Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2574

สรุปบท ตอนที่ 2574 อาจารย์: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 2574 อาจารย์ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2574 อาจารย์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2574 อาจารย์

เจดีย์ไร้สิ้นสุดเคลื่อนไหวเงียบๆ แสงมรรคตลบอบอวลแผ่กระจาย

ปัง!

ละอองแสงเขียวมรกตเต็มฟ้าที่ปกคลุมลงมาระเบิดออกอย่างรวดเร็ว กระทั่งสมบัติยอดเขานั้นยังถูกซัดแตก เกิดเป็นรอยร้าวเหมือนใยแมงมุม

ฝูไหวฉินตกตะลึงนัก เก็บสมบัติทันที สีหน้าฉงนใจไม่ว่างเว้น

หลิงเสวียนจื่อที่สติรางเลือน ต่อให้จะใกล้ตายแต่เมื่อเห็นภาพนี้ก็เอ่ยเย้ยหยันอย่างอดไม่ได้ว่า “ขนาดสมบัติชิ้นเดียวยังทำลายไม่ได้ เจ้าเฒ่า… เจ้ามันสวะจริงๆ…”

พูดจบเขาเหมือนรับรู้อะไรบางอย่าง เงยมองเจดีย์ไร้สิ้นสุดทันที

ชิ้ง!

เสียงสังหารเย็นเยียบนั้นดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งมากะทันหัน

เจดีย์ไร้สิ้นสุดเปล่งแสง ในช่วงอันตรายหน้าสิ่วหน้าขวานหาใดเทียบนี้กลับบดขยี้ปราณกระบี่นี้ไปทุกกระเบียด

“หืม?”

ที่ส่วนลึกของจักรวาลตรงจุดที่กระบี่บินสีดำนั้นเคลื่อนคล้อยอยู่ก็มีเสียงแปลกใจดังขึ้นเสียงหนึ่ง คล้ายประหลาดใจกับภาพนี้

ในตอนนี้เองหลิงเสวียนจื่อตาเบิกกว้าง

ก็พบว่าในเจดีย์ไร้สิ้นสุดปรากฏเงาร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่ง อาบชโลมอยู่กลางแสงมรรคมายา ทันทีที่ปรากฏตัวก็ทำให้จักรวาลแห่งนี้เงียบสงัด ตกอยู่ในความพรั่นพรึงขนานใหญ่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ประหนึ่งนายเหนือหัวมาเยือนโลก

กลิ่นอายเขาอัศจรรย์หาใดเทียบ ไม่ใช่ปราชญ์ไม่ใช่พรต ไม่ใช่เทพไม่ใช่มาร ลึกลับยิ่งนัก ไม่อาจบรรยายได้ ประหนึ่งร่างจำแลงมหามรรคยืนตระหง่านเหนือปวงสวรรค์

หลิงเสวียนจื่อเหมือนถูกสายฟ้าฟาด ร้องเสียงหลงว่า “อาจารย์!?”

กลับพบว่าเงาร่างสูงใหญ่นั้นถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า “หลิงเสวียนจื่อ เคราะห์นี้เจ้าข้ามได้แล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปยังคงเป็นผู้สืบทอดลำดับที่สี่ของคีรีดวงกมลเหมือนเดิม”

“อาจารย์ ท่านจริงๆ ด้วย!” หลิงเสวียนจื่อร้องลั่นอย่างคุมไม่อยู่เหมือนเด็กน้อย ถ้าร่างกายยังอยู่เกรงว่าคงหลั่งน้ำตาด้วยความตื่นเต้นไปแล้ว

ตั้งแต่เนิ่นนานก่อนหน้านี้ ในใจเขาอาจารย์ก็เหมือนบิดา ต่อให้เขาถูกกำราบมาเนิ่นนานก็ไม่เคยคิดแค้น

เขาเพียงอยากพิสูจน์ให้อาจารย์เห็น ปรารถนาจะได้รับการยอมรับจากอาจารย์!

“ไยต้องเสียอาการขนาดนี้ สิ่งที่เจ้าทำในวันนี้เหนือความคาดหมายของข้าโดยสิ้นเชิง ตอนนี้อาจารย์จะพาเจ้าออกไป”

เงาร่างสูงใหญ่นั้นตบไหล่หลิงเสวียนจื่อเบาๆ

ทันใดนั้นพลังจิตของหลิงเสวียนจื่อที่กำลังจะกระจายไปก็รวมตัวกัน เปล่งจังหวะชีวิตอันไพศาลหาใดเทียบออกมา

“อาจารย์ ข้าเปิดประตูไร้ช่องว่าง ข้ากังวลว่าตอนศิษย์น้องเล็กไปโลกยอดนิรันดร์จะ…” หลิงเสวียนจื่อนึกอะไรขึ้นมาได้จึงรีบเอ่ยปาก

เจ้าแห่งคีรีดวงกมลเสียงสงบนิ่ง เผยแววเก็บงำ เอ่ยขึ้นว่า “ไม่เป็นไร นี่เป็นโอกาสนิพพานครั้งสุดท้ายของเขา ข้าแทรกแซงเรื่องของเจ้าได้ แต่ไม่อาจแทรกแซงมรรคาของเขา เคราะห์นี้ตัวเขาต้องคลี่คลายด้วยตัวเอง”

“เจ้า… เจ้าคือเจ้าแห่งคีรีดวงกมล!?”

ไกลออกไปฝูไหวฉินที่นิ่งอึ้งไปนานร้องลั่น สีหน้ายากจะเชื่อ “เจ้าในตอนนั้นกระทำความผิดครั้งใหญ่ ไม่ได้กายสิ้นมรรคสลายไปนานแล้วหรือ”

เขาไม่อาจสงบใจได้

เมื่อนานมาแล้วเจ้าแห่งคีรีดวงกมลเคยอาศัยน่านฟ้าที่แปดเป็นทางผ่านไปยังน่านฟ้าที่เก้าเพียงลำพัง เรื่องนี้เคยสร้างความอึกทึกครึกโครมให้กับน่านฟ้าที่แปด

สิบยักษ์ใหญ่อมตะยังเคยพยายามขัดขวาง แต่กลับไม่อาจสกัดเอาไว้ได้ เพราะเจ้าแห่งคีรีดวงกมลในตอนนั้นสำแดงพลังที่แทบจะเหนือล้ำระดับอมตะไปแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะต้านได้แม้สักนิด

เรื่องนี้ถึงกับถูกมองเป็นความอัปยศของน่านฟ้าที่แปด เป็นความลับที่ไม่ได้ป่าวประกาศ เพราะหากกระจายออกไปจะต้องเสื่อมเสียถึงเกียรติของขุมอำนาจสิบยักษ์ใหญ่อมตะ

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้ใครก็คิดไม่ถึงคือ ไม่นานนักก็มีข่าวกระจายออกมาจากน่านฟ้าที่เก้าว่าเจ้าแห่งคีรีดวงกมลกระทำความผิดใหญ่คับฟ้า ประสบพิบัติเคราะห์ที่ไม่อาจคาดคิด ไม่อาจปรากฏตัวในโลกยอดนิรันดร์ได้อีก!

นี่ทำให้สิบยักษ์ใหญ่อมตะต่างฮือฮา คิดว่าเจ้าแห่งคีรีดวงกมลต้องถูกเผ่าเทพนิรันดร์ฆ่า เป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะตายไปแล้ว

มิหนำซ้ำตั้งแต่นั้นมาเจ้าแห่งคีรีดวงกมลก็ไม่เคยปรากฏตัวจริงๆ ทำให้ผู้คนแทบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

แต่ฝูไหวฉินกลับคิดไม่ถึงว่าจะได้พบกับยอดคนที่ประหนึ่งตำนานเทพผู้นี้ในตอนนี้!

หรือตอนนั้นเขาไม่ได้ตาย!

เจ้าแห่งคีรีดวงกมลหันไปมองฝูไหวฉินปราดหนึ่ง อดทนอธิบายอย่างหาได้ยากยิ่งว่า “ข้าเป็นแค่พลังเจตจำนงสายหนึ่ง ร่างต้นตายแล้วหรือไม่ข้าเองก็ไม่รู้”

ฝูไหวฉินอึ้งไป กลับทำตัวไม่ถูกอยู่บ้าง แค่นหัวเราะอย่างอดไม่ได้ว่า “เช่นนั้นข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้ ร่างต้นของเจ้าตายไปแล้ว ถูกคนใหญ่คนโตในน่านฟ้าที่เก้าฆ่าตาย!”

“เหลวไหลทั้งเพ! อาจารย์ข้ายังไม่บาดเจ็บแม้แต่ปลายผม!” หลิงเสวียนจื่อหลุดปากผรุสวาท ในใจเขา อาจารย์เป็นเหมือนบิดา ไม่ยอมให้ใครล่วงเกินได้

“หึ! จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่พวกเจ้า”

ขณะที่พูดฝูไหวฉินก็หันหน้าจะจากไป เขารับรู้ว่าท่าไม่ดี ไม่กล้าอยู่ต่ออีก

“เจ้าทำให้ศิษย์ข้าเจ็บ แต่คิดจะจากไปเช่นนี้หรือ”

เสียงอันสงบนิ่งของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลแว่วมาจากข้างหลัง ทำให้ฝูไหวฉินตัวแข็งทื่อ หนีไปไวยิ่งขึ้นคล้ายทุ่มชีวิต

ไกลออกไปก็คือเมืองจรดฟ้า เขาไม่เชื่อว่าหากหนีไปถึงในเมือง พลังเจตจำนงของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลนี้จะยังต้านระเบียบเฮ่าเทียนได้อยู่!

เงาร่างของเขากำลังเคลื่อนไหวอยู่ชัดๆ แต่ห้วงอากาศโดยรอบกลับเหมือนแข็งตัวและหยุดนิ่ง ไม่ว่าจะท่องทะยานไปอย่างไรก็ไม่อาจเคลื่อนไหวได้แม้แต่ครึ่งก้าว

ภาพนี้ทำให้เหงื่อกาฬผุดพรายบนหน้าผากเขา วิญญาณแทบหลุดออกมาแล้ว

“ภายหน้าพวกเจ้าสิบยักษ์ใหญ่อมตะย่อมมีคนไปจัดการ ส่วนเจ้า อยู่ต่อเถอะ”

ท่ามกลางเสียงราบเรียบ ไม่พบว่าเจ้าแห่งคีรีดวงกมลเคลื่อนไหว แต่ฝูไหวฉินที่อยู่ไกลออกไปกลับประสบเรื่องที่น่ากลัวที่สุดในโลก สภาวะจิตของเขาพังทลาย จิตวิญญาณวอดวายลงทันที จากนั้นแม้แต่ร่างยังแปรเปลี่ยนเป็นเถ้าธุลีปลิวว่อนเต็มฟ้า

ในความมืด เสียงตะคอกลั่นเสียงหนึ่งดังขึ้น ก็พบว่าเงาร่างหนึ่งอาบชโลมด้วยประกายเทพตระการตาหาใดเทียบ พุ่งออกมาจากความมืดมิดราวกับแสง พยายามจะหนีให้พ้น

แต่มาถึงครึ่งทางก็ถูกแสงมรรคสีเงินเจิดจ้านั้นเข้าปกคลุม ไม่ว่าจะดิ้นรนเช่นไรก็ไม่มีประโยชน์ ชั่วพริบตาก็ถูกแสงเทพนั้นเผาผลาญ กายสิ้นมรรคสลาย

มองดูไกลๆ ก็ง่ายดายเหมือนฆ่าแมลงตัวหนึ่ง

แต่หลิงเสวียนจื่อเห็นภาพนี้แล้วกลับจิตใจไหวหวั่น ตกตะลึงพรึงเพลิด ที่ถูกฆ่าไปนั้นเป็นบุคคลน่ากลัวระดับอมตะผู้หนึ่งชัดๆ แข็งแกร่งกว่าพวกชื่อชางหุน ฉีเทียนหลินเสียอีก

ถึงอย่างนั้นกลับต้านการโจมตีของอาจารย์ไว้ไม่ได้สักนิด!

มิหนำซ้ำนี่ยังเป็นเพียงพลังเจตจำนงของอาจารย์เท่านั้น!

ตูม!

จักรวาลปั่นป่วน แสงเทพสีเงินแผ่กระจายกว้างใหญ่ดั่งธารดาราม้วนตลบ เงาร่างอมตะพุ่งออกมาเป็นพักๆ แต่ผ่านมาได้ครึ่งทางก็ถูกแสงเทพสีเงินปกคลุม สังหารให้หายลับไปโดยสมบูรณ์

ทันใดนั้นเสียงร้องโหยหวนนับไม่ถ้วนก็ดังสะท้านไปทั้งจักรวาล

ด้านหลิงเสวียนจื่อก็พลันเพิ่งพบเอาตอนนี้ว่าที่แท้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ก็มีระดับอมตะมากมายซ่อนตัวอยู่แล้ว แต่เขาดันไม่สังเกตเลยสักนิด!

นี่ทำให้เขายังตื่นตะลึงอย่างอดไม่ได้ ไม่กล้าคาดคิดว่าถ้าระดับอมตะพวกนี้ร่วมกันลงมือตอนส่งศิษย์น้องหลินสวินออกไปก่อนหน้านี้ เช่นนั้นผลลัพธ์จะร้ายแรงปานไหน

“ไม่แน่ว่า พวกเขาอาจจะทึกทักเอาเองว่าอาศัยคนใหญ่คนโตตระกูลหวังคนเดียวก็ฆ่าข้าได้แล้วกระมัง…” หลิงเสวียนจื่อสีหน้าแปรผันไม่ว่างเว้น

ครู่สั้นๆ ในจักรวาลแห่งนั้นจึงคืนสู่ความเงียบสงัด มีเพียงกลิ่นคาวเลือดอบอวลที่ไม่อาจหายไปโดยสมบูรณ์ในช่วงเวลาสั้นๆ

“พวกเราก็ควรออกไปแล้ว”

ขณะที่พูดอยู่ เจ้าแห่งคีรีดวงกมลมือหนึ่งถือแส้ อีกมือหนึ่งประคองเจดีย์ไร้สิ้นสุด พากพลังจิตของหลิงเสวียนจื่อเดินทางออกไปไกล

“อาจารย์ ท่านไม่เป็นห่วงศิษย์น้องเล็กจริงหรือ” หลิงเสวียนจื่อถามขึ้นอย่างอดไม่ได้

“ห่วงไปก็ไรประโยชน์ เคราะห์นี้ต้องให้เขามาสลายเอง นิพพานที่ว่าก็คือเกิดใหม่ท่ามกลางความพังพินาศ หลุดพ้นความเป็นความตาย รอภายหน้าเจ้าเริ่มหยั่งรู้มรรคลิขิตชะตาก็จะเข้าใจต้นสายปลายเหตุในเรื่องนั้นเอง”

เขาพูดพลางพาหลิงเสวียนจื่อก้าวเดินต่อไป

“อาจารย์ เช่นนั้นท่านจะพาข้าไปที่ไหน”

“ย่อมไปโลกยอดนิรันดร์อยู่แล้ว ถ้าข้าสันนิษฐานได้ถูกต้อง พวกศิษย์พี่ศิษย์น้องของเจ้าเหล่านั้นคงออกเดินทางจากน่านฟ้าที่หกไปยังน่านฟ้าที่เจ็ดแล้ว ถึงตอนนั้นรั่วซู่จะบอกเจ้าเรื่องที่พวกเราศิษย์อาจารย์คีรีดวงกมลไขว่คว้ามาตลอดชั่วกาลนี้”

“อาจารย์ ที่แท้ทั้งหมดนี้อยู่ในความคาดหมายของท่านมานานแล้วหรือ”

“ข้าไม่ได้เก่งกล้าสามารถปานนั้น หาไม่แล้วหลายปีมานี้คงไม่ถึงกับไม่รู้กระทั่งว่าร่างต้นของตัวเองอยู่หรือตายหรอก…”

การสนทนายังดังก้อง เงาร่างของสองศิษย์อาจารย์หายลับไปในส่วนลึกของจักรวาลอันกว้างใหญ่แห่งนี้

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์