ประกายดวงดาวพรั่งพรู หมื่นมรรคสาดแสง
ปลายทางเส้นทางแสนดารา เมืองโบราณที่สูงตระหง่านและกว้างใหญ่แห่งนั้น เหนือกว่าทุกเมืองที่เคยเห็นก่อนหน้านี้ เป็นด่านสุดท้ายแล้ว
มันเหมือนหล่อมาจากทองเทพ ประกายที่เย็นเยียบไหวกะพริบ มีรัศมีสีแดงทึบชั้นหนึ่งปรากฏรางๆ เหมือนแสงเลือดเป็นจุดๆ
เล่าลือกันว่านี่คือเลือดจักรพรรดิที่ไหลออกมายามผู้แข็งแกร่งร่วงหล่นในการต่อสู้ตั้งแต่อดีตกาล ถึงขั้นมีเลือดของระดับอมตะ
แน่นอนว่าเหือดแห้งไปนานแล้ว แก่นพลังกระจายไปสิ้น ไม่เช่นนั้นเมืองแห่งนี้จะต้องมีไอสังหารพลุ่งพล่าน ไม่สามารถเข้าใกล้ได้
หอกำแพงเมืองขนาดใหญ่สูงหลายพันจั้ง ต่อให้เป็นเผ่ามนุษย์ยักษ์ดึกดำบรรพ์ก็สามารถผ่านได้ ยิ่งใหญ่ทรงพลัง เผยความรู้สึกกดดันที่สะเทือนใจคน
นี่เป็นประตูที่หล่อจากทรายเทพธารดาราผสานกับวัตถุอมตะคู่หนึ่ง ทำให้คนสั่นสะเทือน
นี่ ก็คือเมืองจรดฟ้า!
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เป็นสถานที่ที่ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนใฝ่ฝันจะมาถึง
ว่ากันว่าเมืองจรดฟ้าเหมือนท่าข้ามฟากแห่งหนึ่ง ขอเพียงมาถึงที่นี่ ก็จะมีโอกาสล่องไปยังโลกยอดนิรันดร์!
ตอนนี้หน้าประตูที่สูงใหญ่โออ่านั่นมีเงาร่างมากมายรวมตัวกัน
แต่ละคนกลิ่นอายแข็งแกร่ง แผ่อานุภาพที่ผิดแผก บ้างองอาจไร้ที่เปรียบ บ้างอหังการล้นฟ้า บ้างราวกับเทพธิดามาเยือน บ้างประหนึ่งราชันท่องโลก…
ทุกคนล้วนแข็งแกร่งจนทำให้คนใจสั่น
เมื่อเงาร่างพร่างพรายกลุ่มนั้นแบกความตื่นเต้นมาถึง เมื่อเห็นภาพนี้ต่างอดนัยน์ตาหดรัดลงไม่ได้ ใจเย็นลง
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ใครที่สามารถเข้าสู่แดนใหญ่พันศึกได้ ล้วนเป็นพวกน่ากลัวที่ระดับจักรพรรดิ
และคนที่สามารถเดินทางจากด่านนภาอมตะที่หนึ่งจนมาถึงด่านนภาอมตะที่สี่สิบเก้าได้ ล้วนเป็นบุคคลชั้นเลิศที่โดดเด่นที่สุดในระดับจักรพรรดิ เป็นพวกร้ายกาจที่ยากจะหาในหมื่นคน!
“ทุกคนไม่ต้องกังวล เมืองจรดฟ้าไม่เหมือนที่อื่น แม้เป็นมารชั่วที่เข่นฆ่ามานับไม่ถ้วน เพียงแค่สามารถรอดชีวิตมาถึงที่แห่งนี้ได้ก็จะไม่ถูกมองเป็นศัตรู ยิ่งไม่ถูกประกาศจับ” มีคนพูดเสียงเบา สีหน้านิ่งสงบ
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเมืองจรดฟ้ามีกฎเหล็กข้อหนึ่ง ไม่เพียงห้ามเข่นฆ่าและขัดแย้ง ยังถึงขั้นที่ต่อให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่มาจากโลกยอดนิรันดร์ หากฝ่าฝืนกฎเหล็กนี้ก็จะถูกกำราบ!
สิ่งที่ต่างจากด่านนภาอมตะอื่นๆ ก็คือ ผู้ที่พิทักษ์กฎของเมืองจรดฟ้าไม่ใช่จวนเจ้าเมือง แต่เป็น ‘วิญญาณระเบียบ’ ดวงหนึ่ง!
วิญญาณระเบียบตนนี้ถูกเรียกว่า ‘เฮ่าเทียน’ ลือกันว่ามาจากเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหนึ่งในน่านฟ้าที่เก้าเมื่อนานมาแล้ว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เฮ่าเทียนควบคุมดูแลอยู่ที่นี่ เที่ยงตรงไม่ลำเอียงมาโดยตลอด ไม่เลือกปฏิบัติ ใครที่ก่อเรื่องในเมืองจะถูกลงโทษสถานหนักทั้งหมดแทบจะในทันที!
“ไม่ผิด แม้เจอศัตรูที่มีความแค้นลึกล้ำ ก็ไม่กล้าลงมือในเมืองแห่งนี้”
“ว่ากันว่าเมื่อก่อนเคยมีผู้ยิ่งใหญ่ที่มาจากเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลหนึ่งของน่านฟ้าที่เจ็ด เพราะลงมือโดยพลการในเมืองจึงถูกเฮ่าเทียนสังหารคาที่”
ระหว่างสนทนา ผู้ฝึกปราณที่เพิ่งมาเหล่านี้ต่างผ่อนคลายลง
“ดูนั่น ชางฝูเซิงมาแล้ว!”
บริเวณประตูเมืองมีเสียงหนึ่งดังขึ้นกะทันหัน ทำให้เกิดความฮือฮา
ทุกคนเงยมองไป ก็เห็นว่าไกลออกไปมีชายชุดขาวที่ท่าทางเย่อหยิ่ง ผมยาวพลิ้วไหวเดินมาอย่างเนิบช้า เหนือศีรษะเขามีโลงศพทองแดงสีทองขนาดประมาณเจ็ดชุ่นลอยอยู่
เมื่อมองไป คนผู้นี้แผ่กลิ่นกายเย่อหยิ่งที่ชวนกดดันออกมาทั่วร่าง มีความเผด็จการที่ข้าอยู่เหนือผู้ใด!
คนไม่น้อยต่างเผยสีหน้าประหลาด
แปดพันปีมานี้ ชื่อของชางฝูเซิงดังกึกก้องอยู่ในแดนใหญ่พันศึก เคยขึ้นไปอยู่อันดับหนึ่งของประกาศจับ ระดับอมตะที่ตายในมือเขามีไม่รู้เท่าไหร่
ทว่าจนตอนนี้ยังไม่มีใครทำอะไรเขาได้
หนึ่งเพราะพลังต่อสู้ของเขาน่ากลัวเกินไป ครอบครองพลังระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นแปดขั้นสมบูรณ์ อีกหนึ่งเป็นเพราะร่องรอยของเขาเลื่อนลอย น้อยมากจะปรากฏตัว
เดิมทีผู้คนต่างคิดว่าเขาไปจากแดนใหญ่พันศึกนานแล้ว มุ่งหน้าไปยังโลกยอดนิรันดร์
ใครจะคิดว่าวันนี้เขากลับปรากฏตัวหน้าเมืองจรดฟ้า!
กระทั่งเงาร่างของชางฝูเซิงหายไปในประตูเมืองถึงมีคนยิ้มพูด “เจ้าหมอนี่ก็ใจกล้าเกินไปแล้ว”
“ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเมืองจรดฟ้า ต่อให้เป็นเผ่าจักรพรรดิอมตะที่ประกาศจับเขาเหล่านั้นก็ไม่กล้าลงมือในเมืองนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่เกรงกลัว”
มีคนอธิบายเสียงเบา
“ชางฝูเซิงที่ไม่เคยปรากฏตัวมานานก็มาแล้ว เกรงว่าคงเป็นเพราะเรื่องสมรภูมิทวยเทพนั่น” มีคนสายตาแปลกประหลาด
“ต้องเป็นเช่นนี้แน่ ว่ากันว่าอย่างน้อยสามถึงห้าเดือน อย่างมากหนึ่งปี โบราณสถานทวยเทพที่ถูกมองว่าเป็นเขตผนึกอันดับหนึ่งนั่นจะปรากฏประตูออกมา ผู้ฝึกปราณสามารถเข้าไปได้ ถึงตอนนั้นสมรภูมิทวยเทพในตำนานก็จะปรากฏขึ้นตามมา!”
มีคนทอดถอนใจ
ช่วงที่ผ่านมานี้ในเมืองจรดฟ้ามีคลื่นโหมซัดสาด บุคคลชั้นยอดที่โดดเด่นและแข็งแกร่งยิ่งยวดไม่รู้เท่าไรกำลังรอการปรากฏของสมรภูมิทวยเทพ
ถึงขั้นที่มีพวกกร้าวแกร่งจากโลกยอดนิรันดร์มากมายหลั่งไหลเข้ามาเช่นกัน หมายจะเข้าร่วมช่วงชิงศุภโชคที่อยู่ภายใน
ควรรู้ว่าตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โบราณสถานทวยเทพถูกมองเป็นเขตผนึกอันดับหนึ่งของแดนใหญ่พันศึก ใครที่เข้าไปโดยพลการล้วนมีแต่ตาย ต่อให้เป็นระดับอมตะก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
และในข่าวลือ ในโบราณสถานทวยเทพยังมีความลับสูงสุดของยุคก่อน
ตอนที่สมรภูมิทวยเทพปรากฏ ก็หมายความว่าความลับสูงสุดของยุคก่อนปรากฏสู่โลกเช่นกัน!
ดังนั้นไม่เพียงแค่ช่วงนี้ ในสิบกว่าปีมานี้ขอเพียงเป็นผู้แข็งแกร่งที่มาถึงเมืองจรดฟ้า ล้วนเลือกอยู่ต่อแทบจะทั้งหมด อดกลั้นต่อโอกาสที่จะเดินทางไปยังโลกยอดนิรันดร์ทันที เพื่อรอคอยสมรภูมิทวยเทพนั่น
ถึงตอนนี้ในเมืองจรดฟ้าก็มีสภาพเหมือนถ้ำเสือวังมังกร เลือกใครสักคนมาแบบสุ่มๆ ก็มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นพวกร้ายกาจเลิศล้ำที่เก็บซ่อนฝีมืออย่างที่สุดคนหนึ่ง
ถึงขั้นที่เฒ่าดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตมาไม่รู้นานเท่าไหร่บางส่วนยังจะเข้าร่วมด้วยโดยไม่สนศักดิ์ศรีอะไร เพื่อแสวงหาศุภโชค
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์