ตอนที่ 2409 การค้ามาหาถึงที่ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2409 การค้ามาหาถึงที่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ตอนที่ 2409 การค้ามาหาถึงที่
บนตัวระดับจักรพรรดิ น้อยนักที่จะพกผลึกมรรคติดตัวยามเดินทาง
แต่มูลค่าของสมบัติและเจตวัตถุที่ระดับจักรพรรดิพกติดตัว แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่ผลึกมรรคจำนวนหนึ่งทัดเทียมได้
หนึ่งปีมานี้หลินสวินก้าวผ่านฟ้าดารา ฝ่าฟันอันตราย บรรพจารย์จักรพรรดิที่สังหารล้วนมีหลายคน ระดับจักรพรรดิคนอื่นที่ตายในเงื้อมมือเขาก็มีไม่รู้เท่าไหร่
ทรัพย์หลังศึกที่ได้มาแน่นอนว่าชวนตะลึงอย่างยิ่ง
สิ่งที่แลกเปลี่ยนในเรือนจักรวาลก่อนหน้านี้มีแค่ผลึกมรรคเท่านั้น บางทีจำนวนอาจมหาศาล แต่ไม่ถึงขั้นมีมูลค่ามากเท่าไหร่
ตอนนี้หลินสวินคิดนำทรัพย์หลังศึกที่ใช้ไม่ได้พวกนั้นมาขายด้วยแล้ว
หลังผ่านไปครึ่งชั่วยาม
หลินสวินเข้าไปใน ‘หอสี่ยอด’ ภายใต้การนำทางของเจ้าอ้วน
ที่เรียกว่าสี่ยอด ด้วยหมายถึงสี่เผ่าจักรพรรดิอมตะอย่างตระกูลเหวิน ตระกูลเหิง ตระกูลเผิง ตระกูลเฮ่อ
ทุกสามพันปี สี่เผ่าจักรพรรดิอมตะจะผลัดกันรับช่วงดูแลเมืองข้ามแดน ทั้งผลัดกันครอบครองหอสี่ยอดด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันผู้ดูแลหอสี่ยอดแน่นอนว่าเป็นตระกูลเฮ่อ
จากคำพูดของเจ้าอ้วน หอสี่ยอดเรียกได้ว่าเป็นร้านค้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด รากฐานแข็งแกร่งที่สุดในเมืองข้ามแดน ราคาค้าขายแลกเปลี่ยนก็เรียกได้ว่าเป็นธรรมที่สุด
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามเต็มๆ
ยามหลินสวินเดินออกมาจากหอสี่ยอด ในตัวก็มีผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่งเก้าพันก้อน รวมถึงผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นสองสามพันก้อน ผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นสามสามพันก้อนเพิ่มขึ้นมาแล้ว
ดูเหมือนจำนวนไม่มาก แต่ทรัพย์สินนั้นตระการตายิ่งนัก ยามแลกเปลี่ยนล้วนทำให้ผู้ดูแลและนักประเมินทรัพย์พวกนั้นอดตะลึงไม่ได้
ตามความเข้าใจที่พวกเขามียามทำการค้าช่วงหลายปีนี้ ต่อให้เป็นระดับบรรพจารย์จักรพรรดินำสมบัติของตนมาขายทั้งหมด เกรงว่าคงได้ไม่ถึงเก้าพันผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่งด้วยซ้ำ!
ส่วนเจ้าอ้วนก็หัวสมองมึนงงแล้ว เขาเห็นการค้าที่เรียกว่าชั้นยอดนี้กับตา ในใจมีแค่ความคิดหนึ่ง
ผู้อาวุโสท่านนี้ต้องเป็นพวกไม่ขาดเงินแน่ ร่ำรวยเกินไปแล้ว!
ความจริงสมบัติที่หลินสวินขายไปทั้งหมด ก็เป็นแค่ทรัพย์หลังศึกที่รวบรวมในช่วงหนึ่งปีนี้เท่านั้น ซ้ำยังเป็นสมบัติส่วนที่นำมาใช้ไม่ได้ด้วย
“ไป พาข้าวนรอบเมืองหน่อย”
หลินสวินสั่งอย่างสบายๆ
เจ้าอ้วนรีบนำทางไปข้างหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย แนะนำทุกอย่างในเมืองข้ามแดนจนน้ำลายแตกฟอง
ในเวลาต่อมาหลินสวินก็เหมือนนักเดินทางคนหนึ่งเที่ยวเตร่ในเมือง
ชิมยอดอาหารเลิศรสที่มาจากแต่ละมิติจักรวาลของโลกพันจักรวาลใน ‘หอรับเซียน’ หอสุราอันดับหนึ่งแห่งเมืองข้ามแดน
อาหารเลิศรสแต่ละอย่างนั้นล้วนเรียกได้ว่าปรุงจากวัตถุดิบชั้นยอดหายาก ไม่ใช่แค่รสชาติโดดเด่น ภายในยังแฝงความอัศจรรย์นานัปการ
อาหารเลิศรสที่ถูกที่สุดยังมีมูลค่าสิบผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นสอง ซึ่งเท่ากับสิบล้านผลึกมรรค…
สำหรับเรื่องนี้หลินสวินไม่ใส่ใจโดยสิ้นเชิง สั่งอาหารเลิศรสหลายหลากมาเต็มโต๊ะ กินกับเจ้าอ้วนอย่างเบิกบานยิ่ง
ก่อนไปยังไม่ลืมห่ออาหารเลิศรสกลับอีกกองพะเนิน คิดว่ารอซย่าจื้อตื่นขึ้นแล้วจะให้นางลองชิม
เมื่อออกจากหอรับเซียน หลินสวินถลุงเงินไปหนึ่งร้อยกว่าผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่งแล้ว
ท่าทางราบเรียบ ใช้เงินเป็นเบี้ยนั้นกระตุ้นจนเจ้าอ้วนมีความรู้สึกว่าไม่ใช่ความจริงเหมือนฝันไป
เขาที่เป็นระดับอริยะคนหนึ่ง มีหรือจะเคยเจอการใช้จ่ายที่สุรุ่ยสุร่ายเช่นนี้
แน่นอนว่าสำหรับหลินสวินนั้นไม่ถือว่าเป็นอะไร
เมื่อออกจากหอรับเซียน หลินสวินยังไปโรงวายุต่อ ที่แห่งนี้มีชื่อเสียงว่าเป็น ‘แหล่งรวบรวมสิ่งล้ำค่าทั่วหล้า กอปรด้วยสมบัติล้ำค่าหมื่นดินแดน’
เจตวัตถุ ลูกกลอนโอสถ วัตถุดิบเทพ อัญมณี วิชายุทธ์ สมบัติวิเศษประหลาดพิสดารนานัปการที่มาจากแต่ละมิติจักรวาลในโลกพันจักรวาล… มีครบทุกสิ่งที่ควรมี
ถึงขั้นมีสมบัติบางส่วนที่ทำให้ระดับจักรพรรดิซึ่งเห็นสิ่งล้ำค่าทั่วหล้าจนชินตาอย่างหลินสวินใจเต้นไม่หยุด ดังนั้นจึงซื้อมาทั้งหมดโดยไม่เกรงใจ
การกระทำที่ใช้จ่ายราวน้ำไหลนั้น ทำให้แววตาของสาวใช้หน้าตาสะสวยบางคนเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน เหมือนว่าขอแค่หลินสวินพยักหน้า พวกนางต้องโถมใส่อ้อมกอดโดยไม่ลังเลแน่
สิ่งเดียวที่น่าเสียดายคือสมบัติที่ทำให้หลินสวินมองว่า ‘มีประโยชน์’ อย่างแท้จริงกลับแทบไม่เจอ
แต่คิดดูแล้วก็ใช่ แม้ว่าพลังปราณของเขาจะอยู่ในระดับจักรพรรดิขั้นหก แต่พลังต่อสู้ทั้งตัวนั้นไม่กลัวบรรพจารย์จักรพรรดินานแล้ว สมบัติมรรคจักรพรรดิทั่วไปยากจะอยู่ในสายตาเขาจริงๆ
กระทั่งเดินออกมาจากโรงวายุ ผลึกต้นกำเนิดจักรวาลชั้นหนึ่งในตัวหลินสวินก็น้อยลงไปอีกหนึ่งพันกว่าก้อน ทำให้เจ้าอ้วนทั้งตกตะลึงทั้งอิจฉาทั้งปวดใจ…
ใครเขาใช้จ่ายกันเช่นนี้!
ต่อให้เป็นบรรพจารย์จักรพรรดิก็ไม่กล้าถลุงเงินเช่นนี้แน่!
แต่เจ้าอ้วนกลับจำต้องยอมรับ หลินสวินมีคุณสมบัติให้ถลุงเงินได้ ช่าง… มีเงินมากเกินไปแล้ว!
“สหายยุทธ์ เปลี่ยนสถานที่คุยกันหน่อยได้หรือไม่”
“สหายท่านนี้ ข้าน้อยมาจากหนึ่งในเจ็ดตระกูลเก่าแก่แห่งเขตแดนดารานภา… ขอพูดคุยกับสหายยุทธ์หน่อยได้ไหม”
ระดับจักรพรรดิส่วนหนึ่งไล่ตามมา พากันทักทายหลินสวิน การกระทำของหลินสวินในโรงวายุก่อนหน้านี้ดึงดูดความสนใจของพวกเขาแล้ว
เมื่อสนทนากันครู่หนึ่ง หลินสวินจึงรู้ว่าระดับจักรพรรดิพวกนี้มาจากมิติจักรวาลต่างๆ จุดประสงค์ที่อยากรู้จักเขาต่างกันออกไป
บ้างหวังให้ตนเข้าร่วมขุมอำนาจของพวกเขา
บ้างหวังผูกมิตรเป็นสหายกับหลินสวิน
บ้างอยากขายสมบัติในมือให้หลินสวินเพื่อจะได้ราคาดี
สำหรับเรื่องนี้หลินสวินปฏิเสธไปทั้งหมด
ก่อนมุ่งหน้าไปแดนใหญ่พันศึก เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้
“ไป ไปดูตลาดนัดรวมพลกัน”
ลับจิตดั่งคม!
อักษรสี่คำ แต่ละคำราวกับกระบี่ ซ่อนคมประกายเหมือนจักรพรรดิกระบี่แห่งยุคคนหนึ่ง แฝงความหยิ่งทะนงไว้ภายใน มาดมั่นหาใดเปรียบ แต่สภาวะจิตกลับผ่อนคลายดุจเมฆา เลือนรางเสรี ไม่ถูกผูกมัด อิสระกว้างใหญ่
จากคำพูดของซี แค่เห็นสิ่งนี้ก็รู้แล้วว่าเจ้าของหินลับกระบี่นี่ต้องเป็นคนที่มีความสามารถไร้เทียมทานไม่เป็นสองรองใครบนมรรคกระบี่ ทั้งสภาวะจิตยังกว้างใหญ่ ดูเสรีดั่งสายลมคนหนึ่งแน่
เสมือนเซียนกระบี่
ยามนั้นหลินสวินก็ชอบคำว่า ‘ลับจิตดั่งคม’ ยิ่งนัก ดังนั้นจึงเก็บหินลับกระบี่นี้ติดตัวมาตลอด
แต่เขากลับคิดไม่ถึงว่าในเมืองข้ามแดนนี้ ถึงกับมีคนแปลกหน้าคนหนึ่งสอดส่องได้!
น่าเหลือเชื่อนัก
เห็นชัดว่าอีกฝ่ายใช้วิชาลับหรือสมบัติบางอย่างสืบรู้การมีอยู่ของหินลับกระบี่นี้ และเป็นฝ่ายมาหาตนด้วยตัวเอง
“ขออภัย ข้าไม่สนใจการค้านี้” หลินสวินปฏิเสธโดยไม่ลังเล
ชายหนุ่มชุดขาวไม่รู้สึกผิดคาด กล่าวเสียงเรียบ “สหายยุทธ์น่าจะยังไม่รู้ความเป็นมาของหินก้อนนี้ ย่อมไม่รู้ชัดเป็นธรรมดาว่าหินก้อนนี้มีความหมายกับข้ามากเพียงใด เอาอย่างนี้ ขอแค่สหายยุทธ์ยินยอม ไม่ว่าจะมีเงื่อนไขอะไร ขอเพียงข้าทำได้ก็จะไม่ขัดข้อง”
หลินสวินส่ายหัวกล่าว “ข้าไม่ได้ขาดแคลนอะไร หากสหายยุทธ์ไม่มีเรื่องอื่นก็ขอลา”
พูดจบเขาก็หันหลังจากไป
ระดับจักรพรรดิมากมายที่ติดตามข้างกายชายหนุ่มชุดขาวก่อนหน้านี้ เวลานี้ยืนอยู่ห่างไกล ล้วนเผยสีหน้าเย็นชาอย่างอดไม่ได้ กำลังจะเข้าไปขวางหลินสวิน
“พอแล้ว ให้เขาไปเถอะ”
ชายหนุ่มชุดขาวส่งเสียงห้าม “ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นเมืองข้ามแดน ไม่เหมาะจะลงมือ”
สีหน้าเขาเรียบเฉย คล้ายไม่ใส่ใจที่หลินสวินจากไปเช่นนี้
“นายน้อย จะปล่อยคนผู้นี้ไปเช่นนี้หรือ” คนผู้หนึ่งเอ่ยถาม
ชายหนุ่มชุดขาวคิดดูครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ส่งคนไปจับตาดูเขา หินลับกระบี่ก้อนนี้เกี่ยวข้องกับผู้ยิ่งใหญ่ระดับตำนานที่ใช้กระบี่สยบโลกพันจักรวาลถึงแสนปีคนหนึ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องชิงมาไว้ในมือ”
“ขอรับ!”
มีคนรับคำสั่งแล้วจากไปทันที
“พวกเราเข้าไปในเมือง ไปจวนเจ้าเมืองเพื่อพบบรรพจารย์จักรพรรดิอวิ้นหยวนสักหน่อย”
ชายหนุ่มชุดขาวพูดพลางนำทุกคนหันหลังจากไปพร้อมกัน
ขณะเดียวกันเจ้าอ้วนที่ค่อยๆ เดินห่างไปพร้อมกับหลินสวินถอนหายใจยาวเหมือนยกภูเขาออกจากอกอย่างอดไม่ได้ เช็ดเหงื่อที่ซึมหน้าผาก ท่าทางเหมือนโชคดีที่รอดพ้นเคราะห์ร้ายมาได้
เห็นชัดว่าพวกชายหนุ่มชุดขาวก่อนหน้านี้ทำให้เจ้าอ้วนหวั่นหวาดและกดดันอย่างมาก
นี่ทำให้หลินสวินอดเลิกคิ้วไม่ได้พลางกล่าว “พวกเขาเป็นใคร ทำไมเจ้าถึงตกใจจนเป็นเช่นนี้”
…………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์