้ว จึงทำได้เพียงเดิมพันทุกสิ่ง พยายามต้านทานสุดชีวิต

ทว่าภายใต้ปราณกระบี่ที่น่าครั่นคร้ามนั้น นางในยามนี้ก็ประหนึ่งมดเขย่าต้นไม้ พริบตาเดียวก็ถูกปราณกระบี่กลมท่วมมิดร่าง

“ไม่…” เสียงหวีดร้องน่าสังเวชหาใดเปรียบดังก้องขึ้น ร่างของหญิงผมยาวดำแกมเขียวก็แปรสภาพเป็นเถ้าธุลีปลิวว่อน

หนึ่งกระบี่ ฟันจักรพรรดิ!

เร็วจนคาดไม่ถึง ทำให้ระดับจักรพรรดิคนอื่นๆ ถึงขั้นช่วยไว้ไม่ทัน

“เป็นไปได้อย่างไร…”

พวกเขาสั่นสะท้าน นัยน์ตาหดเกร็ง

หนึ่งกระบี่ก็สังหารพวกพ้องคนหนึ่งของพวกเขาได้ง่ายๆ นี่สั่นสะเทือนพวกเขาอย่างมหาศาล

ส่วนบรรดาผู้ฝึกปราณที่เฝ้ามองเหตุการณ์นี้ต่างอ้าปากค้าง สีหน้าเหลอหลาอยู่ตรงนั้น

“ไป!”

แม้สีหน้าของจักรพรรดิเก้าคนนั้นจะไม่น่าดู แต่ก็ยังตระหนักได้ถึงอันตราย จึงไม่กล้าลังเล หมายจะถอยทัพทันที

ก่อนพวกเขาจะมาที่นี่ก่อนหน้านี้ ก็ได้ใคร่ครวญอย่างรอบคอบมาแล้ว คิดว่าอาศัยการร่วมมือกันของทั้งสิบคน ย่อมสามารถกดดันหลินสวินได้

ถึงอย่างไรในแดนหมื่นมรรคนี้ ปราณของทั้งสองฝ่ายต่างก็ถูกกดไว้ระดับจักรพรรดิขั้นหนึ่ง แม้ว่าพลังต่อสู้ระหว่างสองฝ่ายจะต่างกัน แต่ก็ยังสามารถอาศัยข้อได้เปรียบเรื่องจำนวนคนไปชดเชยได้

แต่ใครจะคิดว่ายามเผชิญหน้ากับหลินสวินจริงๆ ได้เห็นพลังต่อสู้ที่แท้จริงของหลินสวินกับตาตัวเอง พวกเขาถึงเพิ่งตระหนักเอาตอนนี้ ว่าสิ่งที่เรียกว่าแผนการและการเตรียมตัวของพวกเขาทั้งหมด ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องน่าขัน

ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงล้วนไม่กล้ารั้งอยู่ต่อ

แต่ก็เป็นตอนนี้ที่เสียงราบเรียบดุจสายน้ำนั้นของหลินสวินดังขึ้น “เวลาสามชั่วลมหายใจผ่านไปแล้ว…”

พริบตานั้นสีหน้าระดับจักรพรรดิเก้าคนก็เปลี่ยนไปโดยพลัน

มีคนคำรามขึ้นตามจิตใต้สำนึก “จอมจักรพรรดิหลิน เจ้าอย่ารังแกกันเกินไป พวกข้า…”

พรูด!

ยังไม่ทั้งสิ้นเสียงก็ถูกปราณกระบี่สายหนึ่งทะลวงหว่างคิ้ว พลังจิตแหลกเป็นจุณ ร่างกลายเป็นเถ้าธุลีปลิวหายไปกลางอากาศ

“รีบไป!”

มีหรือคนอื่นๆ จะยังกล้าชักช้าอีก โคจรปราณทั่วร่างอย่างบ้าคลั่งสุดชีวิต เผ่นหนีไปคนละทิศทาง

“ไป!”

“ไป!”

“ไป!”

…ก็เห็นหลินสวินโบกแขนเสื้อ วาดนิ้วติดต่อกัน ปราณกระบี่พร่างพราวเป็นสายๆ กรีดทำลายเวิ้งฟ้าออกไป

ชั่วครู่หนึ่ง ในทิศทางที่ต่างกันเกิดเสียงร้องน่าอนาถดังขึ้นติดต่อกันระลอกหนึ่ง ระดับจักรพรรดิคนแล้วคนเล่าประหนึ่งวัชพืช ถูกปราณกระบี่ของหลินสวินกวาดซัด ตายคาที่

ไม่ว่าจะหนีไปที่ไหน

ไม่ว่าจะต้านทานอย่างไร

ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหนึ่งกระบี่นี้ทั้งสิ้น!

และตั้งแต่วันนั้น พวกอาหูก็จากไปด้วยกัน

ส่วนหลินสวินยังอยู่ที่แดนต้นกำเนิดหมื่นมรรคต่อ นั่งสมาธิหยั่งรู้นัยเร้นลับแก่นแท้ของมหามรรค

สองเดือน

สามเดือน

…การหยั่งรู้เช่นนี้ยืดยาวออกไปถึงครึ่งปีเต็ม พลังระเบียบของแดนต้นกำเนิดหมื่นมรรคนี้ก็เปลี่ยนไปจนน่าพรั่นพรึงหาใดเปรียบ ด้วยมรรควิถีที่แข็งแกร่งของหลินสวินก็ยังกลืนไม่ลง

แต่หลินสวินไม่ได้จากไป เขายังคงต้านทานอยู่

วู้ม…

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งปรากฏ

เพลิงหงส์ระเบียบที่พร่างพราวแผ่ลอยง สร้างพลังระเบียบแปลกประหลาดไปต้านและขจัดแรงกดดันระเบียบของแดนต้นกำเนิดหมื่นมรรค

ทันใดนั้นทั่วร่างหลินสวินก็ผ่อนคลายลงระลอกหนึ่ง

‘ได้ผลดังคาด แต่ด้วยมรรควิถีของข้า หมายจะคงพลังของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งไว้ตลอด อย่างมากที่สุดก็คงยืนหยัดได้เพียงครึ่งเดือน…’

‘แต่ก็เพียงพอแล้ว รอถึงตอนที่ทนไม่ไหวจริงๆ ค่อยออกจากที่นี่ไปก่อน เมื่อพลังปราณฟื้นตัวค่อยเข้ามาหยั่งรู้ที่นี่ใหม่ก็ได้…’

ขณะที่กำลังใคร่ครวญอยู่ หลินสวินก็เริ่มหยั่งรู้ต่อ

ในช่วงครึ่งปีก่อนหน้านี้ เขาหยั่งถึงนัยเร้นลับของกฎเกณฑ์มหามรรคใหม่ได้สี่สิบแปดชนิด

หากรวมกับกฎเกณฑ์มหามรรคที่ครอบครองไว้ก่อนหน้านี้ มหามรรคที่เขาครอบครองในตอนนี้ก็มีถึงเจ็ดสิบเก้าชนิดแล้ว

กฎเกณฑ์มหามรรคทุกชนิดล้วนถูกเขาหลอมรวมเข้าไปในระดับจักรพรรดิทั้งหมด หยั่งถึงแก่นแท้ ไม่มีชนิดใดไม่สะท้อนกลิ่นอายแห่งแก่นแท้และดั้งเดิมที่สุดในมหามรรค

จนถึงตอนนี้แม้ว่าพลังปราณทั่วร่างของหลินสวินจะไม่เคยเกิดการเปลี่ยนสภาพอย่างแท้จริง แต่จำนวนมหามรรคที่ครอบครองซึ่งเพิ่มไม่หยุดนั้น สำหรับมรรคาของเขาในภายภาคหน้า จะต้องมีประโยชน์มหาศาลอย่างแน่นอน

นี่ก็เหมือนกับการสสะสม ยามที่สั่งสมมรรควิถี ไม่ช้าก็เร็วก็ย่อมเบ่งบาน เกิดการเปลี่ยนแปลงน่าอัศจรรย์ประหนึ่งผีเสื้อทลายรังไหม

ช่วงเวลาถัดมา ตอนที่หลินสวินยืนหยัดหยั่งรู้ต่อไม่ไหวก็จะออกจากแดนต้นกำเนิดหมื่นมรรค หลังจากพลังปราณฟื้นตัวแล้วถึงค่อยกลับเข้ามาหยั่งรู้มหามรรคต่อในแดนต้นกำเนิดหมื่นมรรค

เกรงว่าเฒ่าประลองหมากเองก็คงคิดไม่ถึงเช่นกัน ว่าหลินสวินอาศัยเพลิงหงส์ระเบียบของเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็สามารถหยั่งรู้ในแดนต้นกำเนิดหมื่นมรรคได้ยาวนานขึ้น

ไม่ทันรู้ตัว ช่วงเวลาที่หลินสวินหยั่งรู้ในแดนต้นกำเนิดหมื่นมรรคก็ผ่านไปสามปีแล้ว

ในโลกภายนอก นับตั้งแต่ก่อตั้งสำนักยุทธ์ก่อเกิดจนถึงตอนนี้ก็ผ่านไปสามปีเช่นกัน

สามปี

ภายใต้สถานการณ์ที่ไอวิญญาณแพร่กระจายอย่างบ้าคลั่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โลกชั้นล่างในทุกอาณาเขตล้วนเกิดความเปลี่ยนแปลงที่พลิกฟ้าพลิกดิน

ตัวอย่างที่เด่นชัดที่สุดก็คือ ในช่วงสามปีนี้ทุกช่วงเวลาหนึ่งจะมีข่าวของ ‘การแจ้งมรรคบรรลุจักรพรรดิ’ แพร่ออกมา สั่นสะเทือนทั่วหล้า สร้างความฮือฮาไม่รู้เท่าไหร่

ขณะเดียวกันบนโลกนี้ก็มีคนโดดเด่นปรากฏตัวออกมากลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ลานตาเป็นที่สุด แต่ละคนล้วนเหยียบย่างบนมรรคาอย่างห้าวหาญ เผยความสง่างามเหนือสามัญออกมา

แม้จะเป็นผู้ฝึกปราณทั่วไป ในโลกที่ไอวิญญาณฟื้นคืนนี้ ต่างล้วนทะลวงระดับไม่หยุด!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์