ตอนที่ 2397 ต้นแรกกำเนิด!
หยวนชิงเหิงกำลังดื่มชา ท่วงท่าสงบนิ่ง
ปฏิกิริยาของหลินสวินเดิมก็อยู่ในความคาดหมายของนาง อันที่จริงหลังจากรู้เรื่องแดนใหญ่พันศึก คนที่ไม่เคยไปโลกยอดนิรันดร์มาก่อนล้วนรู้สึกถึงแรงกดดันไม่มากก็น้อย
บางคนถึงกับถอดใจไปเลย!
ต่อให้แข็งแกร่งเช่นบรรพจารย์จักรพรรดิก็ยังต้องคิดหน้าคิดหลังให้ดี
ถึงอย่างไรแดนใหญ่พันศึกก็อันตรายเกินไป
ครู่หนึ่งหลินสวินก็เงยมองหยวนชิงเหิง ฝ่ายหลังวางถ้วยชาลงถามว่า “รู้สึกอย่างไร”
“อยากไปโลกยอดนิรันดร์ก็ต้องฝ่าแดนใหญ่พันศึกหรือ” หลินสวินกล่าว
หยวนชิงเหิงเอ่ย “ถ้ามีพลังปราณเหนือระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ สำหรับพวกเขาแล้วการจะฝ่าแดนใหญ่พันศึกก็เป็นเรื่องง่าย”
“การทดสอบนี้เป็นใครกำหนด” หลินสวินถาม
หยวนชิงเหิงอึ้งไป เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะถามคำถามเช่นนี้ นางนิ่งคิดแล้วถึงตอบว่า “ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้”
หลินสวินเอ่ยขึ้นว่า “ด้วยกำลังของยักษ์ใหญ่เหล่านั้นในโลกยอดนิรันดร์ สามารถเอาชนะแดนใหญ่พันศึกนี้ได้หรือไม่”
หยวนชิงเหิงอึ้งไปอีกครา เห็นได้ชัดว่าไม่รู้จะตอบอย่างไรแล้ว
กลับพบว่าหลินสวินยิ้มเอ่ยว่า “ข้าเพียงแค่สมมติดู ถ้ากำจัดแดนใหญ่พันศึกนี้ไปก็เท่ากับไม่มีกำแพงกั้น เช่นนี้แล้วไม่ว่าใครต่างสามารถไปยังโลกยอดนิรันดร์ได้โดยอิสระไม่ใช่หรือ”
“นี่จะเป็นไปได้อย่างไร”
นัยน์ตาของของหยวนชิงเหิงหดรัด “ถ้าเป็นเช่นนั้น เกรงว่าขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ ในโลกยอดนิรันดร์คงถูกจักรวาลมิติอื่นๆ ในโลกพันจักรวาลท้ารบ ต้องเกิดหายนะนับไม่ถ้วนเพราะเหตุนี้ ถึงตอนนั้นกลัวว่าโลกยอดนิรันดร์จะต้องโกลาหลครั้งใหญ่”
หลินสวินคล้ายยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “บางทีอาจเป็นเพราะเรื่องที่เจ้าพูดมา ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แดนใหญ่พันศึกจึงกลายเป็นธรณีประตูตามธรรมชาติอย่างหนึ่งขวางไม่ให้ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนก้าวย่างเข้าไป ขณะเดียวกันก็เท่ากับสกัดกั้นหายนะมากมายให้กับขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ ในโลกยอดนิรันดร์”
หยวนชิงเหิงอึ้งงัน จมสู่ความเงียบ
ก่อนหน้านี้นางไม่เคยคิดถึงปัญหาข้อนี้เลย
“ตั้งธรณีประตูไว้จุดหนึ่ง ยับยั้งภยันตรายที่หมายจะบุกเข้ามายึดผลประโยชน์ที่ตนมี นี่อาจเป็นคุณค่าที่แท้จริงของแดนใหญ่พันศึกก็เป็นได้”
หลินสวินเอ่ยคล้ายขบคิด “ใครคิดทำลายธรณีประตูนี้ บางทีอาจเท่ากับเป็นศัตรูของทั้งโลกยอดนิรันดร์ นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่แท้จริงที่แดนใหญ่พันศึกยังสามารถดำรงมาได้ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน”
หยวนชิงเหิงเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ถ้าเป็นอย่างที่เจ้าพูดจริง จากความคิดของเจ้าแล้ว ควรจะมีพลังเช่นไรถึงจะทำลายธรณีประตูนี้ได้”
หลินสวินกล่าว “เรื่องนี้ข้าก็ไม่บังอาจลองคาดเดา แต่อย่างน้อย… ก็คงมีพลังที่สามารถต้านทานกับทั้งโลกยอดนิรันดร์ได้กระมัง”
หยวนชิงเหิงพลันยิ้มขึ้นทันที “สหายยุทธ์ บนโลกนี้ไม่เคยมีใครสามารถต้านทั้งโลกยอดนิรันดร์ได้ ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต เรื่องนี้ย่อมไม่อาจเกิดขึ้น”
ล้อเล่นอะไรกัน
โลกยอดนิรันดร์เหนือล้ำกว่าโลกพันจักรวาล ถูกมองเป็นแดนแห่งอมตะนิรันดร์ มีเผ่าจักรพรรดิอมตะกระจายตัวอยู่ไม่รู้เท่าไร
และเหนือเผ่าจักรพรรดิอมตะ ยิ่งมีเผ่าเทพนิรันดร์ปกครอง!
ใครจะไปต้านทานได้
หากมีคนเช่นนี้จริง โลกยอดนิรันดร์มีหรือจะถูกเรียกว่า ‘นิรันดร์’
ดังนั้นในความคิดของหยวนชิงเหิง คำพูดนี้ของหลินสวินเดิมทีก็เป็นการสมมติอันไร้สาระยิ่งนัก ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้นได้
หลินสวินยิ้มบางๆ ไม่พูดเรื่องนี้อีก เมื่อก่อนไม่มี ภายหน้า… ก็จะไม่มีหรือ
ไม่แน่เสมอไป!
“เอาล่ะ ชาก็ดื่มแล้ว ได้คุยกันแล้วด้วย ข้าควรไปได้แล้ว”
หยวนชิงเหิงลุกขึ้น ชุดกระโปรงเขียวไหวกระเพื่อม เรือนร่างอ้อนแอ้นเดี๋ยวเห็นชัดเดี๋ยวเลือนลางท่ามกลางทะเลเมฆถาโถม เพิ่มความงดงามอัศจรรย์
หลินสวินลุกขึ้นเอ่ยว่า “จะจากไปเร็วเพียงนี้เชียวหรือ ข้ายังมีอีกหลายเรื่องอยากให้แม่นางชี้แนะ…”
หยวนชิงเหิงแค่นหัวเราะเบาๆ “สิ่งที่เจ้าอยากรู้ล้วนอยู่ที่โลกยอดนิรันดร์ ทำไมไม่ไปดูเองเล่า ข้าจะไม่ติดกับบอกข้อมูลให้เจ้ารู้อีกแล้ว”
หลินสวินยิ้มจางๆ กุมหมัดคารวะ เอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ เช่นนั้นข้าคนแซ่หลินก็ขออวยพรให้แม่นางเดินทางโดยสวัสดิภาพ กลับบ้านอย่างปลอดภัย”
หยวนชิงเหิงคิดเล็กน้อยแล้วก็โยนถุงหอมสีเขียวอ่อนที่พกติดตัวใบหนึ่งให้หลินสวิน “ในถุงหอมนี้เลี้ยงนกกระจอกเขียวไว้ตัวหนึ่ง รู้เรื่องต่างๆ ในแดนใหญ่พันศึก ให้เจ้าแล้วกัน”
หลินสวินถือไว้มือ บนถุงหอมปักอักษร ‘หยวน’ โบราณที่แปลกประหลาดไว้ตัวหนึ่ง ถืออยู่ในมือแล้วเบาเหมือนขนนก มีกลิ่นหอมซึมซามถึงใจคนแผ่กระจายออกมา
“เช่นนั้นก็ขอบคุณแม่นางแล้ว”
หลินสวินไม่ได้ปฏิเสธ ภายหน้าเขาก็ต้องไปฟากฝั่งฟ้าดาราสักครั้งอยู่แล้ว หากมีสมบัติเช่นนี้ช่วยเหลือ ย่อมลดความยุ่งยากไปได้ไม่น้อย
หยวนชิงเหิงลังเลครู่หนึ่ง ยังคงพูดว่า “ถุงหอมนี้เป็นสิ่งที่ท่านย่าข้าปักขึ้นเองกับมือ เจ้าต้องรักษาไว้ให้ดี ภายหน้าหากได้พบกันที่โลกยอดนิรันดร์จริงๆ จะต้องเอามาคืนข้า”
หลินสวินอึ้งไป
กลับพบว่าหยวนชิงเหิงหันตัวทะยานออกไปบนทะเลเมฆกลางอากาศแล้ว ประหนึ่งรุ้งเทพสีเขียวสายหนึ่ง เพียงชั่วพริบตาก็ไม่พบร่องรอยเสียแล้ว
มีเพียงถุงหอมในมือที่ยังคงมีกลิ่นหอมอ่อนๆ อบอวล
สักพักหลินสวินก็เก็บถุงหอมไว้ ในใจพอจะเดาได้ว่า เกรงว่าที่อีกฝ่ายมาคราวนี้คงเพราะอยากให้ตนไปโลกยอดนิรันดร์แห่งนั้นดูสักครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์