Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2392

สรุปบท ตอนที่ 2392 โลกพยับคราม หญิงชุดกระโปรงเขียว: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 2392 โลกพยับคราม หญิงชุดกระโปรงเขียว – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2392 โลกพยับคราม หญิงชุดกระโปรงเขียว ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 2392 โลกพยับคราม หญิงชุดกระโปรงเขียว

เขาพยับคราม

เมื่อไอวิญญาณฟื้นคืน ฟ้าดินผันแปร จุดที่เขาพยับครามเคยตั้งอยู่ขยายกว้างหลายสิบเท่าเมื่อเทียบกับในอดีต

ในวันนี้ หลินสวินพาซูไป๋มาเยือนอย่างผ่าเผย

ทอดสายตาออกไปไกลๆ ก็เห็นบนเขาพยับครามที่ยิ่งใหญ่เก่าแก่ พยับหมอกคละคลุ้ง ทั่วภูเขาเหมือนถูกปกคลุมมิด เห็นได้ชัดว่าลึกลับยิ่ง

‘แปลก’

หลินสวินเลิกคิ้ว แวบเดียวก็มองออกว่าทั่วเขาพยับครามทั้งบนล่าง ถูกพลังผนึกคลุมเครือแปลกประหลาดปกคลุม ผู้ฝึกปราณทั่วไปไม่สามารถเฉียดใกล้ได้

แม้แต่ระดับจักรพรรดิ หากพรวดพราดเข้าไปในนั้นเกรงว่ายังต้องหลงทาง!

จากนั้นหลินสวินพลันเผยสีหน้าพิกล เพราะกระบวนผนึกลายมรรคที่ปกคลุมทั้งบนล่างเขาพยับคราม เห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งที่กายมรรคเพลิงแดงวางเอาไว้

‘มิน่าถึงสัมผัสกลิ่นอายของกายมรรคเพลิงแดงไม่ได้ ดูท่าหลังจากเข้าไปในภูเขาลูกนี้ คงเจอเรื่องตึงมืออะไรเข้า’

ขณะหลินสวินใคร่ครวญ เขาให้ซูไป๋เข้าไปในสมบัติ ส่วนตนก็ขยับเข้าใกล้เขาพยับคราม

เมื่อเขาโบกแขนเสื้อ บนเขาพยับครามที่หมอกควันเป็นชั้นๆ นั่นบังเกิดเส้นทางสายหนึ่งขึ้นเงียบๆ

หลินสวินเดินตรงเข้าไปในนั้น

เขาพยับครามสูงใหญ่เกรียงไกร ทอดตัวเรียงกัน บริเวณไหล่เขามีต้นไม้โบราณที่เหมือนหลอมขึ้นจากสำริดต้นหนึ่งตั้งอยู่ ลำต้นและกิ่งก้านต่างโล้นเตียน ทอแสงประกายสำริด ทอดลามไปยังส่วนลึกของเวิ้งฟ้า

เมื่อหลายปีก่อนตอนที่หลินสวินเข้าร่วม ‘เทศกาลโคมกถามรรค’ ก็เคยเห็นต้นไม้นี้ ผู้ฝึกปราณในแดนฐิติประจิมต่างเรียกมันว่า ‘ต้นโคมสำริดมรรคโบราณ’

แต่ตอนนี้หลินสวินรู้นานแล้วว่า ควรเรียกต้นไม้นี้ว่าต้นเทพชางอู๋ถึงจะถูก!

ทว่าก็เป็นเพียงเปลือกเปล่าเท่านั้น ไม่มีรากปฐมจิตวิญญาณอยู่

ไม่นานหลินสวินก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของกายมรรคเพลิงแดง ฝ่ายหลังถึงกับเข้าไปในต้นเทพชางอู๋นั่นแล้ว

‘ในความเล็กจ้อยซุ่มซ่อนความยิ่งใหญ่ โลกลับแฝงเร้นอยู่ในนั้น! ภายในต้นเทพชางอู๋นี่ ความจริงแล้วบรรจุโลกลับใบหนึ่งเอาไว้’

หลินสวินกระจ่างแล้ว

เขาเดินตรงเข้าไป เงาร่างวาบไหวพุ่งเข้าไปในต้นเทพชางอู๋

ทันใดนั้นคลื่นมิติแปลกประหลาดดุจดาวเคลื่อนดาราคล้อยระลอกหนึ่งเรืองแสงขึ้น ครู่ต่อมาเงาร่างของหลินสวินก็ปรากฏอยู่กลางฟ้าดารามืดมิดเวิ้งว้างแห่งหนึ่ง

โลกลับใบแล้วใบเล่าคล้ายกิ่งก้านที่แผ่ขยาย เรียงซ้อนเป็นชั้นๆ เชื่อมโยงร้อยเรียงกัน ทอดยาวไปทางส่วนลึกของฟ้าดารา มองไม่เห็นปลายทาง

หลินสวินอึ้งไป อดสะท้อนใจไม่ได้ ภายในต้นเทพชางอู๋นี่ ปรากฏภาพตระการตาอย่าง ‘บรรจุโลกหล้า หมื่นโลกเชื่อมโยง’

สวบ!

ทันใดนั้นในโลกลับใบหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป เงาร่างของกายมรรคเพลิงแดงปรากฏ สายตามองมาทางกายมรรควารีดำของหลินสวินมาแต่ไกล

พริบตาความทรงจำและประสบการณ์ของสองฝ่ายก็เริ่มหลอมรวมกัน

ครู่ต่อมา กายมรรควารีดำของหลินสวินก็รับรู้ถึงประสบการณ์ระยะนี้ของกายมรรคเพลิงแดงในโลกแปลกประหลาดใบนี้

ที่แท้หลังจากกายมรรคเพลิงแดงหาที่แห่งนี้พบ ก็ใช้พลังผนึกปิดผนึกทั้งเขาพยับครามเอาไว้ ที่ทำเช่นนี้ด้วยห่วงว่ารากปฐมจิตวิญญาณของต้นเทพชางอู๋จะหนีไป

และหลังจากเขาเข้ามาในต้นเทพชางอู๋ ก็มาถึง ‘โลกฟ้าดารา’ แห่งนี้ หนำซ้ำยังได้พบกับคู่ต่อสู้ที่ฝีมือกร้าวแกร่งยิ่งคนหนึ่ง

นั่นเป็นหญิงสวมชุดกระโปรงเขียว รูปโฉมงดงาม ที่มาลึกลับคนหนึ่ง

ที่น่าเหลือเชื่อที่สุดคือ หญิงคนนี้ก็ถึงกับเป็นมกุฎมหาจักรพรรดิคนหนึ่ง มรรควิถีในตัวถูกกดอยู่ในระดับกึ่งจักรพรรดิสามด่านเช่นเดียวกัน

กายมรรคเพลิงแดงเคยประมือกับอีกฝ่าย ความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้ที่ฝ่ายหลังสำแดงออกมา ทำให้กายมรรคเพลิงแดงยังรู้สึกตกใจเหลือล้น

แต่ยังดี หากพูดถึงมรรควิถีและฝีมือต่อสู้ หญิงกระโปรงเขียวกลับด้อยกว่าช่วงหนึ่ง ระหว่างที่สองฝ่ายประมือกัน หญิงกระโปรงเขียวตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบตลอด

แต่ที่ทำให้กายมรรคเพลิงแดงปวดหัวคือ ในมือหญิงกระโปรงเขียวควบคุมสมบัติจักรพรรดิที่อัศจรรย์สุดหยั่งหลายชิ้น ช่วยนางผ่อนหนักเป็นเบาบ่อยครั้ง

กว่าครึ่งปีมานี้ กายมรรคเพลิงแดงเคยประมือกับหญิงกระโปรงเขียวหลายครั้ง แต่ทุกครั้งนางล้วนหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

และต่อมา ในการปะทะคารมระหว่างที่สองฝ่ายต่อสู้กัน ทำให้กายมรรคเพลิงแดงรู้ว่าหญิงกระโปรงเขียวคนนี้ไม่ใช่คนในดินแดนรกร้างโบราณ และไม่ได้มาจากทางเดินโบราณฟ้าดารา หากแต่มาจากโลกฝากฝั่ง!

มกุฎมหาจักรพรรดิจากอีกฟากฝั่งคนหนึ่ง ซ้ำยังเป็นสตรี นี่เห็นได้ชัดว่าน่าเหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

ถึงอย่างไรบนทางเดินโบราณฟ้าดาราในตอนนี้ ยังถูกพลังระเบียบต้องห้ามปกคลุมอยู่ เส้นทางที่เชื่อมสู่อีกฟากฝั่งก็ถูกปิดกั้นมาตลอด

แต่หญิงกระโปรงเขียวคนนี้กลับสามารถข้ามผ่านฟ้าดารามาโผล่ที่ดินแดนรกร้างโบราณได้ นี่ย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่ถึงแม้ไม่รู้ชื่อแซ่และที่มาแท้จริงของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน รวมถึงว่านางข้ามผ่านฟ้าดารามาได้อย่างไร แต่กายมรรคเพลิงแดงก็ยังพอคาดเดาได้

ว่าอีกฝ่ายมาเพราะรากปฐมจิตวิญญาณของต้นเทพชางอู๋ ทั้งยังกำราบสมบัติชิ้นนี้ไปแล้ว!

เพราะอีกฝ่ายพยายามหนีออกจากโลกฟ้าดาราที่แปลงมาจากลำต้นต้นเทพชางอู๋นี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ล้วนถูกกายมรรคเพลิงแดงขัดขวางเอาไว้

และนี่คือเหตุผลว่าทำไมจวบจนตอนนี้กายมรรคเพลิงแดงยังคงเฝ้าที่แห่งนี้อยู่

หลังจากรับรู้เรื่องทั้งหมดนี้ ในห้วงนิมิตของกายมรรควารีดำของหลินสวิน ก็ผุดภาพและรายละเอียดต่างๆ ที่กายมรรคเพลิงแดงปะทะกับหญิงกระโปรงเขียวในช่วงกว่าครึ่งปีมานี้

หญิงผู้นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ สวมชุดกระโปรงเขียวทั้งตัว ผิวเนียนผ่องราวหยก รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ความงามบนเครื่องหน้าดุจดั่งเซียนที่เดินออกมาจากภาพวาด

หว่างคิ้วของนางมีลวดลายมรรคสีทองแปลกๆ สายหนึ่งโดยกำเนิด

ในมือนางมีสมบัติอัศจรรย์สุดหยั่งอยู่สามชิ้น

เห็นชัดว่านางมั่นใจและเยือกเย็นยิ่ง

“ไม่ลองดูจะรู้ได้อย่างไร”

หลินสวินกล่าวลวกๆ ว่าพลางก็เตรียมจะลงมือ

“ช้าก่อน”

ไกลออกไปกลับเห็นหญิงกระโปรงเขียวกล่าว “สิ่งที่เจ้าต้องการก็แค่รากปฐมจิตวิญญาณต้นเทพชางอู๋เท่านั้น ข้าให้เจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องปลดกระบวนผนึกที่ผนึกที่นี่ไว้ ให้ข้าออกไป”

“นี่ถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยนหรือ” หลินสวินขบคิด

“ข้าถามว่าเจ้าจะรับปากหรือไม่” หญิงกระโปรงเขียวขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าในใจนางยังต่อต้านกับข้อเสนอที่ยื่นให้อยู่มาก

หลินสวินกล่าว “ได้ แต่ข้ายังมีเงื่อนไขอื่นอีก”

“เจ้าอย่าหวังได้คืบจะเอาศอก”

ดวงตาคู่งามของหญิงกระโปรงเขียวเย็นเยียบ “หากไม่ใช่เพราะไม่อยากสิ้นเปลืองไพ่ตายในมือไปกับคนอย่างเจ้า คิดจริงๆ หรือว่าข้าจะแลกเปลี่ยนอะไรแบบนี้กับเจ้า”

หลินสวินยิ้ม “เช่นนั้นก็ไม่ต้องแลก แสดงฝีมือแท้จริงให้เห็นเลยก็ได้”

คำพูดเรียบง่าย แต่เห็นได้ชัดว่าแข็งกร้าวยิ่ง

หญิงกระโปรงเขียวอึ้งงัน ดวงหน้าหยกงดงามราวภาพวาดเปลี่ยนไปมา ครู่ใหญ่กว่าจะกล่าวว่า “ว่ามา เจ้ายังมีเงื่อนไขอะไรอีก”

หลินสวินกล่าว “ลองบอกฐานะที่มาของเจ้าหน่อย… สิ่งสำคัญยิ่งกว่าคือ เจ้ามาที่นี่จากอีกฟากฝั่งได้อย่างไร”

หญิงกระโปรงเขียวถอนหายใจโล่งอกอย่างสังเกตได้ เห็นได้ชัดว่าเงื่อนไขเหล่านี้ที่หลินสวินเสนอ ไม่ถือเป็นอะไรสำหรับนาง

“ข้าแซ่หยวน นามชิงเหิง มาจากโลกฝากฝั่งที่พวกเจ้าพูดถึง เป็นทายาทสายตรงของเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลหยวน”

หญิงกระโปรงเขียวน้ำเสียงราบเรียบ แต่หลินสวินยังฟังออกว่าตอนที่พูดคำว่า ‘เผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลหยวน’ ยังแฝงความภาคภูมิทะนงตัวอยู่จางๆ

น่าเสียดาย หลินสวินไม่รู้สักนิดว่าในโลกฝากฝั่งนั่น เผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลหยวนเป็นตัวแทนของอำนาจและบารมีแบบไหนกันแน่

ฉะนั้นภายในใจเขาจึงไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์หวั่นไหวใดๆ โดยสิ้นเชิง

การตอบสนองอันนิ่งสงบของหลินสวินอยู่ในสายตาหยวนชิงเหิง ทำเอานางอึ้งไปน้อยๆ จากนั้นในใจก็รู้สึกขำตัวเองขึ้นมา คนพื้นถิ่นในทางเดินโบราณฟ้าดารานี่ เกรงว่าแม้แต่เผ่าจักรพรรดิอมตะเป็นตัวตนแบบไหนยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ นี่ก็เท่ากับตน… สีซอให้ควายฟังแล้ว

หลินสวินไม่รู้ถึงการตอบสนองชั่ววูบในใจหยวนชิงเหิง และต่อให้รู้ก็ไม่มีทางแยแสแม้แต่น้อย

เขากล่าวเตือน “แม่นาง เจ้ายังไม่ได้บอกเลยว่ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์