ตอนที่ 2556 ยามบุปผาเบ่งบาน ผีเสื้อย่อมมาเอง
ทั่วลานเงียบสงัด
ล้วนถูกยันต์ที่วิวัฒน์จากด่านเคราะห์สุดท้ายนี้ทำให้หวั่นหวาด ด้วยกลิ่นอายของมันที่แผ่อบอวล น่ากลัวถึงขั้นทำให้สภาวะจิตของผู้สังเกตการณ์อย่างพวกเขาสั่นสะท้าน
น่ากลัวเกินไปแล้ว
เต็มไปด้วยสีสันแปลกประหลาดและไม่อาจระบุ ในอดีตไม่เคยพบเห็น ทั้งไม่เคยได้ยินมาก่อน
เมื่อยันต์นี้โฉบลงมาก็ไร้สุ้มเสียง มองข้ามพันธะเวลา ปกคลุมหลินสวินทั้งตัวในพริบตา
อานุภาพไร้เทียมทานที่แผ่ออกมาจากตัวหลินสวินล้วนไม่อาจต้านทานได้แม้แต่น้อย!
ภายใต้การจับจ้องด้วยสายตาตื่นตะหนกของทุกคน หลินสวินที่กำลังดื่มด่ำอยู่ในการแจ้งมรรคและแปรวิชา เงาร่างเหมือนถูกผนึกฉับพลัน แน่นิ่งไม่ไหวติง
ไม่ว่าใครต่างรู้ว่าหลินสวินเจออันตรายถึงชีวิตแล้ว!
ยันต์ลี้ลับชวนประหวั่นนั้นแผ่ละอองแสงอสนีทำลายล้างอย่างเงียบเชียบ ท่ามกลางความรางเลือนถึงกับมีพลังระเบียบลึกลับหลากสายอบอวล!
“นี่…” พวกฉีหลิงอวิ๋นล้วนหน้าเปลี่ยนสี พลังระเบียบในยันต์อสนีเคราะห์นั้น เกินความเข้าใจและจินตนาการของพวกเขาจริงๆ น่ากลัวถึงขีดสุด!
อย่างน้อยอานุภาพนั้นก็ไม่ด้อยไปกว่าพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าซึ่งยากพบเห็นที่สุด!
เบื้องหลังพวกฉีหลิงอวิ๋นคือขุมอำนาจยักษ์ใหญ่อมตะมากมาย ยืนตระหง่านอยู่ในน่านฟ้าที่แปด ความเข้าใจที่มีต่อพลังระเบียบ ใช่ว่าคนทั่วไปจะเทียบได้
สามารถทำให้พวกเขารู้สึกสั่นสะท้านและตื่นตระหนกได้ แค่คิดก็รู้แล้วว่าพลังระเบียบในยันต์อสนีเคราะห์นี้น่ากลัวระดับใด!
‘สิ่งนี้ไม่คิดให้โอกาสเขากลายเป็นบรรพจารย์ชัดๆ! ด่านเคราะห์นี้เขาต้องต้านไม่อยู่แน่!’
ในใจจงหลีเซียวร้อนระอุ กระเหี้ยนกระหือรือ รอให้หลินสวินตายแล้วค่อยไปชิงต้นหงเหมิงหมื่นมรรคนั้นมา
‘ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก…’
ฉีหลิงอวิ๋นทอดถอนใจ ความแข็งแกร่งด้านมรรควิถีของหลินสวิน หากสร้างประโยชน์ให้ตระกูลฉีของพวกเขาได้ วันหน้าจะต้องมีประโยชน์อย่างมากแน่
แต่ฉีหลิงอวิ๋นไม่ได้เสียดาย ด้วยหลินสวินตายแล้ว นางจึงวางใจ
เวลานี้ทุกคนล้วนมองออกว่าหลินสวินไม่ไหวแล้ว ต่อให้ก่อนหน้านี้เขาจะเย้ยฟ้าแค่ไหน เจิดจรัสเพียงใด แต่ภายใต้ยันต์อสนีเคราะห์นี้ เขาไม่มีแรงต้านทานอย่างสิ้นเชิง!
“ทะยาน!”
ทันใดนั้นเสียงตวาดหนึ่งดังขึ้น เงาร่างมู่อี้พุ่งออกมา ถึงกับลงมือในเวลานี้แล้ว
ภายใต้ระยะห่างร้อยจั้ง เขาเงื้อมือซัดบาตรใบหนึ่งออกไป อบอวลด้วยกลิ่นอายเก่าแก่พร่างพร้อย ดำขลับน่าพรั่นพรึง แสงเยียบเย็นเปล่งประกาย เข้าปกคลุมต้นหงเหมิงหมื่นมรรค
เห็นชัดว่าเขารอไม่ไหวแล้ว ต้องการชิงต้นหงเหมิงหมื่นมรรคนั้นไปก่อนก้าวหนึ่ง
พวกฉีหลิงอวิ๋น จงหลีเซียว ชือพั่วจวินล้วนสีหน้าขรึมลงทันที กำลังจะลงมือขัดขวาง
ตูม!
เสียงราวกับฟ้าถล่มดินทลายพลันดังก้อง สะเทือนจนทุกคนในที่นั้นเลือดลมตีกลับ ใจสั่นสะท้านพร้อมกัน
ก็เห็นว่าตัวหลินสวินที่ถูกยันต์อสนีเคราะห์นั้นกักขัง มีไอเลือดสีทองพุ่งออกมา กลายเป็นเงาร่างสายหนึ่งออกหมัดสังหาร อานุภาพอัศจรรย์ครองพิภพ
นี่ไม่ใช่ร่างจริง แต่เป็นเจตจำนงแห่งการต่อสู้ของหลินสวิน เป็นวิชาไร้คู่ต่อกรที่เขาเคี่ยวกรำและอนุมานอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้ เป็นเจตจำนงวิถียุทธ์ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดที่มีในปัจจุบัน!
ปึง!
บาตรสีดำถูกหมัดเดียวซัดกระเด็น เจตจำนงวิถียุทธ์สีทองนั้นปลดปล่อยพลังต่อสู้กลางอากาศ ประดุจเซียนสำแดงยุทธ์ ซัดหมัดออกมาอีกครั้ง
แค่อานุภาพนั้นก็ทำให้ฟ้าดินแถบนี้ปั่นป่วน ทำให้ผู้ฝึกปราณส่วนหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงตัวแข็งทื่อ จิตใจสั่นคลอนยากจะรับจนกระอักเลือดออกมา
ยังมีหลายคนถูกพลังเจตจำนงวิถียุทธ์นั้นกระเทือนจนบาดเจ็บสาหัสโดยตรง ซวนเซถลาออกไป
ผู้คนตื่นตระหนก ทุกคนต่างอึ้งงันแล้ว!
นี่ต้องเป็นเจตจำนงวิถียุทธ์ที่แข็งแกร่งเพียงใด สิ่งที่หลินสวินสำแดงคือมรรคและวิชาอย่างไรกันแน่ถึงได้แข็งแกร่งระดับนี้ สะท้านสะเทือนใจของทุกคนอย่างที่สุด
“เจ้า…” มู่อี้ตกใจจนหน้าถอดสี ไหนเลยจะคาดคิดว่าหลินสวินที่เดิมทีต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา กลับเผยเจตจำนงวิถียุทธ์ราวกับไร้คู่ต่อกรออกมาในช่วงเวลาสำคัญนี้
บาตรถูกซัดกระเด็น หมัดที่เจตจำนงวิถียุทธ์ของหลินสวินซัดออกมากระแทกอากาศ แสงตระการตาลอยทั่วฟ้า สิ่งที่เหลือในตอนท้ายมีแค่กำปั้นสีทองครอบคลุมสี่ทิศ ปกคลุมทั่วสิบทิศและซัดลงมาเต็มแรง ไม่ว่ามู่อี้จะหลบอย่างไรล้วนไม่มีผล ซ้ำยังต้านไม่อยู่ สมบัติในมือที่เรียกออกมาถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง ละอองแสงนับไม่ถ้วนระเบิดกระจาย
ทั้งตัวเขาสั่นงันงก รู้สึกหวาดกลัวเช่นนี้เป็นครั้งแรก ยากจะเชื่อว่ามกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิอย่างเขา กลับต้านทานไม่ได้แม้แต่เจตจำนงวิถียุทธ์เดียว!?
ทุกอย่างล้วนสายไปแล้ว นี่คือเจตจำนงไร้คู่ต่อกรอย่างหนึ่งที่หลินสวินหลอมออกมายามแจ้งมรรค หมัดเดียวซัดมู่อี้ระเบิดกระจุยทันที เศษกระดูกและเลือดเนื้อสาดกระจาย จิตสิ้นวิญญาณสลาย
“เป็นไปได้อย่างไร?!”
หลายคนร้องเสียงหลงออกมา หนาวสะท้านไปทั้งตัว นี่เป็นแค่พลังหมัดอย่างหนึ่งเท่านั้น
ร่างจริงของหลินสวินยังไม่ลงมือ ถูกยันต์อสนีเคราะห์นั้นกักขัง แต่กลับสังหารมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่งได้โดยง่าย นี่ทำให้ทุกคนขนพองสยองเกล้า!
พวกฉีหลิงอวิ๋นกับจงหลีเซียวล้วนสะท้านใจ
พลังต่อสู้ของมู่อี้ไม่ต่างกับพวกเขาเท่าไหร่ แต่กลับถูกเจตจำนงวิถียุทธ์หนึ่งสังหาร แม้แต่สมบัติช่วยชีวิตพวกนั้นยังไม่อาจต้านหมัดชวนประหวั่นนั้นได้!
ความจริงหมัดนี้ก็เร็วเกินไป แข็งแกร่งและเผด็จการยิ่งนัก ไพ่ตายของมู่อี้ยังไม่ทันได้ใช้ก็ดับสิ้นแล้ว
แต่ต่อให้เป็นเช่นนั้น ในสายตาของทุกคน ภาพนองเลือดนี้ก็เรียกได้ว่าน่าหวาดกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์