Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2561

ตอนที่ 2561 ผลการต่อสู้

คัมภีร์เป็นหน้าๆ ที่ทอประกายเหลืองร่ายระบำ แต่ไม่สามารถสกัดหลินสวินเอาไว้ได้

และหลังจากไพ่ตายสุดท้ายที่แปลงเป็นอักษร ‘ฉี’ นั่นก็ถูกกำราบเช่นกัน ฉีหลิงอวิ๋นก็อดรู้สึกสิ้นหวังไม่ได้

แต่นางไม่ได้ท้อแท้

ชิ้ง!

กระบี่เทพเรียวยาวสีขาวหิมะเล่มหนึ่งประดุจสายฟ้าคดโค้ง พุ่งออกมาจากมือนาง ความเจิดจ้าของคมประกายสามารถเจาะทะลวงสุริยันจันทราดาราได้

แต่กระบี่เทพสายนี้กลับถูกสองนิ้วมือของหลินสวินหนีบไว้ แม้จะสั่นอย่างรุนแรงก็ไม่สามารถหลุดออกไปได้

ปึง!

เมื่อหลินสวินออกแรงที่นิ้ว กระบี่เทพเรียวยาวสีขาวหิมะนี้ก็ถูกทำลายหักเป็นสองท่อน

“ตอนอยู่แดนเซียนว่างเปล่า ข้าก็คิดแล้วว่าต้องมีสักวัน อยากเห็นนักว่าใครจะเป็นฝ่ายก้มหัวให้ใครกันแน่ ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะมาเร็วขนาดนี้”

นัยน์ตาดำของหลินสวินดุจสายฟ้า จับจ้องฉีหลิงอวิ๋นเขม็ง ไม่ได้รุกเข้าบีบคั้นอีก

ผู้หญิงคนนี้น่ากลัวมาก ตั้งแต่การต่อสู้ครั้งนี้เริ่มจนถึงตอนนี้ก็ใช้ไพ่ตายหลายครั้ง มีกระสวยบินที่ประทับกลิ่นอายอมตะ มีวัชระสยบมารเปื้อนเลือด และมีคัมภีร์ประกายเหลืองที่พลังป้องกันเข้าขั้นวิปริตเล่มนี้…

ถึงขั้นที่อักษร ‘ฉี’ ซึ่งควบรวมมาจากพลังระเบียบในจี้หยกนั่น สำหรับใครก็ตามยิ่งมีพลังคุกคามภัยถึงชีวิต

กล่าวอย่างไม่เกินจริง หากเป็นมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนอื่นใด หากพบเจอพลังโจมตีของไพ่ตายเป็นชุดเช่นนี้ เกรงว่าคงสิ้นท่าไร้ชีพไปนานแล้ว

ต่อให้เป็นระดับอมตะ ก็ยังยากจะพูดว่าจะไม่ถูกโจมตี

ฉะนั้นแม้ว่าตอนนี้จะได้เปรียบอย่างแน่นอนแล้ว แต่หลินสวินยังคงไม่กล้ารับรอง เพราะไม่มีใครรู้ว่าบนตัวฉีหลิงอวิ๋นคนนี้ยังมีไพ่ตายอื่นๆ อีกหรือไม่

“ให้ข้าก้มหัวหรือ”

นัยน์ตาฉีหลิงอวิ๋นผุดแววเย็นชา และยิ่งมีแววดูแคลนเสี้ยวหนึ่ง “ข้าฉีหลิงอวิ๋นอยู่มาจนบัดนี้ นอกจากบิดามารดาก็ยังไม่เคยก้มหัวให้ใครหน้าไหนมาก่อน เจ้าคิดว่าเจ้ามีคุณสมบัติพอหรือ”

ตกที่นั่งอันตรายไปแล้ว แต่นางยังคงมีความเย่อหยิ่งที่ประทับอยู่ในกระดูกอย่างหนึ่ง

“เช่นนั้นข้าจะช่วยให้เจ้าก้มเอง”

หลินสวินเดินไปข้างหน้าทันที ยื่นมือไปคว้าคอฉีหลิงอวิ๋น

นิ้วมือฉีหลิงอวิ๋นพลิกขยับ คัมภีร์ประกายเหลืองเป็นหน้าๆ นั่นแปลงเป็นม้วนตำราม้วนหนึ่งสะบัดไปในอากาศทันที

ตูม!

แสงมรรคคลุมเครือแปลกประหลาดพวยพุ่ง พลังเข่นฆ่าน่าสะพรึงบดขยี้ไปทางหลินสวิน

จากนั้นเงาร่างของนางแปรเปลี่ยน แปลงเป็นหยดน้ำสีทองนับไม่ถ้วนพุ่งไปสี่ทิศแปดทาง หยดน้ำแต่ละหยดลากยาวกลางอากาศ กลายเป็นเส้นสายสีทองฝ้ามัว ทุกสายล้วนเหมือนกันทุกประการ แยกไม่ออกสักนิดว่าน้ำหยดไหนคือร่างจริงของนาง

นี่เป็นอภินิหารที่น่าเหลือเชื่ออย่างหนึ่งโดยไม่ต้องสงสัย!

กลับเห็นหลินสวินสีหน้าเฉยเมย ใช้เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งเข้าปะทะ บดแสงมรรคคลุมเครือที่สาดส่องออกมาจากม้วนตำราประกายเหลืองม้วนนั้นจนแหลกลาญ

และรอบตัวเขาพลันปรากฏเหวใหญ่ปากหนึ่ง ปิดฟ้าบังตะวัน ครอบตำหนักใหญ่แห่งนี้ไว้มิด ปลดปล่อยพลังกลืนกินน่าสะพรึงออกมา

ตูมโครม!

เส้นสายสีทองที่พวยพุ่งพร่างฟ้านั่นล้วนจมสู่เหวลึกเวิ้งว้างโดยพลัน ราวถูกมือใหญ่เค้นขยี้แหลกเป็นเสี่ยง แตกระเบิดไม่หยุด ถูกบดขยี้ท่ามกลางเสียงอึงอล

เสียงปึงดังขึ้นคราหนึ่ง เส้นสายสีทองหนึ่งในนั้นสั่นกึก ก่อนคืนร่างเป็นฉีหลิงอวิ๋น เพียงแต่เห็นชัดว่าสะบักสะบอมหาใดเปรียบ ผมเผ้ากระเซิง เสื้อผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้างามขาวกระจ่างซีดเซียว มุมปากยิ่งมีเลือดไหลลงมา

“เปิด!”

นางส่งเสียงเกรี้ยวกราดออกมา ระหว่างนิ้วมือเรียวยาวขาวเนียนควบรวมเปลวเพลิงสีเงินสายหนึ่ง ก่อนโบกมือเบาๆ เมื่อเปลวเพลิงสีเงินพุ่งออกไป เหวใหญ่ที่ปิดครอบทั่วทิศนั่นถึงกับถูกเผาเป็นรู!

เมื่อเห็นว่าฉีหลิงอวิ๋นใกล้จะหลุดพันธนาการ เงาร่างของหลินสวินพุ่งออกมาทันควัน คว้าคอระหงขาวกระจ่างของนางจากด้านหลังในหมับเดียว!

อึดใจนี้ฉีหลิงอวิ๋นตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับเขยื้อนอีกแม้แต่เสี้ยว ในแววตาวูบไหวไปมา มีความตะลึงงัน และมีความอับอายอย่างบอกไม่ถูก

บุตรสาวผู้นำตระกูลฉีแห่งน่านฟ้าที่แปดซึ่งส่งส่งอย่างนาง วันนี้กลับถูกคนหิ้วคอจากด้านหลังเหมือนเหยื่อตัวหนึ่ง!

“เจ้าจะทำอะไร” ฉีหลิงอวิ๋นตระหนกอย่างสิ้นเชิง มือใหญ่ที่บีบคอนางข้างนั้นประหนึ่งของสกปรกที่สุดในโลก ทำให้ผิวนางระคายเคืองทันที จนจวนจะทนไม่ไหว

“ก้มหัว” หลินสวินตอบกลับสบายๆ ออกแรงบริเวณนิ้วมือ ก็เห็นคอระหงขาวกระจ่างของฉีหลิงอวิ๋นถูกกดจนโค้งงอลง

ใบหน้างามของนางก่ำแดง ดวงตาแทบถลน ถูกกดให้ก้มหัวด้วยวิธีบีบบังคับหยาบช้าเช่นนี้ นี่ทำให้นางอับอายจนอยากตาย เจียนจะคลุ้มคลั่ง

แม้จะดิ้นรนขัดขืนก็เปล่าประโยชน์ มรรควิถีในตัวนางถูกกดข่มไปสิ้น ศีรษะถูกกดลงทีละน้อยอย่างไม่อาจควบคุมได้

จังหวะที่ก้มหัวลง ความเย่อหยิ่งและศักดิ์ศรีในใจของฉีหลิงอวิ๋นราวถูกทำลายลงโดยสมบูรณ์ ทั้งตัวสูญเสียการควบคุมโดยสิ้นเชิง ก่อนส่งเสียงกรีดร้อง

“อ๊าก…” สิ่งที่อัดแน่นอยู่ในเสียงนั้นมีแต่โทสะและความแค้น ดังก้องทั่วตำหนัก ลอยออกไปด้านนอกตำหนักเซียนใจกลาง สามารถทำให้เทพผีสะดุ้ง

ไม่เคยมีสักครั้งที่นางเคียดแค้นใครมากขนาดนี้

ไม่เคยเลย!

เห็นนางในสภาพนี้ หลินสวินไม่มีความคิดรักหยกถนอมบุปผาแม้แต่นิด ตรงข้ามกลับเกิดความรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก

“ตอนนี้ต่อให้เจ้าร้องจนคอแตกก็ไม่มีประโยชน์”

หลินสวินหิ้วฉีหลิงอวิ๋นมาไว้ตรงหน้า ฝ่ามือหนึ่งตบใบหน้างามล้ำราวหยกดุจบุปผาของนาง ตบจนนางเลือดกบปากจมูก เบื้องหน้าปรากฏดาวสีทอง ทั้งตัวล้วนอึ้งงันไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์