ตอนที่ 2417 ประทับกักเทพ
ฟางเสวียนเจินมั่นใจมาก
ยันต์สีทองนี้เป็นวิธีเอาตัวรอดของเขา ทั้งเป็นความมั่นใจที่ทำให้เขากล้ามาแดนใหญ่พันศึก
“หลิงเสวียนจื่อ ความแค้นนี้ข้าฟางเสวียนเจินจำไว้แล้ว!”
เขาลอบกัดฟันกรอด แววตาแฝงความคั่งแค้นบ้าระห่ำ
ลานสังหารที่ตั้งใจเตรียมไว้กลับทำให้ตัวเขาสูญสิ้นกำลังคน ถึงขั้นตกอยู่ในวิกฤติ เรื่องไม่คาดฝันนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อน
หืม?
ทันใดนั้นฟางเสวียนเจินพลันอึ้งงัน ในความเลือนรางรู้สึกว่าเหมือนมีแสงขาวสายหนึ่งส่องประกายอยู่เบื้องหน้า หยุดนิ่งไปชั่วพริบตา
ไม่รอให้เขาดึงสติกลับมา
ตูม!
เตาหลอมเรียบง่ายหนึ่งตกลงมาจากฟากฟ้า กำราบเขากับพลังของยันต์สีทองที่ปกคลุมรอบตัวเข้าไปในเตาหลอม
เตาหลอมนี้ แน่นอนว่าเป็นเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง
ก่อนหน้านี้ด้วยหลินสวินสำแดงอภินิหารหยุดเวลาจึงชิงโอกาสขวางฟางเสวียนเจินได้เสี้ยวหนึ่ง สุดท้ายก็พึ่งเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกำราบอีกฝ่ายในคราเดียว
“ไม่…!”
ในเตากระบี่ฟางเสวียนเจินตกใจจนหน้าเสีย หวีดร้องตะโกนลั่น ดิ้นรนเหมือนเอาชีวิตเข้าแลก
ยันต์สีทองรอบกายเขาเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์เจิดจรัส พลังระเบียบเป็นสายๆ ถักทอเข้าด้วยกัน วางแผนสลัดตัวออกจากเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง
“ไป!” เมื่อหลินสวินโคจรเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง เพลิงหงส์ระเบียบและระเบียบนิพพานที่กลายสภาพเป็นดอกบัวปรากฏขึ้นพร้อมกัน
ฝ่ายแรกเปล่งประกายงามตระการ มีสีม่วงมลังเมลือง
ฝ่ายหลังเหมือนดอกบัวเบ่งบาน แผ่แสงเขียวมรกต
พลังระเบียบทั้งสองปรากฏ ก่อเกิดกลิ่นอายและแรงกดดันยากหยั่งถึง พลังระเบียบที่ยันต์สีทองนั้นปลดปล่อยออกมามืดสลัวเลือนรางลงทันที
สุดท้ายยันต์สีทองถูกกำราบอย่างสมบูรณ์
ฟางเสวียนเจินวิญญาณเกือบหลุดออกจากร่าง ขนพองสยองเกล้า ในใจรู้สึกตื่นตระหนกถึงขีดสุด
นี่เพิ่งเป็นวันแรกที่เข้ามาในแดนใหญ่พันศึก หรือว่าตนจะประสบเคราะห์แล้ว
ปึง!
พลังน่าหวาดกลัวบีบกดลงมา เบื้องหน้าฟางเสวียนเจินพลันมืดมัว เป็นลมหมดสติไปทั้งอย่างนั้น
หลินสวินเก็บเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งลงไปแล้วค่อยเป่าปากโล่งใจเฮือกใหญ่
หากปล่อยให้ฟางเสวียนเจินหนีไปได้ อีกฝ่ายมีโอกาสสูงที่จะซ่อนตัว ถึงตอนนั้นหากคิดจับตัวก็คงยากสุดแสน
นี่ก็คือสาเหตุที่หลินสวินยอมใช้อภินิหารหยุดเวลาโดยไม่คำนึงถึงอะไร
ตอนนี้ฟางเสวียนเจินถูกกำราบแล้ว ด้วยวิธีของเขาย่อมเปิดปากของเจ้าหมอนี่ได้อย่างง่ายดาย ล้วงความลับเกี่ยวกับหินลับกระบี่ ‘ลับจิตดั่งคม’ ออกมา
กายมรรคทั้งห้าทะยานมาแต่ไกล ระดับจักรพรรดิที่ติดตามข้างกายฟางเสวียนเจินเหล่านั้นถูกกำจัดหมดแล้ว
แม้แต่ทรัพย์หลังศึกก็จัดการเรียบร้อย
หลินสวินสะบัดแขนเสื้อ เก็บกายมรรคทั้งห้าลงไป
ฮูม…
กระบวนค่ายกลเก้านรกกักเทพที่ปกคลุมกลางฟ้าดินนี้ถูกเก็บไปทันที กลายเป็นธงกระบวนเก้าสิบเก้าผืน ถูกหลินสวินเก็บไว้ในมือ
‘แม้ว่ากระบวนค่ายกลนี้จะร้ายกาจสู้มรรคสิ้นฟ้าอาสัญไม่ได้ แต่ถ้านำมาขังจักรพรรดิก็มีความอัศจรรย์พอ’
หลินสวินพินิจคร่าวๆ แล้วเก็บธงกระบวนชุดนี้ลงไป
คันฉ่องทองแดงสีดำที่อยู่ในการควบคุมของฟางเสวียนเจิน ก็คือจานกระบวนของกระบวนค่ายกลเก้านรกกักเทพ เมื่อฟางเสวียนเจินถูกกำราบ จานกระบวนก็ย่อมตกอยู่ในมือหลินสวินเป็นธรรมดา
กลางฟ้าดินสีเลือดไร้ขอบเขต ไอชั่วร้ายและอสนีบาตซัดโหมอยู่ใต้เวิ้งฟ้า
หลินสวินสำรวจมองโดยรอบเล็กน้อย กำลังคิดจะจากไป
ทันใดนั้นนัยน์ตาเขาดุจอสนี มองไกลออกไปพลางกล่าว “ดูพอหรือยัง”
“สหายยุทธ์หลิงเสวียนจื่อฝีมือเยี่ยม พลิกเมฆคว่ำฝน บิดกลับฟ้าดิน ทำให้พวกข้าได้เปิดโลกทัศน์”
เสียงทอดถอนใจหนึ่งดังขึ้น
ก็เห็นว่ากลางอากาศเกิดคลื่นระลอกหนึ่ง เงาร่างของพวกจักรพรรดิขวงหรูปรากฏออกมา
จักรพรรดิขวงหรูมาจากโลกยอดลำนำ สวมชุดบัณฑิตคาดเข็มขัดใหญ่ จอนผมขาวโพลน ช่วงเอวมีคัมภีร์สีเขียวเล่มหนึ่งคาดอยู่ ทั่วร่างอบอวลด้วยไอพลังยิ่งใหญ่
ระดับจักรพรรดิที่อยู่ข้างกายเขาเหล่านั้นล้วนสีหน้าเคร่งขรึม ราวกับพวกคงแก่เรียนกลุ่มหนึ่ง บุคลิกต่างจากผู้ฝึกปราณคนอื่น
“ที่แท้ก็เป็นพวกเจ้า”
หลินสวินเลิกคิ้ว เขาก็เคยได้ยินว่าผู้ฝึกปราณของโลกยอดลำนำล้วนปฏิบัติตัวตามวิถีบัณฑิต บำเพ็ญเพียรเพื่อไอพลังยิ่งใหญ่ เทิดทูนตะวันจันทรา สายตากว้างขวาง เทียบกับสำนักพุทธแล้วต่างมีจุดเด่นของตัวเอง
“สหายยุทธ์ไม่ต้องกังวลมากเกินไป พวกเราแค่บังเอิญผ่านมาได้จังหวะ ไม่มีเจตนาร้ายแน่นอน”
จักรพรรดิขวงหรูกล่าวเสียงดังกังวานเหมือนกลองระฆัง ราวกับท่องคัมภีร์แก่นอัศจรรย์ ท่วงท่าสง่าผ่าเผย ทำให้ผู้คนยากจะมีใจต่อต้าน
“อย่างนั้นหรือ” หลินสวินพยักหน้า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็จะขอไปก่อน ขอลา”
พูดจบเขาก็หันหลังจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์