Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2478

ตอนที่ 2478 เก้าน่านฟ้าใหญ่
กล่าวจบ หรงเซียงหลีสะบัดแขนเสื้อเดินจากไป

อันที่จริงเขาก็ไม่มีหน้าจะอยู่ต่ออีกเช่นกัน

การตายของจู้หลินทำให้เขาสะท้านขวัญยิ่งเช่นกัน และท่าทีของตู๋กูโยวหรันยิ่งทำให้เขาอับอายระคนเดือดดาลเข้าไปใหญ่ ศักดิ์ศรีถูกโจมตีอย่างรุนแรง

เห็นว่าเขาจากไปแล้ว แววตาของเผิงเชียนเหอซับซ้อน กล่าวทอดถอนใจเบาๆ “เรื่องในวันนี้เกรงว่าจะไม่สามารถปล่อยไปเช่นนี้ได้”

“ผู้อาวุโส ท่านในเวลานี้ไม่ใช่ควรยิ้มหน้าระรื่นหรอกหรือ”

เสียงของตู๋กูโยวหรันเรียบเฉย “ถึงอย่างไรตระกูลเผิงก็ไม่ต้องกังวลว่าจะพลอยเดือดร้อนไปด้วยแล้ว”

ใบหน้าชราของเผิงเชียนเหอแข็งทื่อ อักอ่วนอยู่บ้าง กล่าวว่า “ตระกูลจู้และตระกูลหรงล้วนไม่ใช่ตระกูลที่ตระกูลเผิงของข้าจะล่วงเกินได้ ก็มีแต่คุณหนูโยวหรันเท่านั้นถึงมีความมั่นใจไม่เกรงกลัวพวกเขา”

“ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว โยวหรันเจ้าวางใจได้ ไม่ว่าเจ้าจะตัดสินใจอย่างไรข้าจะยืนอยู่ข้างเจ้าเสมอ” แววตาของเผิงเทียนเสียงดูจริงใจ

กล่าวพลางเขาทอดสายตามองหลินสวิน “พี่จิน เจ้าเองก็ไม่ต้องกดดันมากเกินไป ในเมื่อโยวหรันออกหน้าแล้ว ต่อให้ตระกูลจู้อยากจัดการเจ้า ก็ต้องชั่งใจถึงผลที่ตามมาของการล่วงเกินโยวหรัน”

หลินสวินร้องอ้อคราหนึ่ง กล่าวว่า “ขอบคุณพี่เผิงที่ต้อนรับข้าอย่างดีในวันนี้ ข้าขอตัวก่อน”

กล่าวจบก็จากไปตรงๆ

“พี่จิน ข้าจะไปกับเจ้าด้วย”

ตู๋กูโยวหรันกล่าวพลางตามไปด้วย

มองดูเงาร่างอรชรงดงามของนางไล่ตามหลินสวินออกไป ในใจเผิงเทียนเสียงกระตุกไหว คิดอยากตามไปด้วย

“วันนี้เกิดเรื่องร้ายแรงขนาดนี้ อย่าเพิ่งไปรบกวนคุณหนูโยวหรันอีกจะดีกว่า” เผิงเชียนเหอทัดทาน

“เฮ้อ!” เผิงเทียนเสียงถอนหายใจยาวคราหนึ่ง

“โกรธหรือ”

ราตรีดุจสีหมึก ดวงดาวพร่างพราวบนเวิ้งฟ้า บนท้องถนนแออัดพลุกพล่านมีรถราขวักไขว่ ผู้คนสัญจรไปมา

ตู๋กูโยวหรันไล่ตามหลินสวินมาพลางกล่าว “ข้าบอกแล้ว เรื่องนี้ให้ข้าจัดการเอง ไม่ทำให้เจ้าเดือดร้อนด้วยแน่”

หลินสวินไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง กล่าวเรียบๆ “พูดแบบไม่เข้าหูเลย เดิมปัญหาก็เกิดขึ้นเพราะเจ้า ย่อมต้องให้เจ้ามาจัดการถึงจะถูก”

ตู๋กูโยวหรันเลิกคิ้วดำงามประณีตขึ้น กล่าวอย่างขบขัน “นี่เจ้าโทษข้าอยู่หรือ”

“ไม่ถึงขั้นกล่าวโทษ เพียงแต่ข้าไม่อยากถูกเหล่าภมรตอมบุปผาข้างกายเจ้าเหล่านั้นมองเป็นเป้าหมายโจมตีอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น…”

กล่าวถึงตรงนี้หลินสวินหยุดเท้า สายตามองมาทางตู๋กูโยวหรัน “นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าหวังว่าเจ้ากับข้าต่างไม่กวนใจกัน เดินทางใครทางมัน”

จากนั้นเขาก็หมุนตัวมุ่งหน้าต่อไป

ตู๋กูโยวหรันนิ่งค้าง นางคิดไม่ถึงโดยเด็ดขาดว่าตนถึงขั้นออกหน้า ช่วยเจ้าหมอนี่รับผิดชอบที่ฆ่าจู้หลินตายแล้ว

แต่เขากลับดีนัก ไม่เพียงไม่สำนึก ซ้ำท่าทียังเย็นชาขนาดนี้ ยังคงมองตนเป็นสัตว์ร้ายภัยพิบัติอยู่ตามเดิม!

ครู่ต่อมานางก็ไล่ตามไปกล่าวว่า “นี่ เจ้าไม่ห่วงว่าตระกูลจู้จะหาเรื่องเจ้าเลยหรือ อย่างน้อยหากเจ้าเดินทางพร้อมกับข้า ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเจอความวุ่นวายเหล่านี้นะ”

“เดินทางพร้อมกับเจ้ามีแต่จะยิ่งสร้างความวุ่นวายมากกว่า”

เห็นว่าตู๋กูโยวหรันจะตามมาอีก หลินสวินก็อดปวดหัวไม่ได้ แม่นางผู้นี้ไม่รู้หรือว่าตัวเองนั่นแหละที่เป็นต้นตอของปัญหา

ตู๋กูโยวหรันอดแค่นเสียงเย็นไม่ได้ “หลิงเสวียนจื่อเจ้าช่างดีนัก! เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเปิดโปงฐานะของเจ้าหรือ”

หลินสวินนวดหว่างคิ้วเบาๆ ถอนหายใจยาวกล่าวว่า “เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ มีเหตุผลอะไรถึงทำให้เจ้าต้องขลุกอยู่กับข้าให้ได้”

เห็นว่าหลินสวินอัดอั้น ตู๋กูโยวหรันอดเบิกบานไม่ได้ คนอื่นล้วนอยากจะพัวพันอยู่ข้างกายตนทุกเมื่อเชื่อวันใจแทบขาด เจ้าหมอนี่กลับดีนัก วางท่าไม่แยแสตน อยากไล่ตนให้พ้นๆ ใจจะขาด

นัยน์ตาใสกระจ่างของนางกลอกคราหนึ่ง แย้มยิ้มงามหยดย้อย “ช่วยไม่ได้ ใครใช้ให้เจ้าเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตข้ากันเล่า”

หลินสวินหุบปากฉับพลัน เดินดุ่มๆ ในใจเริ่มคิดคำนวณว่าต้องรีบออกไปจากเมืองพยัคฆ์ครองแห่งนี้ อยู่ให้ห่างจากตัวปัญหานี่เข้าไว้

ตู๋กูโยวหรันตามมาอยู่ตลอด สีหน้าผ่อนคลายสบายใจ เสมือนไม่รู้สักนิดว่าตนก็คือตัวปัญหาในใจหลินสวิน

จนกระทั่งมาถึงหน้าประตูโรงเตี๊ยม ในที่สุดตู๋กูโยวหรันก็ชะงักเท้า ยิ้มละไมกล่าว “เรื่องที่เกิดวันนี้ข้าเองก็ไม่อยากเห็นเหมือนกัน แต่ในเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จากนิสัยและธรรมชาติของข้า ย่อมไม่ยอมให้เจ้าพบเจอหายนะไร้มูลเหตุใดๆ อีกเด็ดขาด จำไว้ ข้าพูดจริงทำจริง”

กล่าวเสร็จนางก็หมุนตัวเดินจากไป

ต่อให้ถูกหลินสวินปั้นหน้านิ่งตำหนิตลอดทาง จนถึงตอนนี้นางก็ยังไม่มีแววไม่สบอารมณ์ให้เห็นเลยสักเสี้ยว

นี่ทำให้หลินสวินที่เดินเข้าโรงเตี๊ยมเข้าใจคำพูดของนกกระจอกเขียวในที่สุด

หญิงแซ่ตู๋กูผู้นี้ ข้องเกี่ยวด้วยไม่ได้จริงๆ

เมื่อข้องเกี่ยวก็จะเกิดปัญหา!

“เป็นอย่างไร คนแซ่ตู๋กูผู้นั้นรับมือยากมากกระมัง” ในห้อง นกกระจอกเขียวมีความสุขบนคราวเคราะห์ของผู้อื่น

หลินสวินไม่ได้หัวเสีย หากแต่เอ่ยถาม “พอจะเล่าเรื่องของเผ่าจักรพรรดิอมตะเหล่านั้นในโลกยอดนิรันดร์ให้ข้าฟังได้หรือไม่”

“นี่ก็ไม่ใช่ความลับอะไรอยู่แล้ว ช้าเร็วเจ้าก็ต้องรู้อยู่ดี”

นกกระจอกเขียวกล่าวพลางก็เริ่มเล่าอย่างฉะฉาน

โลกยอดนิรันดร์กว้างใหญ่ไพศาล อาณาเขตในนั้นแบ่งออกเป็นเก้าชั้นฟ้า และถูกมองเป็นเก้าน่านฟ้าใหญ่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์