ตอนที่ 2407 ประตูข้ามแดนปฐพี เมืองข้ามแดน
หลังจากบรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนสิ้นชีพ บนตัวเหลือเพียงแหวนสีทองอ่อนวงหนึ่ง
หากไม่ใช่ว่าหลินสวินหยุดมือทันเวลา แหวนสีทองวงนี้ก็เกือบถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งทำลายแล้ว
เมื่อลบประทับเจตจำนงบนแหวนออก จิตของหลินสวินก็สำรวจเข้าไปในนั้น และพบว่าแหวนวงนี้เป็นถึงสมบัติจักรพรรดิที่แฝงพลังระเบียบเป็นสายๆ ชิ้นหนึ่ง สามารถวิวัฒน์เป็นกระบี่มรรคเล่มหนึ่งนามว่า ‘แหวนกระบี่เจ็ดทองคำ’
เพียงแต่พลังระเบียบแค่นั้นก็ไม่มีภัยคุกคามอย่างสิ้นเชิง ย่อมสู้เพลิงหงส์ระเบียบไม่ได้
แต่ในแหวนกลับซ่อนของดีไว้ไม่น้อย ลูกกลอนโอสถ ผลึกมรรค วัตถุดิบเทพกองเป็นภูเขา… ยังมีของสัพเพเหระอีกส่วนหนึ่ง
เมื่อผ่านการตรวจสอบหลินสวินจึงรู้ฐานะของบรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยน และเข้าใว่าทำไมอีกฝ่ายถึงมาตามล่าตน
ยามหลินสวินคิดเก็บแหวนกระบี่เจ็ดทองคำนี้ไป ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นพื้นผิวคันฉ่องทองแดงสีม่วงที่สลักลายมรรคประหลาดบานหนึ่งส่องประกายเงียบๆ
หลินสวินนำของสิ่งนี้ออกมาทันที
วู้ม…
คันฉ่องทองแดงสีม่วงสั่นเล็กน้อย จากนั้นรุ้งเทพสีม่วงเจิดจรัสสายหนึ่งพลันพุ่งออกมา กลายเป็นจอภาพหนึ่งช้าๆ
ในจอภาพคือสนามรบสีเลือดที่กว้างใหญ่ไพศาลแห่งหนึ่ง ทุกหนแห่งคือภาพราวภูเขาศพทะเลเลือด ควันไฟโหมกระพือ พุ่งทะลวงฟ้าดิน เสียงคำรามเหมือนเทพมารกรำศึกดังก้องตามมา
เงาร่างสูงใหญ่มากมายแผลงฤทธิ์อยู่ในนั้น กำลังเร่งไล่ตามฆ่า สู้กันจนฟ้าพลิกดินตลบ สุริยันจันทราหม่นแสง ทุกหนแห่งคือภาพน่าหวาดกลัวราวกับพังพินาศ
“ศิษย์พี่”
มีเสียงหนึ่งดังขึ้นทันใด
จากนั้นใบหน้าหล่อเหลาหนึ่งปรากฏบนจอภาพ ผมยาวสีเขียวทั้งศีรษะ ในดวงตาเผยลักษณ์ประหลาดอย่างหมื่นกระบี่แผ่พุ่ง
แต่เมื่อเห็นหลินสวินผ่านจอภาพของคันฉ่องทองแดง ชายรูปงามผมเขียวคนนี้พลันอึ้งไป สีหน้าอึมครึมลง
“เจ้าเป็นใคร” เขาเอ่ยเสียงเย็นชา ก้องกังวานราวกับกระบี่ น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างยิ่ง
นัยน์ตาดำของหลินสวินหรี่ลงเล็กน้อย สังเกตเห็นแล้วว่าคันฉ่องทองแดงสีม่วงนี้คือสมบัติโบราณเรียกหาที่แปลกประหลาดอย่างหนึ่ง สามารถสร้างความอัศจรรย์ที่ไกลสุดหล้าเหมือนใกล้เพียงคืบ
“แหวนกระบี่เจ็ดทองคำอยู่ในมือเจ้า หรือว่า…” นัยน์ตาของชายผมเขียวฉายแววเยียบเย็นชวนประหวั่น คล้ายคาดเดาอะไรได้
หลินสวินกล่าวราบเรียบ “เจ้าเดาไม่ผิด จินเยี่ยนตายแล้ว”
ชายผมเขียวหน้าเคร่งขรึม ชี้นิ้วใส่หลินสวินทันที “อย่าให้ข้าเจอเจ้าที่แดนใหญ่พันศึก!”
น้ำเสียงเจือไอสังหารน่าเกรงขามหาใดเปรียบ
ตูม!
จอภาพพังทลาย ภาพทั้งหมดสลายไป
‘มหาจักรพรรดิชิงซวิ่นหรือ…’ หลินสวินคล้ายขบคิด ยามตรวจสอบของในแหวนกระบี่เจ็ดทองคำ หลินสวินเจอจดหมายบางส่วน ในนั้นบันทึกเรื่องราวบางอย่างระหว่างบรรพจารย์จักรพรรดิจินเยี่ยนกับมหาจักรพรรดิชิงซวิ่นไว้
นี่ทำให้หลินสวินรู้ฐานะของมหาจักรพรรดิชิงซวิ่น รู้ว่านี่เป็นมกุฎมหาจักรพรรดิที่มีมาดสง่างามคนหนึ่ง ซ้ำยังบรรลุถึงระดับจักรพรรดิขั้นเจ็ดแล้ว
หากพูดว่าชิงซวิ่นเป็นศิษย์น้องของจินเยี่ยน มิสู้พูดว่าจินเยี่ยนเป็นเหมือนผู้อาวุโสของชิงซวิ่นยังดีกว่า คอยดูชิงซวิ่นผงาดและเติบใหญ่ ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นลึกซึ้ง
‘สถานที่ที่เจ้าหมอนี่ปรากฏตัวเมื่อครู่ กรำศึกต่อเนื่อง ควันไฟโหมกระพือ น่าจะเป็นสนามรบบางแห่งในแดนใหญ่พันศึก’
หลินสวินใคร่ครวญพลางทำลายคันฉ่องทองแดงสีม่วงนั้นลวกๆ
ระหว่างฝึกปราณเขาสังเกตเห็นอย่างชัดเจน ว่าไม่ใช่แค่โลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ที่เกิดการแปรสภาพ แม้แต่ต้นกล้าแรกกำเนิดที่หยั่งรากอยู่ในนั้นก็สูงขึ้นช่วงหนึ่ง ใบเขียวอ่อนพลิ้วไหว เหมือนจังหวะชีวิตไหลวน กฎเกณฑ์แรกกำเนิดที่ส่องประกายก็บริสุทธิ์ยิ่งกว่าเดิม
ปัจจุบันใบบนยอดกิ่งนั้นมีมากถึงสิบแปดใบแล้ว
ความจริงเส้นใบของแต่ละใบก็คือการสะท้อนให้เห็นถึงกฎเกณฑ์แรกกำเนิดอย่างหนึ่ง!
ยามหลินสวินฝึกปราณก็สัมผัสได้โดยตรง ว่าในมรรควิถีของตนมีคุณสมบัติพิเศษเหมือนแรกกำเนิดเพิ่มขึ้นมา ทำให้พลังมหามรรคห้าพันกว่าชนิดที่ตนครอบครองได้ซึมซาบไปเช่นกัน
หากกล่าวว่ามหามรรคพวกนั้นก็คือผ้าวาดหลากสี กฎเกณฑ์แรกกำเนิดก็คือสีย้อมอย่างหนึ่ง สามารถทำให้ผืนผ้าที่แตกต่างกันนี้เปลี่ยนเป็นสดใสและงดงามยิ่งกว่าเดิม
หลินสวินยังไม่อาจเข้าใจนัยเร้นลับของการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ได้ในช่วงนี้ แต่เขากล้ามั่นใจว่าเมื่อต้นแรกกำเนิดเติบโตอย่างต่อเนื่อง ใบที่ปรากฏก็ย่อมมากขึ้นเรื่อยๆ กฎเกณฑ์แรกกำเนิดที่แผ่คลุมก็ต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมแน่!
ทุกอย่างนี้จุนเจือและหล่อเลี้ยงมรรควิถีทั้งตัวเขาโดยตรง ทำให้มรรควิถีเกิดการเปลี่ยนแปลง!
เจ็ดวันต่อมา
หลินสวินลุกจากการนั่งสมาธิ รู้สึกเพียงแช่มชื่นไปทั้งตัว แค่หายใจเข้าออก ทุกกลิ่นอายและทุกพลังกลางฟ้าดินล้วนถูกหลอมเป็นพลังที่ตนต้องการ
นี่ก็คือขั้นไม่เกรงกลัวฟ้าดิน
ต่อให้อยู่ในมิติจักรวาลที่รกร้างล่มสลายนี้ ก็สามารถดูดซับพลังและหลอมมาใช้ประโยชน์ได้!
วันนั้นหลินสวินออกเดินทางต่ออย่างหามรุ่งหามค่ำ ตระเวนทั่วฟ้าดาราตามทิศทางที่นกกระจอกเขียวชี้นำ เร่งมุ่งหน้าไปยังแดนใหญ่พันศึก
เดินทางอย่างยากลำบาก ตลอดทางเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งลมฝน
ไม่ต้องพูดถึงอันตรายและเคราะห์สังหาร เกือบทุกครั้งที่เข้าไปในมิติจักรวาลล่มสลายแห่งหนึ่ง ต้องเจอกับพิบัติฟ้าที่คาดไม่ถึงนานัปการ ภัยพิบัติพวกนั้นถึงขั้นกำจัดระดับจักรพรรดิได้โดยง่าย
และยามก้าวผ่านมิติจักรวาลที่เจริญรุ่งเรืองบางแห่งก็มีอันตรายสารพัดเช่นกัน
เหมือนเช่นยามข้ามผ่านเขตแดนดาราอีกาขาว ผู้แข็งแกร่งต่างแดนนั้นมอง ‘คนต่างถิ่น’ อย่างหลินสวินเป็นเหยื่อแล้วลงมือตามอำเภอใจ
และเคราะห์สังหารที่หมายหัวหลินสวินก็มักจะเป็นการรวมตัวของระดับจักรพรรดิ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์