ตอนที่ 2474 รู้ทัน
หลินสวินอดมองเผิงเทียนเสียงแวบหนึ่งไม่ได้
ตอนที่เจอกันครั้งแรก เจ้าหมอนี่ท่าทางสูงส่ง เย่อหยิ่งเต็มเปี่ยม
ทว่าตอนนี้ท่าทีกลับเปลี่ยนไป กระตือรือร้นเป็นมิตรขึ้นมา นี่ทำให้ในใจหลินสวินเองได้แต่พึมพำ นี่มันสถานการณ์อะไร
“สหายยุทธ์ ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องไม่พอใจข้า แต่เจ้าจะต้องเชื่อว่าข้ามาแสดงความขอบคุณด้วยความจริงใจ”
เผิงเทียนเสียงรีบพูด
หลินสวินคิดๆ แล้ว จู่ๆ ก็พูดเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “เจ้าทำเพื่อเกี้ยวตู๋กูโยวหรันหรือ”
เผิงเทียนเสียงอดตกใจไม่ได้ ความสามารถในการหยั่งรู้ของเจ้าหมอนี่ร้ายกาจมาก!
“ปิดสหายยุทธ์ไม่ได้จริงๆ”
เผิงเทียนเสียงเผยรอยยิ้มขื่น “พูดตรงๆ อย่างไม่ปกปิด ข้าชื่นชมโยวหรันมานาน หลงใหลในเสน่ห์ของนาง รักนางเพียงคนเดียว ดังคำที่ว่าเป็นห่วงจนลนลาน ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่นอกประตูเมืองจึงได้ล่วงเกินสหายยุทธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ”
เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “มาครั้งนี้ก็เพราะอยากแลกความเห็นใจของสหายยุทธ์ ถึงอย่างไรสหายยุทธ์ก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตโยวหรัน หากนางรู้ความทุ่มเทของข้า บางที… ภาพจำที่มีต่อข้าอาจจะเปลี่ยนไป”
พูดถึงสุดท้ายเขาเหมือนสะท้อนใจ ถอนหายใจไม่หยุด
หลินสวินเผยสีหน้าเข้าใจทันที นี่จึงจะสมเหตุสมผล
เขายิ้มพูด “สหายยุทธ์ช่างทุ่มเทจริงๆ แต่ข้าคงช่วยอะไรเจ้าไม่ได้ และข้ายังต้องเก็บรวบรวมหินผสานทองรอยเขียว เพื่อผ่านการทดสอบ…”
ไม่รอพูดจบเผิงเทียนเสียงโบกมือใหญ่ทันใด เอ่ยว่า “ขอเพียงแค่สหายยุทธ์ยอมไปร่วมงานเลี้ยงกับข้า เรื่องการทดสอบก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
ว่าพลางเขาก็หยิบป้ายคำสั่งหยกม่วงชิ้นหนึ่งออกมายื่นให้หลินสวิน “สหายยุทธ์ นี่ก็คือยันต์หยกผ่านทางที่สามารถแลกมาได้หลังจากผ่านการทดสอบ เจ้ารับไว้เถอะ”
หลินสวินอดหวั่นไหวไม่ได้ เอ่ยว่า “นี่… จะรับไว้ได้อย่างไร”
เผิงเทียนเสียงยิ้ม “ป้ายคำสั่งชิ้นหนึ่งเท่านั้น ถือว่าเป็นความจริงใจของข้า” เขายัดป้ายคำสั่งให้หลินสวินโดยไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ
“เช่นนั้นข้าก็ขอทำตามที่ว่าแล้วกัน” หลินสวินยิ้ม เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการเรื่องการทดสอบได้อย่างง่ายๆ เช่นนี้
เผิงเทียนเสียงเองก็ยิ้มอย่างเบิกบาน
ก็ในตอนนี้เอง…
“เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”
เสียงที่ไพเราะเสนาะหูราวกับเสียงสวรรค์ดังขึ้น
ก็เห็นว่าห่างไปไม่ไกลนัก ตู๋กูโยวหรันในชุดเขียว เงาร่างสูงเพรียว งดงามโดดเด่นเดินเข้ามา ในดวงตาดำสนิทกระจ่างแจ้งเผยความประหลาดใจ มุ่นคิ้วเล็กน้อย
เผิงเทียนเสียงเองก็อึ้ง เอ่ยว่า “โยวหรัน เจ้ากลับโรงเตี๊ยมไปพักแล้วไม่ใช่หรือ”
สีหน้าของตู๋กูโยวหรันนิ่งเหมือนน้ำ เอ่ยว่า “ข้าจะทำอะไรจำเป็นต้องรายงานเจ้าตลอดเวลาหรือ”
เผิงเทียนเสียงรีบยิ้มพูด “โยวหรันเจ้าอย่าเข้าใจผิด ข้ามาขอโทษสหายยุทธ์คนนี้ ถึงอย่างไรสหายยุทธ์ก็เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเจ้า ข้าในฐานะเจ้าถิ่นจะไม่แสดงความจริงใจสักหน่อยได้อย่างไร”
ว่าแล้วเขามองหลินสวินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
หลินสวินเข้าใจทันที พลันรู้ว่า “ไม่ผิด พี่เผิงคนนี้เต็มไปด้วยความจริงใจ ไม่เพียงให้ป้ายหยกผ่านการทดสอบกับข้า ยิ่งไปกว่านั้นยังชวนข้าไปร่วมงานเลี้ยง ทุกอย่างล้วนเพื่อแสดงความขอบคุณ ทำให้ข้าอดรู้สึกซาบซึ้งไม่ได้”
นี่ก็คือคำว่าหมูไปไก่มา
ตู๋กูโยวหรันอึ้ง อดมองเผิงเทียนเสียงอีกแวบไม่ได้ เอ่ยว่า “คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะใส่ใจขนาดนี้”
ประโยคเดียวเท่านั้นกลับทำให้เผิงเทียนเสียงตื่นเต้นขึ้นมา อารมณ์สั่นไหว ถึงขั้นรู้สึกว่าน้ำตาจะเอ่ออย่างไม่ได้
ช่วงนี้เขาทุ่มเทให้กับตู๋กูโยวหรันไม่รู้เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ได้รับคือการต่อต้านและละเลยมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้ ในที่สุดตู๋กูโยวหรันก็ชมเขาแล้ว!
แม้เพียงแค่ประโยคเดียว ก็ทำให้เผิงเทียนเสียงรู้สึกเหมือนได้เห็นฟ้าหลังฝนแล้ว!
ทันใดนั้นใบหน้าเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เอ่ยว่า “ไม่เป็นไรๆ ข้า… เพียงแค่อยากช่วยเจ้าสักหน่อยก็เท่านั้น”
ตู๋กูโยวหรันขมวดคิ้วอย่างยากจะสังเกตเห็น ทำให้ในใจเผิงเทียนเสียงกระตุกวูบ นึกถึงคำชี้แนะของอาสามเผิงเชียนเหอแล้วรู้สึกว่าตนรุกมากเกินไปจริงๆ!
เขาเบี่ยงตัวทันทีพร้อมพูดว่า “โยวหรัน พวกเจ้าคุยกันก่อน ข้าจะไปถามที่จวนเจ้าเมืองสักหน่อยว่าสืบฐานะของมือสังหารนั่นมาได้หรือไม่”
จากนั้นก็ประสานหมัดยิ้มพูดกับหลินสวิน “สหายยุทธ์ คืนนี้ข้าจะส่งคนมาเชิญเจ้าไปร่วมงานเลี้ยง เจ้าต้องมาให้ได้นะ”
พูดจบก็หมุนตัวจากไปอย่างสง่า
นี่ทำให้หลินสวินเองยังอดประหลาดใจไม่ได้ เจ้าหมอนี่… เหมือนจะคิดได้แล้ว
“สหายยุทธ์ เจ้าจะให้ข้าคุยกับเจ้าที่นี่หรือ” ตู๋กูโยวหรันเงยขึ้นมองหลินสวินพลางเอ่ยเย้า
หลินสวินถอนหายใจในใจ
หลังจากได้ยินคำพูดของนกกระจอกเขียว เขาก็ไม่อยากข้องเกี่ยวกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเลยจริงๆ หากถูกพวกที่คลั่งไคล้นางรู้เข้า คงนำพาความวุ่นวายนับไม่ถ้วนมาอย่างแน่นอน
คิดๆ แล้วเขาก็เอ่ยว่า “แม่นาง หากเจ้ามาเพื่อขอบคุณก็ไม่จำเป็นหรอก ความจริงในใจแม่นางเองก็คงรู้ดีว่า ในการลอบสังหารครั้งนั้น ต่อให้ข้าไม่ลงมือ เจ้าก็สามารถสลายอันตรายได้”
ตู๋กูโยวหรันสายตาสวาววาบ ยิ้มขึ้นมา “ดูท่าสหายยุทธ์จะระแวงข้า ช่างเถอะ ข้าเองก็ไม่อยากฝืน แต่พวกเราจะต้องได้เจอกันอีกแน่”
พูดจบนางก็หมุนตัวจากไปเช่นกัน
หลินสวินอึ้งไป จากนั้นจึงส่ายหน้าแล้วปิดประตูห้อง
นอกโรงเตี๊ยม
ตู๋กูโยวหรันสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เป็นฝ่ายแสดงการขอบคุณหลินสวินก่อนสองครั้งติดกัน กลับถูกปฏิเสธทั้งสองครั้ง นี่ทำให้นางเองยังอดสงสัยไม่ได้…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์