Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2398

สรุปบท ตอนที่ 2398 ตระกูลหลินมีลูกชาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2398 ตระกูลหลินมีลูกชาย จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2398 ตระกูลหลินมีลูกชาย คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2398 ตระกูลหลินมีลูกชาย

หลินสวินที่เดิมต้องการออกเดินทางหลังจากควบรวมต้นกล้าของต้นแรกกำเนิดได้ กลับถูกเรื่องยินดีที่ไม่คาดฝันมาขัดขวางไว้

ก็ในวันนั้นเอง พื้นผิวรังมังกรสีทองปรากฏรอยแตก!

เปรี๊ยะ… เปรี๊ยะ…

เมื่อหลินสวินเอารังมังกรสีทองออกมาอย่างระมัดระวัง ก็ได้ยินเสียงแตกกรอบแกรบแผ่วเบาระลอกหนึ่งดังขึ้น เศษเสี้ยวลายมรรคแปลกประหลาดชิ้นแล้วชิ้นเล่าเริ่มร่วงพรูลงมา

หลังจากเศษทุกชิ้นร่วงลงมาก็หายลับไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับหิมะละลาย

ทว่าหลินสวินไม่อาจสนใจเรื่องพวกนี้แล้ว

มือทั้งสองของเขากำแน่น

ตัวแข็งทื่อ

ดวงตาเบิกกว้าง จ้องรังมังกรสีทองที่แปรสภาพไม่หยุดนั้นเขม็ง

สภาวะจิตที่ในอดีตมั่นคงดั่งหินผา ขนาดเผชิญหน้ากับความเป็นความตายยังเยือกเย็นราบเรียบ ไหวหวั่นอย่างรุนแรงในตอนนี้

ความรู้สึกกังวล ตื่นเต้น กระสับกระส่ายอย่างไม่เคยประสบมาก่อนก็โหมพัดขึ้นในอกราวกับพายุที่จู่ๆ ก็อุบัติขึ้น ทำให้ตัวเขาเหมือนคันธนูที่ถูกขึงจนตึง

เปรี๊ยะ… เปรี๊ยะ…

เสียงแตกแผ่วเบายังดังอยู่ เวลาเหมือนถูกยืดยาวออกไปให้เชื่องช้าหาใดเทียบ

ในที่สุดหลินสวินก็มองเห็นร่างงามอันคุ้นตานั้น

ท่ามกลางแสงเทพสีทองที่นุ่มนวลและงดงาม นางนอนนิ่งๆ เช่นนั้น เส้นผมดั่งน้ำตกสยายออก ใบหน้าขาวสะอาดแจ่มกระจ่างเจือประกายแสงงดงามสงบนิ่ง

จ้าวจิ่งเซวียน!

ผ่านไปหลายปี เมื่อได้พบหญิงสาวที่เขาพึงใจผู้นี้อีกครั้ง หลินสวินรู้สึกเพียงว่าหัวใจจะหยุดเต้น ความรู้สึกปั่นป่วนยุ่งเหยิงไม่อาจหยุดลงได้สักนิด

เดิมทีหลินสวินอ้าปากจะเอื้อนเอ่ย แต่ครู่ต่อมาก็นิ่งไป

ราวกับถูกสายฟ้าฟาด

ทั้งตัวเหม่อลอย ดวงตาจ้องเขม็งในอ้อมแขนของจ้าวจิ่งเซวียน

ตรงนั้นมีเด็กทารกตัวเปล่าเปลือยคนหนึ่งกำลังคลอเคลียอยู่ในอ้อมแขนของจ้าวจิ่งเซวียน ดวงตาโตสีดำสนิทใสกระจ่างทั้งสองข้างเบิกกว้าง มองเขาอย่างสงสัยใคร่รู้

เท้าน้อยๆ ขาวผ่องทั้งคู่ของเขาขดคู้อยู่ แม้จะเป็นเด็กทารกที่เพิ่งถือกำเนิดขึ้นบนโลก แต่หว่างคิ้วก็เปี่ยมกลิ่นอายงามสง่าแล้ว โดยเฉพาะดวงตาทั้งสอง เหมือนจ้าวจิ่งเซวียนมารดาของเขายิ่งนัก

ส่วนสันจมูกน้อยโด่งๆ ของเขา ปากเล็กที่เม้มน้อยๆ อยู่นั้นละม้ายกับหลินสวินมาก

ตูม!

หลินสวินเพียงรู้สึกคล้ายสมองจะระเบิด สั่นสะท้านไปทั้งตัว จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเจ้าตัวจ้อยนี่คือลูกชายที่ทำให้ตนตั้งตาคอย ทั้งยังตื่นเต้นกระวนกระวายมานานปี

แต่หลินสวินคิดไม่ถึงสักนิดว่าช่วงเวลานี้จะมาเยือนกะทันหันเช่นนี้ ไม่ทันได้ตั้งตัวขนาดนี้ เล่นเอาเขาไม่ได้เตรียมการรับมือไว้สักนิด

ชั่วขณะหนึ่งจึงชะงักงันอยู่ตรงนั้น

“อ้อแอ้ๆ” เสียงอ่อนเยาว์ระลอกหนึ่งดังขึ้น ดูแหลมเล็กนัก แต่กลับเปี่ยมไปด้วยพลัง

ขณะเดียวกันเสียงอ่อนโยนนุ่มนวลเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ดูท่านพ่อโง่งมของเจ้าสิ พูดไม่เป็นเสียแล้ว”

ในที่สุดหลินสวินก็ค่อยๆ ได้สติกลับมา เขาสูดหายใจเข้าออกลึกๆ สองสามครั้งถึงค่อยเห็นว่ารังมังกรสีทองสลายไปแล้ว จ้าวจิ่งเซวียนยืนขึ้นมาแล้ว

นางสวมชุดหยกลายเมฆโปร่งสบายและงามสง่า ผมดำดั่งสีหมึกมัดไว้ลวกๆ ด้วยเชือกแดงเส้นหนึ่ง เรือนร่างสูงอรชรมีเสน่ห์นุ่มนวลเป็นผู้ใหญ่เพิ่มขึ้นมาสามส่วน แขนเรียวยาวทั้งสองข้างขาวผุดผ่องเปล่งปลั่ง อุ้มบุตรชายไว้ในมือเบาๆ

ยามเนตรกระจ่างมองดูหลินสวิน ล้วนเต็มไปด้วยแววอ่อนโยนหวานละมุน

ผ่านไปนานขนาดนี้ ยามตื่นมาก็ได้พบกับคนที่นางคะนึงหาในทันที นี่ทำให้ในใจนางเองก็ตื่นเต้นไม่หยุด

“จิ่งเซวียน”

หลินสวินทนไม่ไหวอีกต่อไป ก้าวเข้าไปกอดจ้าวจิ่งเซวียนเอาไว้ แต่ก็กังวลถึงทารกในอ้อมแขน ถึงขั้นว่าอ้อมกอดนี้กอดอย่างระมัดระวังอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้

จ้าวจิ่งเซวียนหลุดขำ หลุบตามองดูทารกน้อยแล้วเอ่ยว่า “เรียกท่านพ่อสิ”

“ท่านพ่อ”

ดวงตาดำของทารกน้อยจดจ้อง ร้องเรียกเสียงใส

หลินสวินอึ้งไปทันที คำพูดยังติดขัดแล้ว “ขะ เขา… เขาเพิ่งเกิดก็พูดได้แล้วหรือ”

จ้าวจิ่งเซวียนกะพริบตาปริบๆ เจือความภูมิใจอันมีเป็นเอกลักษณ์ของความเป็นแม่ “เจ้าก็ไม่ดูบ้างว่าเป็นลูกใคร จะไปเทียบกับคนธรรมดาได้อย่างไร”

ในสายตาของมารดา ลูกของตนดีที่สุดในโลกเสมอ

หลินสวินยิ้มพลางยื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าบอบบางอ่อนนิ่มนั้นอย่างระมัดระวัง ความรู้สึกประหลาดผุดขึ้นในใจ

“ท่านพ่อ ท่านแม่ข้าพูดถูก ยามแรกกำเนิดของข้า ข้าก็จำสิ่งที่ได้รู้และสัมผัสในรังมังกรสีทองนั่นในช่วงหลายปีมานี้ได้อย่างชัดเจนแล้ว”

เด็กทารกเอ่ยเสียงใส “แม้ข้ากับท่านแม่ไม่ได้ตื่นขึ้นมา แต่ใช้จิตสำนึกพูดคุยกันตลอด แยกแยะความลึกลับของมหามรรค ล่วงรู้ความมหัศจรรย์ของหมื่นลักษณ์ทั่วหล้าได้นานแล้ว ท่านอย่ามองข้าเป็นเด็กน้อยอีกล่ะ”

เขาเบิกตากว้างอย่างแข็งขัน เผยแววจริงจัง

เพียงแต่เขายังมีรูปลักษณ์ของเด็กทารกคนหนึ่งอยู่ดี งามดั่งหยกสลัก ยามพูดจายังมีน้ำเสียงเด็กน้อย กลับดูน่ารักนัก

จิตใจหลินสวินปั่นป่วนไปครู่หนึ่ง แขนทั้งสองอุ้มทารกน้อยไว้เบาๆ แล้ววางลงตรงหน้าตน โต้ตอบและสัมผัสอย่างละเอียดถี่ถ้วน

สักพักเขาก็ต้องยอมรับ ว่าลูกที่ตนกับจิ่งเซวียนให้กำเนิดขึ้นมานี้ไม่อาจเอาสามัญสำนึกมาประเมินได้จริงๆ

พิเศษเกินไปแล้ว ในร่างอ่อนเยาว์นั้นมีชีพจรปราณวิญญาณต้นกำเนิดที่สมบูรณ์อยู่เส้นหนึ่ง นั่นคือพรสวรรค์หุบเหวกลืนกินขั้นแรก เหมือนกับที่หลินสวินมีเมื่อเขายังเด็กไม่มีผิด

หลินสวินอึ้งไป เอ่ยทอดถอนใจว่า “หลายปีมานี้ผิดกับพวกเจ้าแม่ลูกจริงๆ”

ขณะที่พูดเขาก็ทอดสายตามองไปยังหลินเป่าเปาพลางยิ้มละไม “ตอนนี้ข้าถึงได้รู้ว่าความรู้สึกของการเป็นพ่อ… แตกต่างออกไปจริงๆ ด้วย…”

จู่ๆ จ้าวจิ่งเซวียนพลันแค่นหัวเราะ ยืดกายขึ้นจ้องหลินสวิน “มีลูกก็ไม่แลข้าแล้วสินะ”

หลินสวินอึ้งไป รีบร้อนเอ่ยว่า “ข้าจะกล้าได้อย่างไร เพียงแต่ข้าเพิ่งได้พบลูกไม่ใช่หรือ ในใจก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะ…”

ไม่ทันพูดจบลูกน้อยในอ้อมอกก็ถูกจ้าวจิ่งเซวียนอุ้มไปแล้ว “ค่อยดูเขาทีหลังก็ไม่สาย ตอนนี้เจ้ามองข้าให้ดีๆ เสีย”

นางวางหลินเป่าเปาเข้าไปในสมบัติ จากนั้นแก้เชือกสีแดงที่รวบผมทั้งศีรษะไว้ออก เนตรดาราดุจวารีจ้องมองหลินสวิน

เทียบกับแต่ก่อนแล้ว จ้าวจิ่งเซวียนในตอนนี้เปล่งเสน่ห์ความเป็นผู้ใหญ่ที่ละมุนละไม ทรวงอกอิ่มเอิบ เอวบางมือเดียวโอบรอบ ชุดหยกลายเมฆที่เรียบง่ายสง่างามบนตัวก็บดบังร่างเพรียวที่เรียกได้ว่าอรชรนั้นของนางไม่ได้แม้สักนิด

“น่ามองไหม” จ้าวจิ่งเซวียนถาม

หลินสวินพยักหน้าอย่างไม่ลังเล “น่ามอง เกรงว่านางเซียนบนสวรรค์ยังด้อยไปสามส่วน”

จ้าวจิ่งเซวียนแค่นหัวเราะ “พูดจาไม่จริงใจ”

หลินสวินเลิกคิ้ว ไม่แน่ใจการกระทำผิดปกติของจ้าวจิ่งเซวียนในตอนนี้อยู่บ้าง เอ่ยลองเชิญอย่างอดไม่ได้ว่า “จิ่งเซวียน เจ้าโกรธหรือ”

“ข้าจะโกรธทำไม โง่งม!” จ้าวจิ่งเซวียนค้อนเขาแรงๆ ทันใดนั้นก็หลุดหัวเราะ ราวกับดอกไม้ผลิบานหลังฝน เปล่งประกายตระการตา

หลินสวินถูกหัวเราะใส่จนงงไปหมด

โง่งมอะไร

เห็นหลินสวินยังไม่เข้าใจ จ้าวจิ่งเซวียนก็ถอนใจเบาๆ อย่างอดไม่ได้ “ดูท่าหลายปีนี้เจ้าจะไม่คิดถึงข้าสักนิด”

หลินสวินนึกออกทันใด เหมือนดั่งหัวสมองกระจ่างแจ้ง หัวเราะยาวๆ อย่างอดไม่ได้ก่อนอุ้มจ้าวจิ่งเซวียนขึ้นแล้วเดินไปไกล

“เจ้าทำอะไร” จ้าวจิ่งเซวียนลนลานอยู่บ้าง

“เจ้าว่าทำอะไรล่ะ” หลินสวินเอ่ยร้ายๆ “เจ้าไม่ใช่อยากทำอะไรสักหน่อยหรือ”

ใบหน้างามขาวสะอาดคล้ายหยกของจ้าวจิ่งเซวียนซับสีเลือดขึ้นทันที ร้อนฉ่าไปหมด ใบหน้าของนางซุกอยู่กับอกหลินสวิน ผิวพรรณราวกับหยกอุ่นกลิ่นกำจร อ่อนนุ่มหอมกรุ่น

“เจ้าสารเลว!” นางว่าแรงๆ

“ถ้าข้าไม่สารเลว ก็ต้องกลายเป็นคนโง่งมแล้ว”

“เช่นนั้นหรือ ที่แท้เจ้าก็รู้ว่าตัวเองโง่งมสินะ…”

ระหว่างที่สนทนาอย่างชิดเชื้อเจือความอ่อนโยน หลินสวินก็อุ้มนางหายลับไปในขอบฟ้าแล้ว

ที่ขอบฟ้า แสงอัสดงดุจเปลวเพลิง คล้ายเขินหน้าแดงไปเช่นกัน

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์