Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2575

สรุปบท ตอนที่ 2575 นางตื่นขึ้นจากความเงียบงัน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 2575 นางตื่นขึ้นจากความเงียบงัน จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 2575 นางตื่นขึ้นจากความเงียบงัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในจักรวาลมีแต่ทิวทัศน์พังทลลาย ดาวดวงโตมากมายแตกสลายทลายไปนานแล้ว กลิ่นอายนองเลือดรางๆ อบอวลอยู่ในห้วงอากาศ

ในเมืองจรดฟ้า

เงียบเชียบไร้เสียงไปหมด

ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนต่างสะท้านสะเทือนอยู่ตรงนั้น แววตาเหม่อลอย

ตั้งแต่แดนลับทวยเทพเปิดจนตอนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นในนั้นส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ฝึกปราณที่อยู่ในเมืองทุกคน

และก่อนหน้านี้ไม่นานผู้คนก็เพิ่งได้ยินว่าในการแก่งแย่งที่โบราณสถานทวยเทพนั้น ขุมอำนาจสี่ตระกูลตงหวงที่มาจากน่านฟ้าที่เจ็ดพ่ายแพ้ยับเยิน ถูกหลินสวินเพียงคนเดียวเอาชนะ

จากนั้นข่าวลือเกี่ยวกับหลินสวินก็เหมือนคลื่นปั่นป่วน เรียกเสียงเกรียวกราวในเมืองไม่รู้เท่าไร

ศึกครองสังเวียน เขาสังหารพวกหนานเทียนป้า หนานเทียนเจิง หนานหย่งเชียงอย่างดุดัน สู้จนผู้แข็งแกร่งตระกูลหนานไม่อาจเชิดหน้าชูคอ

ในด่านล่าสัตว์ เหล่าผู้แข็งแกร่งตระกูลลี่อย่างลี่เฮิ่นสุ่ยต่างถูกหลินสวินปลิดชีพหมด อานุภาพดุดันเหลือประมาณ

และในด่านชิงบัลลังก์ หลินสวินยังกลายเป็นบุตรฟ้าเลือกสรร ชิงต้นหงเหมิงหมื่นมรรค สังหารบุคคลชั้นสูงที่มาจากน่านฟ้าที่แปดอย่างพวกฉีหลิงอวิ๋น จงหลีเซียว ชือพั่วจวิน ลิ่นเฟิงและมู่อี้ได้ในคราวเดียว!

ผลงานการต่อสู้แต่ละอย่างล้วนนองเลือดจนทำให้ทุกคนใจสั่น ทั้งเมืองจรดฟ้าถึงกับอึกทึกครึกโครมยกใหญ่ ตามตรอกซอกซอย โรงน้ำชาหอสุราต่างกำลังพูดถึงชื่อของเขา

ใครก็คิดไม่ถึงว่ามกุฎมหาจักรพรรดิที่มาจากทางเดินโบราณฟ้าดาราอย่างหลินสวินจะถึงกับสังหารใหญ่รอบทิศ กำราบเหล่าผู้กล้า สู้เสียจนไม่มีใครกล้ายกตัวเป็นที่หนึ่งในโบราณสถานทวยเทพ!

แต่หลังจากที่ทุกคนถกกันต่างก็รับรู้ว่า จากเรื่องนี้ เกรงว่ายามหลินสวินออกจากโบราณสถานทวยเทพจะต้องประสบเคราะห์ท่วมหัวแน่

ดังคาด คราวเคราะห์เช่นนี้อุบัติขึ้นแล้ว

เพียงแต่ไม่ว่าใครก็คิดไม่ถึงว่ามหาเคราะห์ทลายฟ้าครั้งนี้กลับปิดฉากลงเช่นนี้

แรกสุดระดับอมตะสี่คนที่มาจากสี่ตระกูลตงหวงออกโจมตี แต่กลับถูกหลิงเสวียนจื่อ ศิษย์พี่ของหลินสวินสังหาร ไม่เหลือรอดสักราย

จากนั้นฉีเทียนหลิน ชื่อชางหุน มู่เจียงซาน ตงหวงคงและจงหลีเจวี๋ยที่มาจากน่านฟ้าที่แปดปรากฏตัว แต่กลับถูกคงเจวี๋ยที่จู่ๆ ก็ฟื้นคืนสติฆ่า…

จนกระทั่งต่อมาเห็นว่าผู้สืบทอดคีรีดวงกมลหลิงเสวียนจื่อกำลังจะถูกฆ่าตาย แต่เมื่อพลังเจตจำนงของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลปรากฏ มหาเคราะห์นี้กลับถูกขจัดไปโดยสิ้นเชิงอย่างกับหมอกควันสลายไป!

ภาพเหตุการณ์แต่ละภาพน่าตื่นตะลึงได้ปานนั้น ต่อให้ตอนนี้การต่อสู้ในจักรวาลนั้นจะปิดฉากลงแล้ว แต่ผู้ฝึกปราณในเมืองจรดฟ้ากลับยังไม่อาจคืนสติกลับมาอยู่นาน

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ในแดนใหญ่พันศึกแห่งนี้เคยเกิดศึกนองเลือดสะท้านโลกเช่นนี้เสียที่ไหน

ทั้งยังมีใครเคยพบเห็นสถานการณ์น่ากลัวที่ระดับอมตะร่วงหล่นเป็นสายฝนหรือไม่

และทั้งหมดนี้ถึงกับเกิดขึ้นจากหลินสวินคนเดียว ก่อนหน้านี้ใครจะคาดคิดได้

เหนือความคาดหมายเกินไปแล้ว!

“คีรีดวงกมล… ที่แท้หลินสวินคนนี้ก็เป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมล…”

ครู่ใหญ่จึงมีคนทอดถอนใจทำลายบรรยากาศอันเงียบสงัด

“เกรงว่าเรื่องในวันนี้จะก่อให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ในโลกยอดนิรันดร์ ถึงอย่างไรกระทั่งสิบยักษ์ใหญ่อมตะน่านฟ้าที่แปดยังเสียคนใหญ่คนโตไปไม่น้อย”

“มิน่าหลินสวินคนนี้ถึงเหิมเกริมได้ปานนั้น ไม่เกรงกลัวขุมอำนาจใหญ่ใดๆ ที่แท้ก็เพราะมีที่พึ่ง พวกเรามองเขาผิดไปหมด…”

“ผ่านศึกนี้ไป ถ้าเขาหลินสวินยังมีชีวิตอยู่ ความสำเร็จในวันหน้าเกรงว่าคงสูงยิ่งจนไม่อาจจินตนาการ”

“คีรีดวงกมลปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง จะเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่แน่!”

…ในเมืองจรดฟ้าอึกทึกครึกโครมโดยสมบูรณ์ เสียงอื้ออึงนับไม่ถ้วนดังขึ้น ทุกคนเหมือนกำลังระบายความรู้สึกสั่นสะท้านที่เก็บกลั้นอยู่ในใจมานาน ทำให้เสียงถกเถียงแลกเปลี่ยนดังขึ้นไปทั่ว ทั้งเมืองตกอยู่ในความสั่นสะเทือน

“รอดก็ดี รอดก็ดีแล้ว…”

นกกระจอกเขียวก็ได้ยินข่าวนี้แล้ว จิตใจที่บีบคั้นถึงขีดสุดผ่อนคลายลงโดยสมบูรณ์ เขาไม่ได้สนใจผู้สืบทอดคีรีดวงกมลอะไรนั่น แค่รู้ว่าขอเพียงหลินสวินรอดชีวิตก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว

“เยี่ยมไปเลย!”

หลิ่วเซียงเชวียตื่นเต้นถึงที่สุด เขากับเซี่ยงเสี่ยวหยวนมาถึงเมืองจรดฟ้าก่อน ในใจรู้สึกกระวนกระวายถึงที่สุดมาโดยตลอด ก็ในตอนนี้เองจึงผ่อนคลายลงได้

“ท่านอา คีรีดวงกมลแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่” ในดวงตาเซี่ยงเสี่ยวหยวนวาบประกายประหลาดอย่างต่อเนื่อง

“ใครก็ไม่อาจพูดได้ชัด อาจจะมีแต่พวกยักษ์ใหญ่น่านฟ้าที่แปดเหล่านั้นถึงรู้ถึงความแข็งแกร่งของคีรีดวงกมล” หลิ่วเซียงเชวียเอ่ยทอดถอนใจ

คีรีดวงกมล!

ผ่านศึกนี้ไป เกรงว่าในโลกยอดนิรันดร์จะไม่มีใครกล้าดูถูกคีรีดวงกมลแล้วกระมัง

ในโรงน้ำชาแห่งหนึ่ง อวิ้นหลิวที่มาจากอารามเสียงอสนีเล็กแห่งโลกเสียงอสนีใหญ่กลับขมวดคิ้วขึ้นในยามนี้

ตั้งแต่หลินสวินยังไม่ออกมาจากแดนลับทวยเทพ เขาก็เคยอนุมานไว้ว่าโชคชะตาที่คีรีดวงกมลวางแผนไว้หมื่นกาลนี้ ไม่มีทางอายุสั้นลงเท่านี้

ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนี้ต่างพิสูจน์ว่าสิ่งที่เขาอนุมานไว้ถูกต้อง

แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายดายอย่างที่เขาคาดคิดไว้

สาเหตุก็อยู่ที่หลินสวิน!

อวิ้นหลิวคิดไม่ถึงว่าในช่วงเวลาสุดท้ายนี้ พลังเจตจำนงของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลกลับช่วยแต่หลิงเสวียนจื่อ ไม่มีเจตนาจะแทรกแซงเรื่องของหลินสวินแต่อย่างใด

‘ตัวแปร… ตัวแปร… ดอกบัวดอกนี้ยังเกี่ยวเนื่องกับชะตา ‘มหามรรคห้าสิบ อุบัติฟ้าสี่สิบเก้า รอดพ้นเพียงหนึ่ง’ ใครจะ มองทะลุได้’

ขณะนี้ในใจอวิ้นหลิวเกิดความเลื่อมใสอย่างบอกไม่ถูก จู่ๆ เขาก็รับรู้ได้ว่าเป็นเพราะตัวแปรอย่างหลินสวิน ถึงกับทำให้ทุกอย่างนี้เปลี่ยนไปจนสับสนซับซ้อน ทำความเข้าใจได้ยาก

‘เพียงแต่พวกเจ้าคีรีดวงกมลไม่กังวลว่าดอกบัวดอกนี้จะโรยราลงเท่านี้หรือ…’

มารเทพตี้สือแววตาเย็นชา เต็มไปด้วยความดูถูก “ข้าจะให้โอกาสเจ้า ส่งตำราหยกศุภโชคกับต้นหงเหมิงหมื่นมรรคมาเสียดีๆ ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้พึ่งพา ยกข้าเป็นนาย มีข้าคอยปกครอง!”

แต่ละคำเหมือนอสนีบาตสะท้านห้วงอากาศ พลานุภาพเช่นนั้นกดข่มให้หลินสวินแทบหยุดหายใจ ร่างกายถูกบีบอัดรุนแรง ไม่อาจขยับตัวได้

แต่หลินสวินกลับเผยรอยยิ้มเย้ยหยัน “ข้าหลินสวิน ต่อให้ตายก็ไม่ยอมนับถือเฒ่าหมวกเขียวเป็นนาย!”

หมวกเขียว!

คำนี้แทงใจมารเทพตี้สือเหมือนดาบเล่มหนึ่ง ทำเอาใบหน้าชราของเขายังอึมครึมลงไป ประกายน่าตระหนกปะทุขึ้นในดวงตา

“เจ้าเบื่อชีวิตแล้วจริงๆ สินะ!”

เขาพลันยื่นมือออกไปบีบคอหลินสวินไว้ จากนั้นจิตรับรู้อันยิ่งใหญ่ก็พุ่งเข้าไปในร่างหลินสวินอย่างรุนแรงเหมือนพายุคลั่ง

หลินสวินตัวแข็งทื่อ สีหน้าฉายแววเจ็บปวด จิตรับรู้นั้นอหังการน่ากลัวเกินไป เปิดแหวกมรรควิถีในตัวเขา พุ่งไปยังโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ทันทีโดยไม่อาจต้านทานได้สักนิด

“อยู่ที่นี่จริงด้วย!”

ชั่วพริบตา มารเทพตี้สือก็สังเกตเห็นต้นหงเหมิงหมื่นมรรคที่หยั่งรากอยู่ในโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ของหลินสวิน แววตาวาวโรจน์ขึ้นทันที

“ถ้ามีสมบัตินี้ รวมกับพลังระเบียบมรรคเซียนของตำราหยกศุภโชค ข้ายังต้องกังวลว่าจะไม่มีทางฟื้นฟูมรรควิถีในอดีตไปทำไม ถึงตอนนั้นยุคสมัยนี้ก็จะสยบอยู่แทบเท้าข้า!”

ขณะที่มารเทพตี้สือพูด จิตรับรู้ก็ไหวเคลื่อนม้วนตลบไปหาต้นหงเหมิงหมื่นมรรค มองเห็นอยู่ว่ากำลังจะถอนรากต้นไม้นี้ขึ้นมาแล้ว

ฉับพลันนั้นประกายคมมืดมิดสายหนึ่งอุบัติขึ้น เผยกลิ่นอายน่าครั่นคร้ามออกมา แทงเข้าใส่จิตรับรู้นี้อย่างรุนแรง

ตูม!

จิตรับรู้นั้นถึงกับถูกระเบิดกระจุย!

มารเทพตี้สือพลันส่งเสียงร้องเจ็บปวด เผยสีหน้าโกรธเกรี้ยว เห็นชัดว่าถูกเหตุไม่คาดฝันนี้เล่นงานโดยไม่ทันตั้งตัว

ก็ในตอนนี้เอง อานุภาพอันน่ากลัวสายหนึ่งตื่นขึ้นจากโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ของหลินสวิน ราวกับความมืดมิดชั่วกาลตื่นขึ้นจากความเงียบสงัด

มารเทพตี้สือคล้ายสังเกตได้ว่าไม่ชอบมาพากล ชักมือที่บีบคอหลินสวินกลับไปแล้วหลบไปไกลทันที

ขณะเดียวกันเงาร่างสูงเพรียวอรชรร่างหนึ่งเดินออกมาจากร่างหลินสวิน ท่ามกลางละอองแสงดำมืดอันไร้สิ้นสุด

นางแต่งกายชุดดำทั้งตัว หมวกคลุมบดบังใบหน้าของนาง ละอองแสงดำมืดเป็นริ้วๆ เหมือนสายรุ้งไหวเคลื่อน ล้อมรอบเงาร่างอันอ้อนแอ้นอรชรนั้นไว้ ขับให้นางเป็นดั่งเทพที่เดินออกมาจากรัตติกาล ลึกลับและน่ากลัว

มารเทพตี้สือหรี่ตาลงเล็กน้อย ผู้หญิงคนหนึ่ง!?

ขณะเดียวกันหลินสวินก็ตาเบิกกว้าง

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์