เมืองตั้งต้นตกอยู่ในความปั่นป่วน
คนพื้นถิ่นที่อาศัยอยู่ในเมืองล้วนหลบซ่อน ตัวสั่นเทิ้ม
บนถนนที่เงียบเชียบมีเพียงระดับจักรพรรดิที่มีพลังปราณสูงส่ง กำลังพุ่งมาทางจวนเจ้าเมือง
บรรยากาศอึมครึมพลุ่งพล่าน เมฆลมปั่นป่วน!
ไม่รู้กี่ปีแล้วที่ไม่ได้เกิดความขัดแย้งนองเลือดเหมือนอย่างวันนี้ ความแตกตื่นที่เกิดขึ้นแค่คิดก็รู้ว่าใหญ่โตแค่ไหน
จวนเจ้าเมือง
นี่คือกลุ่มอาคารก่อสร้างที่ใหญ่โตเก่าแก่ ตั้งอยู่ที่นี่มาเนิ่นนาน ประตูกว้างใหญ่ กระเบื้องสีทองอ่อน เหมือนปราการหนึ่งขวางอยู่ตรงหน้า
ที่นี่คือแกนหลักของเมืองตั้งต้น ปกคลุมด้วยพลังผนึกที่ไม่อาจจินตนาการได้ ตั้งแต่อดีต คนที่ก่อเหตุในเมืองต่อให้มีพลังต่อสู้จะเย้ยฟ้าเพียงใด ล้วนไม่เคยสั่นคลอนจวนเจ้าเมืองได้!
และตอนนี้ เงาร่างของหลินสวินปรากฏตัวอยู่ที่นี่
บางทีอาจเพราะเขามาเร็วเกินไป ทำให้ทหารคุ้มกันที่เฝ้าอยู่นอกจวนเจ้าเมืองต่างอึ้งงัน สีหน้าเปลี่ยนไปทันที แม้แต่หัวสมองยังมึนงงเล็กน้อย
“เจ้าหมอนี่ถึงกับยังไม่ตาย!”
“เขา… เขาจะโจมตีเข้าไปในจวนเจ้าเมืองหรือ”
ทหารเหล่านี้แม้จะตกใจแต่ก็ก้าวออกมาทันที โบกอาวุธชี้ไปทางหลินสวินพร้อมกัน ไอสังหารพวยพุ่ง
กลับเห็นหลินสวินไม่ได้มองพวกเขาแม้แต่น้อย ส่งเสียงตรงๆ
“เหิงเทียนซั่ว เหวินเซ่าเหิง ถ้าพวกเจ้ายังไม่ออกมาอีก วันนี้จวนเจ้าเมืองนี่จะต้องถูกทำลายลงเพราะพวกเจ้า!”
ทุกคำเหมือนสายฟ้าจากเก้าสวรรค์ กึกก้องฟ้าดิน ทำเอาห้วงอากาศสั่นไหว
ทหารที่เฝ้าจวนเจ้าเมืองเหล่านั้นสองหูปวดแปลบ ภาพตรงหน้าพร่าเบลอ แค่เสียงเท่านั้น กลับสะเทือนจนพวกเขาเกือบกระอักเลือด
ผู้แข็งแกร่งที่รวมตัวจากทั่วทุกทิศ หลังจากได้ยินเสียงนี้ในใจล้วนปั่นป่วนระลอกหนึ่ง
หลิงเสวียนจื่อนี่…
ถึงกับประกาศศึกกับเจ้าเมืองจริงๆ!
“เจ้าหนุ่ม ต้องยอมรับว่าพลังต่อสู้ของเจ้าเรียกได้ว่าเป็นราชันในหมู่คนรุ่นเดียวกัน เพียงแต่… เจ้าคิดว่าอาศัยมรรควิถีทั้งตัวเจ้า จะสามารถรอดชีวิตในเมืองได้หรือ”
เสียงที่ราบเรียบนิ่งสงบดังจากจวนเจ้าเมือง นี่คือเสียงของเหิงเทียนซั่ว เผยความน่าเกรงขามอันยิ่งใหญ่
เพียงแต่เหิงเทียนซั่วไม่ได้เผยร่างออกมา คล้ายว่ากำลังดูถูก
แววตาหลินสวินลุ่มลึก เอ่ยพูดเรียบๆ “เจ้าแห่งเมืองหนึ่ง กลับหดหัวอยู่ที่นี่ไม่กล้าออกมาสู้หน้า ดูท่าข้าคงได้แต่บุกเข้าไปด้วยตัวเอง ลากเจ้าเฒ่าอย่างเจ้าออกมา”
ฉัวะ!
เขายืนอยู่ที่เดิม กลางฝ่ามือมีปราณกระบี่สายหนึ่งควบรวมออกมา ฟันผ่าไปเบื้องหน้าอย่างหนักหน่วง
ปราณกระบี่ดั่งมหาสมุทร กว้างใหญ่ไพศาล ภายในมีดาราร่วงหล่น มีโลกหล้าผลุบๆ โผล่ๆ ทิวทัศน์น่าเหลือเชื่อ
ในระหว่างนี้มีหมอกแผ่อวล มีฟ้าร้องฟ้าผ่า ภาพที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ราวกับผ่าเปิดโลก ทำให้ผู้คนใจสั่น
“แย่แล้ว!”
ทหารคุ้มกันที่ดูแลจวนเจ้าเมืองถอยทัพอย่างรวดเร็ว ในใจหวาดกลัวยิ่ง พวกเขาสัมผัสได้ถึงอานุภาพของกระบี่นี้ ไม่อาจปะทะ ยากจะเอาชนะ
ทุกคนต่างพุ่งไปสองฝั่ง หนีเอาตัวรอดอย่างรวดเร็ว
เสียงครึกโครมดังขึ้นคราหนึ่ง ประกายกระบี่ที่หนาใหญ่พุ่งขึ้นฟ้า พร่างพราวหาใดเปรียบ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าสุริยันจันทราดารานั่นร่วงหล่น ปราณกระบี่เทียมฟ้า ผ่าสิ่งก่อสร้างที่ตระหง่านเก่าแก่ของจวนเจ้าเมืองเป็นสองส่วน ปรากฏร่องรอยทำลายล้างขนาดใหญ่ แผ่ลามไปทั่วทุกทิศอย่างต่อเนื่อง
เพียงแค่อานุภาพและนัยเร้นลับที่สั่งสมในกระบี่นี้ ถึงขั้นทำให้คนที่มองอยู่ไม่รู้เท่าไหร่ตกตะลึง สั่นสะท้านอย่างไม่อาจควบคุม
ทว่าก็เห็นว่าในจวนเจ้าเมือง รอบๆ สิ่งก่อสร้างที่เรียงรายปรากฏคลื่นกระบวนผนึกแน่นขนัดนับไม่ถ้วนกะทันหัน ส่องประกายแสงหมื่นจั้ง สัญลักษณ์อักขระไหลเคลื่อน
ราวกับมีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น เพียงพริบตาความเสียหายที่เกิดจากกระบี่นั้นของหลินสวินก็กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว
สมบูรณ์ไร้ซึ่งความเสียหาย!
ก็เป็นตอนนี้เองที่เสียงน่าเกรงขามเต็มไปด้วยความเย้ยหยันของเหิงเทียนซั่วดังขึ้น
“หลิงเสวียนจื่อ เจ้าไม่ใช่ร้ายกาจมาก หมายจะโจมตีเข้ามาในจวนเจ้าเมืองหรือ เหตุใดกระบี่นี้แม้แต่กระเบื้องแผ่นเดียวยังโจมตีให้แตกไม่ได้”
ไกลออกไป เหล่าคนที่เฝ้ามองอยู่ล้วนมองหน้ากัน
“ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เผ่าจักรพรรดิอมตะที่แตกต่างกันผลัดกันควบคุมดูแลจวนเจ้าเมืองนี้ ผ่านการจัดการมาไม่รู้กี่ปี ในจวนเจ้าเมืองแห่งนี้ถูกวางกระบวนผนึกน่ากลัวไม่รู้เท่าไหร่ จะทำลายง่ายๆ ได้อย่างไร”
มีคนพูดเสียงเบา แฝงความทอดถอนใจ “หลิงเสวียนจื่อผู้นี้คงต้องหยุดเท้าลงเพียงเท่านี้แล้ว”
“หึ ถูกคนบุกมาถึงหน้าประตูบ้านแล้วเจ้าเมืองก็ยังไม่ปรากฏตัว ต่อให้หลิงเสวียนจื่อหยุดเท้าลงตรงนี้ แต่คนที่จะขายหน้าสุดท้ายก็คือจวนเจ้าเมือง!”
มีคนแค่นเสียงขึ้นจมูก
กลับเห็นว่าจู่ๆ หลินสวินก็ส่งเสียงหัวเราะหยันในยามนี้ “เหิงเทียนซั่ว คิดว่าจวนเจ้าเมืองนี้แข็งแกร่งไม่อาจทำลายจริงๆ หรือ”
เพิ่งจะสิ้นเสียงเขาพลันสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง
ตูม!
แสงมรรคนับไม่ถ้วนกลายเป็นสัญลักษณ์ลายมรรคที่เร้นลับแปลกประหลาด ราวกับรุ้งเทพพันหมื่นพุ่งยิง โฉบพุ่งเข้าไปในจวนเจ้าเมือง
จากนั้น…
ในจวนเจ้าเมืองพลันเกิดเสียงถล่มระลอกแล้วระลอกเล่า กระบวนผนึกนับไม่ถ้วนที่ปกคลุมอยู่ภายในเหมือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ปรากฏสภาพพังทลายในยามนี้
เพียงสะบัดแขนเสื้อ ก็ทำลายได้อย่างง่ายดาย!
“นี่…” คนไม่รู้เท่าไหร่ตาค้าง ยากจะเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์