Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2406

ตอนที่ 2406 ฆ่าบรรพจารย์จักรพรรดิ!

การต่อสู้ปะทุขึ้นกลางอากาศ

เงาร่างมกุฎมากมายรวมพลังปิดล้อมหลินสวินคนเดียว พลังที่ปลดปล่อยออกมาตัดทลายท้องนภา ดับทำลายทั่วทิศ น่ากลัวจนไม่อาจจินตนาการ

หลินสวินที่เดิมทีก็บาดเจ็บสาหัส เวลานี้ยังเจออันตรายครั้งใหญ่ ถึงขั้นถูกกดดันจนแทบเงยหน้าไม่ขึ้น

ไม่เคยมีการข้ามด่านเคราะห์ครั้งไหนยากลำบากและน่ากลัวเหมือนครั้งนี้ อยู่เหนือการคาดเดาทั้งหมดของหลินสวินโดยสิ้นเชิง

แต่เขาก็ไม่อาจคิดมากความแล้ว สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณทั้งตัวเดือดพล่านถึงขีดสุด พลังเจตจำนงที่ผ่านการเข่นฆ่าเคี่ยวกรำมาหลายปี ทำให้แม้เขาอยู่ในสภาพคับขันก็รักษาความนิ่งสงบและโปร่งโล่งในสภาวะจิตได้

เขาสังเกตเห็นอย่างฉับไว แม้ว่าคู่ต่อสู้แต่ละคนจะครอบครองพลังมกุฎ แข็งแกร่งหาใดเปรียบ แต่กลับขาดสติปัญญาและจิตวิญญาณ ทำให้วิธีโจมตีของพวกเขาขาดการพลิกแพลงและแคล่วคล่อง

นี่คือช่องโหว่อย่างหนึ่ง!

แต่คู่ต่อสู้พวกนี้แข็งแกร่งเกินไป ช่องโหว่นี้จึงถูกปกปิด ยากจะเล็งเห็นและจู่โจมได้

ครู่ใหญ่สถานการณ์ของหลินสวินย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม ทั้งตัวแหลกละเอียด กระดูกแตกหัก ดูน่าอนาถเป็นอย่างยิ่ง

เขาหอบหายใจ มีเพียงเปลวไฟในแววตาที่ลุกโชน

“สุดท้ายก็เป็นแค่สิ่งที่วิวัฒน์มาจากอสนีเคราะห์ ไม่ใช่มกุฎมหาจักรพรรดิที่ยังมีชีวิต ต้องสู้อย่างสุดความสามารถ กำราบด้วยสภาวะจิต มรรควิถี เจตจำนง พละกำลังกันซึ่งหน้า!”

หลินสวินระเบิดเสียงตวาดทันที สภาวะจิตราวกับเทพ เจตจำนงเหมือนเหล็ก ใช้มรรควิถีทั้งหมดออกโจมตีเต็มกำลัง

ฆ่า!

ฆ่า!

ฆ่า!

เขาไม่สนความเป็นตาย ไม่หวาดกลัวการบาดเจ็บ ร่างกายทั้งภายในและภายนอกล้วนเหลือเพียงจิตต่อสู้อันบริสุทธิ์และผงาดผยอง

ตูม!

หนึ่งถ้วยชาผ่านไป ชายสวมเกราะศึกเปื้อนเลือด มือถือทวนศึกทองคำ ศีรษะประดับมงกุฎจักรพรรดิคนหนึ่งถูกหมัดของหลินสวินซัดจนร่างระเบิด กลายเป็นละอองแสงอสนีลอยล่องทั่วฟ้า

เมื่อเงาร่างหลินสวินดูดกลืนละอองแสงอสนีพวกนี้ไป การหยั่งรู้อัศจรรย์ก็ผุดขึ้นในใจ

‘เนี่ยหลงเซี่ยง มกุฎจักรพรรดิอันดับหนึ่งของเขตแดนดาราลอยล่อง สมญา ‘จอมจักรพรรดิหลงเซี่ยง’ เป็นหนึ่งมาเป็นเวลานับพันปี…’

ข้อมูลพวกนี้คลุมเครือเป็นอย่างยิ่ง เป็นแค่การอธิบายอย่างหนึ่ง แต่ไม่อาจรู้รายละเอียดภายในนั้น

ทำให้หลินสวินไม่รู้เลยว่าเขตแดนดาราลอยล่องคือมิติจักรวาลไหนในโลกพันจักรวาล ทั้งเนี่ยหลงเซี่ยงคนนี้ยอดเยี่ยมเพียงใด

แต่ประสบการณ์นี้กลับทำให้หลินสวินนึกถึงสิ่งที่ประสบใน ‘โลกวัฏจักร’ ของแดนปรินิพพานขึ้นมา นึกถึงอันดับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในทุกระดับนั่น!

ภาพตรงหน้านี้ก็เหมือนการช่วงชิงอันดับระหว่างมกุฎจักรพรรดิอย่างหนึ่ง

แต่จะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ หลินสวินก็ไม่กล้าแน่ใจ

ซ้ำเขายังไม่มีเวลาคิดมากแล้ว

การต่อสู้ยังดำเนินต่อไป แต่หลังจากซัดคู่ต่อสู้คนหนึ่งจนพินาศ ดูดกลืนละอองแสงอสนีที่แตกซ่านของอีกฝ่ายแล้ว พลังทั้งตัวหลินสวินก็เหมือนได้รับการเปลี่ยนแปลงอัศจรรย์ครั้งหนึ่ง ทำให้เงาร่างที่เดิมบาดเจ็บสาหัสของเขาเกิดอานุภาพใหม่ทั้งหมด

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้หลินสวินคึกคักขึ้นมา

ฆ่า!

จิตต่อสู้ของเขาดุจเพลิงผลาญ โรมรันอาบเลือด

ไม่นานนักชายชราสวมชุดบัณฑิตขี่กิเลนเขียวและครอบครองบรรทัดหยกคนหนึ่งถูกหลินสวินสังหาร ไม่รอให้ละอองแสงโปรยปรายก็ถูกหลินสวินเขมือบกลืนจนเกลี้ยง

จากนั้นการหยั่งรู้อัศจรรย์นั่นก็ปรากฏอีกครั้ง

‘เฟิงซิงจื่อ มกุฎจักรพรรดิอันดับหนึ่งของเขตแดนดารายอดสดับ สมญา ‘จอมจักรพรรดิอู๋เหิง’ อานุภาพกดข่มจักรวาลเก้าหมื่นปี…’

ขณะเดียวกันพลังรอบตัวหลินสวินก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง

‘เป็นจริงดังคาด! เมื่อเอาชนะคู่ต่อสู้ก็เท่ากับจู่โจมอสนีเคราะห์ และพลังแปรนิพพานที่ได้จากด่านเคราะห์ก็ทำให้มรรควิถีของข้าเกิดการเปลี่ยนแปลง!’

นัยน์ตาดำล้ำลึกของหลินสวินเป็นประกาย พอมองคู่ต่อสู้ในที่นั้นอีกครั้ง ก็เหมือนจับจ้องเหยื่อที่ดูน่าอร่อยถูกปากมากมาย

ฆ่า!

เงาร่างเขาพุ่งออกไปอีกครั้งโดยไม่ลังเล

“กลิ่นอายด่านเคราะห์น่ากลัวยิ่งนัก ใครข้ามด่านเคราะห์อยู่ที่นี่กันแน่”

ใกล้โลกจักรวาลรกร้างล่มสลายแห่งนี้ มีเงาร่างสูงใหญ่ทองอร่ามหนึ่งปรากฏขึ้นฉับพลัน ประกายแสงน่าพรั่นพรึง รัศมีเทพไหลวน

เมื่อพินิจดูก็เป็นบรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยน ผู้อาวุโสชั้นสูงของภูเขาเทพสรรพวิญญาณแห่งเขตแดนดาราอีกาขาวนั่นเอง!

เวลานี้นัยน์ตาเขาหดรัด ไหวหวั่นไม่หยุด

ในจิตรับรู้ของเขา ส่วนลึกของจักรวาลที่ล่มสลายนั้นเต็มไปด้วยเมฆาเคราะห์ บังฟ้าคลุมตะวันราวกับราตรีนิรันดร์ แค่กลิ่นอายทำลายล้างที่ปลดปล่อยออกมาก็ทำให้ระดับบรรพจารย์อย่างเขารู้สึกอกสั่นขวัญแขวนไปพักหนึ่ง!

บรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนหยุดเท้าลงทันที ไม่กล้าเข้าไปใกล้ ห่วงว่าจะเปื้อนกลิ่นอายของด่านเคราะห์นั้นเข้า

‘ที่แท้ก็เป็นเคราะห์มกุฎจักรพรรดิเพื่อก้าวสู่ระดับจักรพรรดิขั้นหก…’

เนิ่นนานกว่าบรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนจะเผยสีหน้ากระจ่าง

ในเขตแดนดาราอีกาขาวมีมกุฎจักรพรรดิท่องไปทั่วเช่นกัน ซ้ำในภูเขาเทพสรรพวิญญาณยังมีบุคคลที่เหมือนตำนานเช่นนี้ด้วย

นั่นคือศิษย์น้องของบรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนฉายา ‘มหาจักรพรรดิชิงซวิ่น’ ครั้งยังเยาว์ก็เป็นปีศาจแห่งยุคคนหนึ่ง ฝึกปราณไม่ถึงสามหมื่นปีก็เป็นระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นเจ็ดแล้ว

ตั้งแต่เมื่อสองสามพันปีก่อน มหาจักรพรรดิชิงซวิ่นก็ออกเดินทางมุ่งหน้าไปแดนใหญ่พันศึกเช่นกัน

ในฐานะที่บรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนเป็นศิษย์พี่ แน่นอนว่าย่อมรู้เบื้องลึกของระดับมกุฎจักรพรรดิดีเป็นธรรมดา รู้ว่ายามบุคคลเช่นนี้ทะลวงขั้นปราณ ด่านเคราะห์ที่ต้องเผชิญนั้นจะน่ากลัวหาใดเปรียบ ใช่ว่าระดับจักรพรรดิทั่วไปจะเทียบได้

‘ไม่ถูกสิ ปีนั้นยามศิษย์น้องชิงซวิ่นข้ามด่านเคราะห์นี้ยังไม่น่ากลัวเช่นนี้…’

ไม่นานสีหน้าของบรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เผยความรู้สึกยากจะเชื่อออกมา

ปีนั้นยามมหาจักรพรรดิชิงซวิ่นข้ามมหาเคราะห์ด่านหก บรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนเคยคุ้มกันเขาด้วยตัวเอง มีหรือจะไม่รู้ความลับของด่านเคราะห์นี้

แต่ตอนนี้บรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนกลับพบอย่างน่าตกตะลึง ว่ามหาเคราะห์ในส่วนลึกของจักรวาลนั้นไม่ใช่แค่มีอานุภาพแข็งแกร่งกว่าด่านเคราะห์ที่มหาจักรพรรดิชิงซวิ่นเคยข้าม ถึงขั้นยังเกิดการเปลี่ยนแปลงน่าเหลือเชื่อมากมายด้วย

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งที่บรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนไม่เคยเจอมาก่อน!

‘คนผู้นี้เป็นใคร ทำไมถึงเผชิญหน้ากับมหาเคราะห์ที่น่าเหลือเชื่อเช่นนี้’

ความอยากรู้อยากเห็นของบรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนถูกกระตุ้นขึ้นมาในชั่วขณะเดียว เขาที่เดิมคิดเร่งเดินทางตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อลองดู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์