Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2535

สรุปบท ตอนที่ 2535 สำหรับข้าปราการสวรรค์เหมือนไร้ตัวตน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 2535 สำหรับข้าปราการสวรรค์เหมือนไร้ตัวตน จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2535 สำหรับข้าปราการสวรรค์เหมือนไร้ตัวตน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 2535 สำหรับข้าปราการสวรรค์เหมือนไร้ตัวตน

บนสมรภูมิทวยเทพราวกับจักรวาลแรกกำเนิดผ่าเปิด ห้วงอากาศทั้งหมดถูกกรีดแหวก กลายเป็นใจกลางพายุ เศษเสี้ยวอากาศนับไม่ถ้วนม้วนพัดขึ้นมา

หลินสวินแหวกผ่านอากาศ ถึงกับต้านปราณกระบี่หลากสายบุกไปถึงตรงหน้าหนานหย่งเชียง ภาพหาญกล้าไร้เทียมทานและซัดกวาดสังหารนั้น ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนตกใจจนลูกตาแทบถลน

นัยน์ตาหนานหย่งเชียงหดรัดเล็กน้อย แต่ไม่ตื่นตระหนก พาดกระบี่แนวขวางตั้งรับ

ตึง!

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกระแทกลงมา

กระบี่โบราณที่อบอวลกลิ่นอายอมตะหลากสายของหนานหย่งเชียงถึงกับรับการโจมตีของหลินสวินไม่อยู่ ส่งเสียงครวญรุนแรงขึ้นมาทันที ปราณกระบี่ซัดสาดดุจสายฝน

เมื่อถูกจู่โจมเช่นนั้น เงาร่างหนานหย่งเชียงไหวเอน ถึงกับถูกซัดจนถอยกลางอากาศไปหลายก้าว ใบหน้าชราพลันคล้ำเขียว หว่างคิ้วเผยแววเคร่งเครียดอย่างควบคุมไม่อยู่

มรรควิถีของเจ้าหมอนี่แข็งแกร่งยิ่ง!

ขณะเดียวกันทุกคนบนลานประลองอึ้งงันและไม่กล้าเชื่อ

บรรพจารย์กระบี่ผู้สูงส่งคนหนึ่งถึงกับถูกสั่นคลอน!?

นี่ทำให้ผู้คนเกือบสงสัยว่าฝันไป

‘ได้แต่ทำเช่นนี้แล้ว…’

หนานหย่งเชียงส่ายหัวเล็กน้อย ประกายวับวาววาบผ่านนัยน์ตา กล่าวด้วยความเวทนาเสี้ยวหนึ่ง

“ลืมบอกเจ้าว่าสิ่งที่ข้าสำแดงเมื่อครู่ เป็นแค่พลังของบรรพจารย์จักรพรรดิทั่วไป ตอนนี้ต่างหากจึงจะเป็นอานุภาพของบรรพจารย์มรรคกระบี่ที่แท้จริง!”

เมื่อพูดจบคลื่นพลังที่แข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่าพลันพุ่งออกมาจากตัวเขา เขายืนอยู่กลางอากาศเช่นนั้น ราวกับเสาค้ำสวรรค์ที่หยัดแยกฟ้าดินต้นหนึ่ง

ห้วงอากาศทั่วสมรภูมิทวยเทพพลันทรุดตัวโดยมีหนานหย่งเชียงเป็นศูนย์กลาง กลายเป็นวังวนปราณกระบี่มหึมา

เขายืนอยู่กลางวังวนประหนึ่งเทพ!

แต่ยังไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้

เห็นแค่หนานหย่งเชียงยื่นมือออกมาอย่างแผ่วเบา กระบี่โบราณที่ส่งเสียงครวญอย่างรุนแรงนั้นหวนคืนสู่ความเงียบสงบ จากนั้นม้วนภาพลึกลับมากมายปรากฏออกมาจากตัวกระบี่

มีการโจมตีอหังการที่สังหารเทพมาร มีแสงไหววาบชวนตะลึงที่ทะลวงผ่านตะวันจันทราธารดารา มีปราณกระบี่ดั่งสายน้ำดับสลายทำลายล้างโลกใหญ่แห่งหนึ่ง มี…

“ข้าก้าวสู่ระดับบรรพจารย์มาสามหมื่นหกพันปี มรรควิถีทั้งตัวเคี่ยวกรำบนเส้นทางเป็นตาย ปีนั้นเพื่อหลอมกระบี่นี้ ข้าเคยใช้วัตถุอมตะเป็นหินลับกระบี่ ผ่านการตีหลอมมาหมื่นปีจึงแฝงคมประกาย วันนี้ข้าจะให้เจ้าหนูอย่างเจ้าได้เปิดหูเปิดตา ว่าอะไรเรียกว่าอานุภาพของบรรพจารย์กระบี่ที่แท้จริง”

วู้ม!

หนานหย่งเชียงดีดนิ้วเบาๆ

ตัวกระบี่โบราณที่แต่เดิมยาวแค่หนึ่งฉื่อถึงกับเปลี่ยนเป็นยาวสามฉื่อ ภาพมรรคมากมายบนตัวกระบี่ก็หลอมรวมเป็นภาพกระบี่ที่สมบูรณ์ภาพหนึ่ง

ปราณกระบี่ล้นฟ้าเทียมดินเก้าสายกลายเป็นรุ้งกระบี่เก้าสี เปล่งประกายไหววูบอยู่ในภาพกระบี่

ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน ลม อสนี หยิน หยาง!

เจตกระบี่ระดับบรรพจารย์มรรคที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเก้าอย่างโอบล้อมอยู่ในภาพกระบี่ ส่งเสียงกังวานเร้าระทึกเคียงคู่กระบี่โบราณเล่มนั้น!

สุดท้ายกระบี่โบราณเล่มนั้นกับภาพกระบี่ล้วนกลายเป็นเจตกระบี่พันจั้งราวภาพมายาสายหนึ่ง ถูกหนานหย่งเชียงยึดกุมไว้ เจตกระบี่ชวนประหวั่นทะยานสู่ฟากฟ้า

ปราณกระบี่ยังมาไม่ถึง เจตกระบี่ก็นำไปก่อนแล้ว ห้วงอากาศพลันถูกเจตกระบี่แหวกผ่านทันที ช่องอากาศยาวพันจั้งสายหนึ่งแผ่ขยายจากเบื้องหน้าหนานหย่งเชียงไปอย่างรวดเร็ว

ทุกคนรู้สึกเพียงว่าเห็นภาพมหัศจรรย์

ฟ้าดินแยกจากกันจนเกิดช่องโหว่มหึมาสายหนึ่ง ปราณกระบี่เฉียบคมนับไม่ถ้วนเอ่อล้นออกมา หนานหย่งเชียงยังไม่ออกกระบี่ก็ผ่าแหวกอากาศแล้ว!

พลังผนึกป้องกันที่ปกคลุมบนสมรภูมิทวยเทพดังกระหึ่มขึ้นมาอย่างรุนแรง เหมือนถูกอานุภาพกระบี่ชวนประหวั่นสั่นคลอน

หนานหย่งเชียงในตอนนี้เหมือนเทพกระบี่ในตำนาน ทั้งตัวล้วนปลดปล่อยปราณกระบี่ยิ่งใหญ่หยิ่งผยองออกมา

กระบี่โบราณส่งเสียงอึงอล

ปราณกระบี่ทะลวงเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน!

เมื่อหนานหย่งเชียงฟันกระบี่ออกมาอย่างแท้จริง ทุกคนจึงเข้าใจในที่สุดว่าพลังของบรรพจารย์กระบี่ที่แท้จริงนั้นน่ากลัวระดับใด

เมื่อหนึ่งกระบี่นี้ฟันออกมา สมรภูมิทวยเทพดุจกลายเป็นกรงขังที่ถูกพันธนาการ ทั้งตัวหลินสวิน รวมถึงห้วงอากาศในรัศมีพันจั้งที่เขาอยู่ล้วนถูกทำให้ชะงักค้าง

ควบคุมห้วงอากาศ!

กระบี่นี้ของหนานหย่งเชียง ถึงกับสะท้อนนัยเร้นลับแห่งห้วงอากาศว่างเปล่าออกมาถึงขีดสุด!

“ปีนั้นหนานหย่งเชียงกลายเป็นบรรพจารย์ด้วยมรรคแห่งห้วงอากาศ ทั้งก่อให้เกิดความปั่นป่วนในน่านฟ้าที่เจ็ด อาศัยเจตกระบี่แห่งห้วงอากาศทำให้คนรุ่นเดียวกันนับไม่ถ้วนพ่ายแพ้ภายใต้กระบี่นี้ ไม่มีใครไม่เลื่อมใสสุดจิตสุดใจ”

ชายชราคนหนึ่งในลานประลองอดทอดถอนใจไม่ได้

ในน่านฟ้าที่เจ็ด กระบี่แห่งห้วงอากาศของหนานหย่งเชียงสะเทือนดินแดนแห่งหนึ่งได้จริงๆ ทำให้ระดับอมตะมากมายเหลียวมอง เห็นเขาเป็นอัจฉริยะมหามรรค วันหน้าหากก้าวสู่มรรคาอมตะได้ ความสำเร็จต้องเจิดจรัสกว่านี้แน่!

แม้แต่คนที่ไม่รู้อดีตของหนานหย่งเชียง ยามเห็นภาพนี้ตอนนี้ก็ใจสั่นอย่างอดไม่ได้

หลินสวินนั่นจะต้านกระบี่นี้อย่างไร

ภายใต้การจับจ้องของสายตาผู้คนนับไม่ถ้วน ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ เหวลึกตรงหน้าหลินสวินทลายออกจากกันเป็นชั้นๆ ราวกับไก่กระเบื้องสุนัขดินเผา

ปราณกระบี่แห่งห้วงอากาศดุจมายานั้นยังมาไม่ถึง เจตกระบี่ที่น่าหวาดกลัวก็พุ่งมาถึงหน้าหลินสวินแล้ว

หลินสวินพลันหัวเราะ หัวเราะจนทำให้ทุกคนไม่เข้าใจความหมาย

“ที่แท้เจ้าก็ซ่อนความสามารถไว้ พอดี… ข้าก็ซ่อนพลังไว้เช่นกัน” หลินสวินเอ่ยราบเรียบ

จากนั้นพลังรอบตัวหลินสวินยกระดับขึ้นด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อและพลุ่งพล่าน อานุภาพชวนประหวั่นกว่าก่อนหน้านี้แผ่ออกมาจากร่างเขาทันที

หวนนึกถึงปีนั้นยามอยู่ระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นเจ็ด เขายังไปสู้กับเหิงเทียนซั่วได้ ตอนนั้นเป็นแค่การต่อสู้ ไม่อาจสังหารอีกฝ่ายได้อย่างแท้จริง

แต่สิบแปดปีมานี้มรรควิถีทั้งตัวเขาต่างไปโดยสิ้นเชิงนานแล้ว ไม่เพียงก้าวสู่ระดับมกุฎจักรพรรดิขั้นแปดเท่านั้น ยังมีพลังที่กำราบและสังหารบรรพจารย์จักรพรรดิในการปะทะซึ่งหน้าได้นานแล้วด้วย

ปราการสวรรค์อะไร กำแพงอะไร สำหรับเขาล้วนไม่ใช่อุปสรรคนานแล้ว!

“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นสิบยอดมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิในน่านฟ้าที่เจ็ด ยามมีพลังปราณระดับจักรพรรดิขั้นแปดก็ไม่มีทางครองพลังเย้ยฟ้าเช่นนี้ เจ้า…”

นัยน์ตาหนานหย่งเชียงฉายแววลนลานเสี้ยวหนึ่ง หน้าคล้ำเขียวยากจะเชื่อ แม้แต่พูดยังพูดไม่ออก

ฟุ่บ!

เหนือความคาดหมายของทุกคน เวลานี้หนานหย่งเชียงถึงกับถอนตัวคิดหลบหนี

กลับเห็นมุมปากหลินสวินเผยแววเย้ยหยัน จากนั้นกายมรรคทั้งห้าก็พุ่งทะยานออกมา ล้อมรอบจากทั่วสารทิศ ปิดทางหนีทั้งหมดของหนานหย่งเชียง

ตูม…

กายมรรคทั้งห้าพุ่งจู่โจมพร้อมกันราวคลื่นทะเลพิโรธ เงาร่างของหนานหย่งเชียงถูกวิชามรรคและแสงศักดิ์สิทธิ์นานัปการฝังกลบโดยสมบูรณ์

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลันนี้อยู่เหนือความคาดหมายของทุกคนอีกครั้ง เสียงตะโกนอย่างตกตะลึงดังขึ้นไม่หยุดหย่อน

หนานหย่งเชียงคำรามอย่างต่อเนื่อง ราวกับสัตว์ปีศาจดึกดำบรรพ์ที่สู้สุดตัวอย่างบ้าคลั่ง เมื่อเขาอุตส่าห์ฝ่าวงล้อมออกมาได้เลือดก็อาบไปทั้งตัวแล้ว ร่างกายขาดวิ่น สภาพอเนจอนาถอย่างที่สุด

ในเวลานี้เองร่างต้นหลินสวินปรากฏตัวกลางอากาศ กระบี่มรรคไร้ก้นบึ้งที่เตรียมพร้อมอยู่ก่อนแล้วแทงออกมาด้วยความเร็วน่าเหลือเชื่อ

ฟุ่บ!

กระบี่นี้เหนือกว่าห้วงอากาศ หนานหย่งเชียงเพิ่งฝ่าวงล้อมออกมาก็แทงเข้าหว่างคิ้วเขาทันที

หนานหย่งเชียงอึ้งงัน หว่างคิ้วถูกทะลวง จากนั้นศีรษะก็ระเบิดออก ต่อมาร่างกาย จิตวิญญาณและพลังน่ากลัวในร่างทั้งหมดล้วนระเบิดออกภายใต้กระบี่เดียวนี้ กลายเป็นหมอกโลหิตสลายไปกลางฟ้าดิน

หนึ่งก้าวโฉบพุ่ง หนึ่งกระบี่ฆ่าบรรพจารย์จักรพรรดิ!

เรียบง่ายสบายๆ ไม่มีกลิ่นอายใดๆ ประหนึ่งล้วงของในถุงหนัง

ก่อนตายหนานหย่งเชียงถึงขั้นไม่ทันร้องโหยหวนก็สลายกลายเป็นธุลี ถูกเจตกระบี่ไร้ขอบเขตนั้นลบหายไปจากโลกอย่างสมบูรณ์

เร็วเกินไปแล้ว!

ภาพนองเลือดนี้เหมือนฟ้าผ่าจากเก้าชั้นฟ้า ระเบิดบนโลกกะทันหัน เพียงพอจะทำให้สิ่งมีชีวิตในใต้หล้าสั่นสะท้าน

เวลานี้ฟ้าดินเงียบสงัดไปทั้งแถบ

ผู้ชมการต่อสู้พวกนั้นต่างสีหน้าอึ้งงัน

…………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์