ภาพนี้สร้างความตกใจให้กับพวกยอดจักรพรรดิเสวียนซิงอย่างยิ่งยวด
ครู่หนึ่งยอดจักรพรรดิเสวียนซิงจึงเอ่ยเสียงเบาว่า “พี่หลิง คราวนี้ขอบคุณมาก”
หลินสวินเอ่ย “คราวก่อนที่สมรภูมิมายาโบราณ ข้าติดค้างน้ำใจเจ้าไว้ครั้งหนึ่ง ตอนนี้มองว่าเป็นการคืนให้เจ้าก็แล้วกัน”
ยอดจักรพรรดิเสวียนซิงอึ้งไป ยิ้มเจื่อนเอ่ยว่า “พี่หลิงล้อเล่นแล้ว เรื่องคราวก่อนนั้นข้าแค่อยากฉวยโอกาสชิงมุกบริสุทธิ์ของมารมายาระดับจอมราชันก็เท่านั้น”
หลินสวินเอ่ย “ข้าก็เหมือนกัน คราวนี้ก็ทำเพื่อชิงแหล่งดาราที่อยู่ที่นี่”
พอพูดเช่นนี้ออกไป เหล่าคนที่อยู่ใกล้ๆ ยอดจักรพรรดิเสวียนซิงต่างเผยความโกรธเกรี้ยว สีหน้าไม่น่าดู
“หลิงเสวียนจื่อ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นคนแบบนี้!”
มีคนขุ่นเคือง
“เฮอะ น่าผิดหวังจริงๆ…”
มีคนถอนใจยาว
ก่อนหน้านี้พวกเขาต่อสู้อาบเลือดก็เพื่อปกป้องแหล่งดาราที่อยู่ที่นี่ เดิมนึกว่าการมาถึงของหลินสวินจะเป็นการช่วยเหลือพวกเขา แต่จะคิดได้อย่างไรว่าความจริงแล้วจะกลับกันโดยสิ้นเชิง
นี่ทำให้พวกเขาต่างโกรธเคืองหาใดเทียบ รู้สึกว่าตนโดนหลอกแล้ว
ตาดำหลินสวินดุจสายฟ้า กวาดมองคนที่โกรธเคืองเหล่านี้ปราดหนึ่ง กล่าวว่า “ทำไม ข้าตอบแทนน้ำใจให้ครั้งหนึ่งแล้ว พวกเจ้ายังรู้สึกว่าไม่พอหรือ”
คำพูดง่ายๆ แต่ยอดจักรพรรดิเสวียนซิงกลับหน้าเปลี่ยนสี ฝืนยิ้มเอ่ยว่า “พี่หลิงอย่าเข้าใจผิด นี่พวกเราก็จะไปแล้ว”
พูดจบก็พาคนเหล่านั้นจากไปโดยไม่สนใจอะไร
กระทั่งพวกเขาหายลับไปหลินสวินจึงชักสายตากลับมา ในใจหัวเราะเย็นชา เจ้าพวกนี้คิดว่าตนจะไม่คิดเล็กคิดน้อย ชอบช่วยเหลือคนอื่นจริงหรือ
น่าขัน!
ความจริงแล้วตั้งแต่ตอนที่ ‘ผู้ร่วมทาง’ อย่างสิงมู่เทียน จักรพรรดิขวงหรู หนิงเต้าจื้อ รวมถึงยอดจักรพรรดิเสวียนซิงตั้งใจตีตัวออกหากตนในเมืองตั้งต้น ด้วยกังวลว่าจะชักนำภัยใส่ตัว หลินสวินก็ไม่เคยมองอีกฝ่ายเป็น ‘ผู้ร่วมทาง’ อีกต่อไปอยู่แล้ว!
หลินสวินไม่โทษที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้ ถึงอย่างไรก็ไม่ได้มีมิตรภาพที่แท้จริงระหว่างกัน
และตอนนี้สิ่งที่หลินสวินกระทำก็อยู่บนพื้นฐานนี้ ไม่ได้ผูกมิตร ยังมาแค้นเคืองที่ตนจะชิงแหล่งดาราไปหรือ
ไม่กลัวว่าหากตนโกรธจะทำการสังหารครั้งใหญ่หรือ
ถ้าไม่ใช่ว่าในตอนสุดท้ายยอดจักรพรรดิเสวียนซิงรวบรัดพาคนพวกนี้จากไปทันที หลินสวินคงสั่งสอนเจ้าสารเลวพวกนั้นอย่างไม่เกรงใจสักยกไปนานแล้ว
หลินสวินส่ายหัว จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง
ตูม!
ไม่ไกลนักภูเขาใหญ่สีดำที่อบอวลด้วยคลื่นพลังชีวิตลูกนั้นก็พังถล่ม แหล่งดาราทอแสงสดใสชิ้นหนึ่งบินโฉบออกมา ถูกหลินสวินคว้าเอาไว้ในมือ
หลินสวินประเมินดูเล็กน้อยก็เก็บแหล่งดาราแล้วจากไปอย่างฉับไว
ในขณะเดียวกัน
“คุณหนู แหล่งดารานั่นพวกเราเป็นคนเจอก่อน แต่สุดท้ายกลับถูกหลิงเสวียนจื่อนั่นชิงไป เจ้าหมอนี่จะชั่วช้าเกินไปแล้ว!”
กลางห้วงอากาศไกลลิบ คนผู้หนึ่งเอ่ยปากอย่างโกรธเคือง
“ใช่แล้ว เดิมพวกเรานึกว่าเขาจะหวังดีช่วยเหลือ ใครจะคิดว่าท่าทางปากคอจะทุเรศทุรังได้ขนาดนั้น!”
คนอื่นก็พากันเอ่ยปาก
“หุบปาก!”
ยอดจักรพรรดิเสวียนซิงคุมไฟโทสะในใจไม่อยู่อีกต่อไป เอ่ยอย่างเย็นชาว่า “ข้อแรก เพราะพวกเราขีดเส้นแบ่งกับเขาหลิงเสวียนจื่อไว้อย่างชัดเจน”
“ข้อสอง เมื่อครู่ถ้าไม่ได้หลิงเสวียนจื่อยื่นมือมาแทรก ไม่เพียงแต่จะถูกชิงแหล่งดาราไป พวกเราคงไม่มีทางรอดถอยออกมาได้อย่างปลอดภัย”
“ข้อสาม ในสถานการณ์เช่นนี้ หลิงเสวียนจื่อเป็นฝ่ายปรากฏตัว ช่วยพวกเราสะสางความขัดแย้งให้เอง เท่ากับเป็นการช่วยเหลือพวกเราแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ทุกคนก็เงียบเป็นจักจั่นหน้าหนาวไปแล้ว
ยอดจักรพรรดิเสวียนซิงเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ “ไม่รู้จักซาบซึ้งบุญคุณ อย่างน้อยก็ต้องแยกแยะถูกผิดดีชั่วได้ พวกเจ้า… มีสิทธิ์อะไรไปโกรธเคืองและไม่ยินยอม”
ทุกคนสีหน้าเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาด
ยอดจักรพรรดิเสวียนซิงก็ถอนหายใจยาวในใจ ความเสียใจอย่างบอกไม่ถูกผุดขึ้นมา
……
วันที่สองที่ค้นหาแหล่งดาราในเขตที่หก
หลินสวินถูกล้อมโจมตีครั้งใหญ่ยามชิงแหล่งดาราชิ้นหนึ่ง
มีขุมอำนาจสามกลุ่มร่วมกันลงมือ
กลุ่มหนึ่งนำโดยเด็กหนุ่มผมขาวผู้หนึ่ง คนผู้นี้เป็นมกุฎมหาจักรพรรดิขั้นเจ็ดที่พลังต่อสู้แกร่งกล้าถึงที่สุดคนหนึ่ง มีนามว่าอู่เทียนเฉิน
ข้างกายห้อมล้อมไปด้วยบรรพจารย์ขั้นเก้าสามคนกับระดับจักรพรรดิกลุ่มหนึ่ง
กลุ่มที่สองมีนักพรตเฒ่าชุดแดงคนหนึ่งเป็นผู้นำ นักพรตเฒ่าผู้นี้ไม่ได้เป็นระดับมกุฎมหาจักรพรรดิ แต่พลังปราณบรรพจารย์ขั้นเก้าในตัวก็บรรลุขั้นสมบูรณ์แล้ว แข็งแกร่งกว่าท่านย่าเสวี่ยที่อยู่ข้างกายเหวินเซ่าเหิงอยู่บ้าง
กลุ่มที่สาม…
ก็คือคนหน้าคุ้นกลุ่มหนึ่ง เป็นพวกจักรพรรดิขวงหรูนั่นเอง!
ยามลงมือ ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิขวงหรูหรือคนที่อยู่ข้างกายเขาต่างไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์ มองหลินสวินเป็นคู่ต่อสู้ จู่โจมด้วยพลังทั้งหมดไม่มีเกรงใจสักนิด
หลินสวินไม่ถึงกับขุ่นเคือง และไม่ได้รู้สึกผิดปกติสักนิด
ในที่สุดหลินสวินก็เลือกหลบหนี
แต่ไม่ได้จากไป ยืนอยู่ไกลๆ คอยสังเกตการณ์
นี่ทำให้ขุมอำนาจสามกลุ่มอึดอัดไปหมด สถานการณ์อยู่ในสภาพคุมเชิงกันอย่างประหลาด
ตัวตนของหลินสวินเป็นภัยคุกคามอย่างหนึ่ง และสำหรับขุมอำนาจสามกลุ่มนั้น ใครก็ไม่ยอมหลีกทางมอบแหล่งดาราที่อยู่ที่นี่ให้แต่โดยดี
แต่ถ้าพวกเขาขุมอำนาจทั้งสามกลุ่มเข่นฆ่ากันเอง กลับจะทำให้หลินสวินชุบมือเปิดเอาได้
ชั่วขณะหนึ่งสถานการณ์ก็พบทางตันหาทางออกไม่ได้อยู่เช่นนั้น
หลินสวินสงบเยือกเย็น แต่สีหน้าของขุมอำนาจทั้งสามนั้นออกจะไม่สู้ดีแล้ว
ใครๆ ต่างรู้ว่ายิ่งดึงเวลาออกไปนาน ก็ยิ่งมีคู่แข่งมาจากทั่วสารทิศมากยิ่งขึ้น ถึงตอนนั้นสถานการณ์ก็จะยิ่งยุ่งเหยิง
“พี่หลิง พวกเราเป็นคนร่วมทางเดียวกัน คราวนี้ถ้าเจ้าช่วยพวกเราชิงแหล่งดารานี้ คราวหน้าพวกเราก็ย่อมช่วยเจ้า”
จู่ๆ จักรพรรดิขวงหรูก็เอ่ยปาก สีหน้าจริงใจ
หลินสวินเผยยิ้มหยัน “ก่อนหน้านี้ในเมืองตั้งต้นยังขีดเส้นแบ่งกับข้าชัดเจน ทำไมตอนนี้มาเปลี่ยนใจอีกเล่า”
หลินสวินหยุดไปแล้วเอ่ยต่อว่า “เมื่อครู่ยามต่อสู้แย่งชิง ก็ไม่ยักเห็นพวกเจ้าจะมองข้าเป็นคนร่วมทางเดียวกัน”
จักรพรรดิขวงหรูสีหน้าแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง ถอนใจเบาๆ เอ่ยว่า “ตอนนั้นส่วนตอนนั้น ตอนนี้ส่วนตอนนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์