ตอนที่ 2562 ระดับอมตะสามขั้นใหญ่
มรรคาอมตะ แบ่งออกเป็นสามขั้นพลังใหญ่
แบ่งเป็น อายุขัยเทียมฟ้า ดับเทพ หลุดพ้น
ขั้นอายุขัยเทียมฟ้า เป็นธรณีประตูบานแรกของมรรคาอมตะ มีความหมายตามชื่อ นั่นก็คือมีอายุขัยเทียมฟ้า!
สิ่งที่เรียกว่า ‘ฟ้า’ ความจริงแล้วหมายถึงมหามรรค มหามรรคไม่ดับ อายุขัยไม่รู้จบ เรียกได้ว่าเป็นอมตะ
ในมรรคจักรพรรดิระดับบรรพจารย์ นัยเร้นลับบรรพจารย์ที่แสวงหาก็คือกุญแจที่เปิดธรณีประตู ‘อายุขัยเทียมฟ้า’ ในระดับอมตะ
การมองทะลุนัยเร้นลับดั้งเดิมของสรรพสิ่งในโลกจักรวาล ก็เท่ากับการเข้าใจแก่นแท้สมบูรณ์ซึ่งก่อตัวขึ้นในโลกใบหนึ่ง อาศัยจุดนี้สามารถทำให้เจ้าตัวบรรลุการเปลี่ยนแปลง อายุขัยเทียมฟ้า ดื่มด่ำกับความเป็นอมตะ!
เพียงแต่ธรณีประตูบานนี้กักขังผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไหร่ในกาลเวลานับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ในหมู่บรรพจารย์จักรพรรดิหมื่นคน ก็แทบไม่อาจปรากฏระดับอมตะออกมาสักคน
ระดับนี้คลุมเครือ ไม่ใช่ว่าแค่อุตสาหะฝึกปราณต่อเนื่องอย่างหนักก็จะสามารถสัมผัสได้
หากแต่ต้องการชะตาฟ้า จุดเปลี่ยน สติปัญญา ความมุมานะยิ่งใหญ่ จึงจะมีหวังไปแตะธรณีประตูของระดับนี้ได้
ยังไม่ประจักษ์หรือ ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ปิดฉากลง หลังจากทางเดินโบราณฟ้าดาราถูกปกคลุมด้วยระเบียบต้องห้าม ในปัจจุบันนี้ผู้ที่มีปราณสูงสุดก็ยังเป็นแค่ระดับบรรพจารย์จักรพรรดิ
ไม่มีใครสามารถเหยียบย่างระดับอมตะได้สักคน!
เพราะอะไรน่ะหรือ
จุดสำคัญอยู่ที่ทางเดินโบราณฟ้าดาราไม่มีชะตาฟ้าและจุดเปลี่ยน ที่สามารถทำให้ระดับบรรพจารย์เหล่านั้นเหยียบย่างสู่มรรคาอมตะได้!
นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมในกาลเวลาไร้สิ้นสุดที่ผ่านมานี้ ผู้ใดก็ตามที่ใฝ่ฝันถึงมรรคาที่สูงยิ่งกว่า จึงปรารถนาอยากมุ่งหน้าสู่โลกยอดนิรันดร์
เพราะมีแต่ในโลกยอดนิรันดร์จึงจะมีชะตาฟ้าและจุดเปลี่ยนที่จำเป็นต่อการเหยียบย่างมรรคาอมตะ!
แน่นอนว่าลำพังแค่มีชะตาฟ้าและจุดเปลี่ยนยังไม่เพียงพอ ยังต้องใช้สติปัญญา ความมุมานะอย่างที่สุดอีกด้วย!
แต่สำหรับหลินสวิน การไปแสวงหามรรคาอมตะยังเร็วไปที่จะพูดถึง เขาเพิ่งเหยียบย่างระดับบรรพจารย์ ปราณในปัจจุบันอยู่ในขั้นต้นของระดับนี้ และยังไม่ใช่เวลาพิจารณาเรื่องแจ้งมรรคาอมตะ
…
เวลาเคลื่อนคล้อย
ต้นหงเหมิงหมื่นมรรคไหวเอน ส่งเสียงดังซ่าๆ ดุจดั่งเสียงท่องคัมภีร์
หลินสวินไม่ขยับเขยื้อน นั่งขัดสมาธิใต้ต้นไม้ หยั่งถึงสรรพสิ่ง เสริมความมั่นคงให้มรรคาของตน
ในยุคก่อน ศึกฟ้าเลือกสรรจะสิ้นสุดลงในวันที่ ‘งานตำหนักเซียน’ ปิดฉาก
และจากการคาดเดานี้ สำหรับหลินสวินแล้ว ระยะเวลาก่อนที่โบราณสถานทวยเทพจะปิดฉากลงยังเหลืออีกเก้าวัน
พูดอีกอย่างคือ เขายังมีเวลาเก้าวันในการเตรียมพร้อมสำหรับออกเดินทาง
ในขณะเดียวกันด้านนอกโบราณสถานทวยเทพ
เมื่อผู้ฝึกปราณที่หนีออกจากโบราณสถานทวยเทพเหล่านั้นกลับออกมา ก็บอกเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับด่านล่าสัตว์และชิงบัลลังก์ออกมา
ชั่วขณะเดียวพลันเกิดคลื่นโกลาหลลูกใหญ่!
“หลินสวินนี่แข็งแกร่งขนาดนั้นจริงหรือ”
คนนับไม่ถ้วนใจสั่น ถูกการเข่นฆ่านองเลือดในแดบลับทวยเทพของหลินสวินทำให้ตกใจ ถึงขั้นไม่กล้าเชื่อ
ในใจของทุกคน ขุมอำนาจปลายยอดจากน่านฟ้าที่เจ็ดอย่างสี่ตระกูลตงหวงเปรียบดั่งเทพไท้บนแดนสรวง ได้แต่แหงนมองและเคารพยำเกรง
แต่ในด่านล่าสัตว์ ตระกูลลี่อย่างพวกลี่เฮิ่นสุ่ยจากหนึ่งในสี่ตระกูลตงหวงล้วนถูกหลินสวินคนเดียวกำราบ!
“บุตรฟ้าเลือกสรรเพียงหนึ่งเดียว ต้นหงเหมิงหมื่นมรรค ข้ามเคราะห์ที่ไม่เคยมีมาก่อน สังหารเหล่าผู้กล้าในตำหนักเซียนใจกลาง…”
และเมื่อรู้เรื่องที่หลินสวินทำลงไปในตำหนักเซียนใจกลาง คนมากมายล้วนตกใจจนสภาวะจิตสั่นเทิ้ม ไม่สามารถสงบอารมณ์ได้โดยสิ้นเชิง หน้าเปลี่ยนสีเพราะเรื่องนี้
ก่อนที่โบราณสถานทวยเทพแห่งนี้จะเปิดม่าน ในเมืองจรดฟ้าอันกว้างใหญ่ มีคนจำนวนมากสงสัยว่าหลินสวินที่ถูกขุมอำนาจใหญ่มากมายหมายหัวจะกล้าเข้าร่วมจริงหรือไม่
และตอนนี้ หลินสวินกลับกลายเป็นคนร้ายกาจที่เฉิดฉายที่สุดในโบราณสถานทวยเทพ!
ไม่ต้องเอ่ยถึงการบาดเจ็บล้มตายที่สี่ตระกูลตงหวงประสบสักนิด แค่ลองนับบุคคลชั้นสูงจากน่านฟ้าที่แปดที่ตายด้วยน้ำมือเขาเหล่านั้น ก็สามารถทำให้ใครก็ตามหวาดผวาและหนาวสั่นได้แล้ว
จงหลีเซียว ชือพั่วจวิน มู่อี้…
คนไหนบ้างไม่ใช่มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิที่แม้แต่ในโลกยอดนิรันดร์ยังเรียกได้ว่าประกายแสงหมื่นจั้ง ฐานะของแต่ละคนล้วนสามารถทำให้เผ่าจักรพรรดิอมตะในน่านฟ้าที่เจ็ดครั่นคร้ามอยู่สามส่วน!
แต่ตอนนี้เหล่าคนชั้นสูงจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะน่านฟ้าที่แปดเหล่านี้ กลับถูกหลินสวินคนเดียวสังหารเรียบในตำหนักเซียนใจกลาง
หากเรื่องนี้กระจายไปยังโลกยอดนิรันดร์ ต้องเรียกคลื่นท่วมฟ้าลูกใหญ่ สะเทือนไปทั่วหล้าเป็นแน่!
‘ยักษ์ใหญ่อมตะตระกูลฝูจากน่านฟ้าที่แปดประกาศจุดยืนแล้ว จะไม่ทาบทามหลินสวินมาเข้าตระกูลอีก! ทั้งยังได้เรียกรวมเหล่าผู้กล้าทั่วหล้า ร่วมลงทัณฑ์นักโทษชั่วร้ายเช่นนี้ด้วยกัน!’
ไม่นานข่าวหนึ่งก็แพร่ออกมาจากในเมืองจรดฟ้า เรียกความโกลาหลขึ้นอีกครั้ง
ไม่มีใครลืมว่ายามหลินสวินทดสอบพลังในศิลาศึกข้ามแดนของเมืองจรดฟ้า เคยทำให้ผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่งในตระกูลฝูเป็นฝ่ายเชื้อเชิญเขาให้เข้าร่วมตระกูล
แต่ตอนนี้ตระกูลฝูกลับเปลี่ยนใจแล้ว ยิ่งแสดงจุดยืนอันแน่วแน่ออกมาว่าต้องการกำจัดหลินสวิน!
“เห็นชัดว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตระกูลฝูก็ไม่อยากทำตัวสวนกระแส ล้มเลิกความคิดที่จะรับคนร้ายกาจแซ่หลิน!”
“นี่จะโทษใครได้ ลำพังแค่ในตำหนักเซียนใจกลางก็มีคนชั้นสูงจากสี่ยักษ์ใหญ่อมตะอย่างตระกูลฉี ตระกูลชือ ตระกูลมู่ ตระกูลจงหลีถูกคนร้ายกาจแซ่หลินสังหารไปแล้ว และควรรู้ว่าในน่านฟ้าที่แปด แม้ระหว่างสิบยักษ์ใหญ่อมตะจะมีความสัมพันธ์เชิงแข่งขัน แต่เมื่อเผชิญศัตรูภายนอก พวกเขาก็จะมีความสัมพันธ์แบบน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ร่วมรุกร่วมถอยด้วยกัน!”
“นี่ไม่ได้หมายความว่าหลังจากนี้เป็นต้นไป คนร้ายกาจแซ่หลินไม่มีทางได้รับการทาบทามจากน่านฟ้าที่แปดอีกแล้วใช่ไหม”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังจากทุกมุม ในใจของทุกคนล้วนไม่สามารถสงบลงได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์