ตอนที่ 2589 ศาสตร์ปกครองทั่วหล้า
เมืองหลิวเขียว
บนท้องถนนพลุกพล่านจอแจ เสี่ยวซีดูเหม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับตัว
เรื่องที่ประสบมาก่อนหน้านี้สร้างแรงโจมตีให้นางมากเกินไป จำเป็นต้องใช้เวลาทำให้ตัวเองสงบลง
หลินสวินไม่ได้พูดอะไรอีก
นี่อาจเป็นราคาของการเติบโต
กระดาษที่ขาวสะอาดแค่ไหน เมื่อผ่านการเคี่ยวกรำของเรื่องราวบนโลก ก็ต้องเปลี่ยนเป็นม้วนภาพที่ต่างออกไป
“สหายยุทธ์”
เนี่ยชิงหรงในชุดคลุมนกกระเรียนสีม่วงเข้ม มาดงามสง่าไล่ตามหลังมา หญิงสาวคนนี้ผิวพรรณนวลผ่อง งดงามมีเสน่ห์ เอวกลมกลึงมือเดียวโอบรอบ เนินอกอวบอิ่มชวนตะลึงสุดขีด เดิมเป็นคนงามไร้ทัดเทียม แต่บุคลิกกลับเย็นชาดุจน้ำแข็ง ให้ความรู้สึกตัดกันเด่นชัดแก่สายตาผู้คน
“มีธุระเชิญพูดมาตรงๆ”
หลินสวินชะงักเท้า หันมองเนี่ยชิงหรง ไม่ได้แปลกใจที่อีกฝ่ายตามมา
เนี่ยชิงหรงหลุบตางามลง เอ่ยเสียงเบา “ข้าเห็นว่าน้องสาวคนนี้จะลงชื่อเข้าร่วมคัดเลือก คิดว่าคงตั้งใจจะมุ่งหน้าไปฝึกปราณที่สำนักศึกษาสองลักษณ์เช่นกัน”
หลินสวินพยักหน้า “ถูกต้อง”
เนี่ยชิงหรงสูดหายใจลึก คล้ายเรียกความกล้า ใช้ดวงตาโตเรียวคู่นั้นมองหลินสวินแล้วเอ่ยว่า “สหายยุทธ์ หากเจ้าเชื่อใจข้า เรื่องนี้ข้าสามารถช่วยเหลือได้”
“เหตุใดต้องทำเช่นนี้” หลินสวินถาม
เนี่ยชิงหรงพิจารณาครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยวาจา “หากข้าบอกว่าอยากผูกสัมพันธ์อันดีกับสหายยุทธ์ สหายยุทธ์จะเชื่อหรือไม่”
หลินสวินกล่าว “เชื่อ”
คำตอบที่ไม่เสียเวลาหยุดคิดเช่นนี้ทำให้เนี่ยชิงหรงอดแปลกใจไม่ได้ เดิมทีนางเตรียมพร้อมจะอธิบายอย่างอดทน แต่ตอนนี้กลับไม่รู้ว่าควรพูดอะไรแล้ว
“ยายหนู เจ้ายินดีมุ่งหน้าไปฝึกปราณที่สำนักศึกษาสองลักษณ์กับนางหรือไม่” หลินสวินเบนสายตามองเสี่ยวซีที่อยู่ข้างตัว
เสี่ยวซีเห็นชัดว่าตื่นเต้นมาก นัยน์ตาใสกระจ่างทอประกายปรารถนา แต่ยังคงกล่าวอย่างลังเลว่า “พี่เต้ายวน ข้าเชื่อฟังท่าน”
ภาพนี้ จู่ๆ ทำให้หลินสวินนึกถึงจ้าวจิ่งเซวียนขึ้นมา
ปีนั้นตอนอยู่ที่ทะเลหมากดาราในดินแดนรกร้างโบราณ อ๋าวเจิ้นเทียนเคยมุ่งหน้ามาหมายจะรับจ้าวจิ่งเซวียนไปร่วมงานชุมนุมเซียนหมื่นมังกรในแดนเจินหลง จ้าวจิ่งเซวียนในตอนนั้นก็ให้อารมณ์และคำตอบแบบนี้เช่นเดียวกัน
เมื่อนึกถึงอดีตที่ผ่านมา หลินสวินก็อดทอยิ้มบางๆ ไม่ได้ ก่อนเอ่ยว่า “เช่นนั้นก็ไป”
เขาเองก็เข้าใจกระจ่างแล้วเช่นกัน ภายหน้าอยู่ในสำนักศึกษาสองลักษณ์ หากมีการดูแลจากเนี่ยชิงหรง ยายหนูเสี่ยวซีคนนี้ไม่มีทางถูกรังแกแน่นอน
และเพราะเหตุนี้เอง ก่อนหน้านี้ตอนที่ตอบคำถามเนี่ยชิงหรง เขาจึงให้คำตอบชัดเจนแก่อีกฝ่าย และถือเป็นการแสดงไมตรีจิตอยู่ในที
เนี่ยชิงหรงเห็นชัดว่าแข็งขันยิ่ง เนตรงามวาววับ ชุ่มฉ่ำดุจริ้วคลื่นยามสารท กล่าวเสียงนุ่ม “ด้วยพรสวรรค์ของน้องสาว ภายหน้าต้องโดดเด่นเฉิดฉายในสำนักศึกษาสองลักษณ์เป็นแน่”
หลินสวินกล่าว “ข้าหวังเพียงให้นางสงบสุขปลอดภัยก็พอ”
เนี่ยชิงหรงอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าว “สหายยุทธ์วางใจได้ ในสำนักศึกษาสองลักษณ์ไม่มีใครกล้ามารังแกน้องสาวคนนี้แน่”
เสียงเปี่ยมความมั่นอกมั่นใจอย่างยิ่ง
“ข้าว่างอยู่พอดี ไม่รู้ว่าสำนักศึกษาสองลักษณ์จะต้อนรับคนนอกอย่างข้าไปเยี่ยมเยือนหรือไม่” หลินสวินถาม
เนตรงามของเนี่ยชิงหรงวาววับ น้ำเสียงนุ่มนวลเจือความยินดีเสี้ยวหนึ่ง กล่าวขึ้นว่า “หากสหายยุทธ์สามารถมาเยี่ยมได้ ต้องเป็นเกียรติแก่สำนักศึกษาสองลักษณ์ของข้าแน่”
“ใต้เท้า”
ไกลออกไปฮั่วซิงตูกุลีกุจอเข้ามา โค้งคำนับอย่างเคารพนบนอบให้กับเนี่ยชิงหรงก่อนเป็น จากนั้นจึงหันไปโค้งคำนับกล่าวกับหลินสวิน “พ่อลูกตระกูลฉินจัดการตามสมควรแล้ว ข้าจึงมารายงานต่อผู้อาวุโสโดยเฉพาะ”
หลินสวินร้องอืมคราหนึ่ง ไม่ยินดียินร้าย
เนี่ยชิงหรงจึงเอ่ยขึ้นว่า “ฮั่วซิงตู วันนี้ข้าจะจากไปแล้ว เรื่องคัดเลือกศิษย์ยกให้เจ้าเป็นผู้รับผิดชอบ”
ฮั่วซิงตูรีบพยักหน้าขานรับเป็นพัลวัน
“สหายยุทธ์ จะออกเดินทางเดี๋ยวนี้เลยหรือไม่” เนี่ยชิงหรงทอดสายตามองหลินสวิน
“ได้”
หลินสวินตอบรับ
กระทั่งมองส่งเงาร่างเขาและเนี่ยชิงหรงจนหายลับในบริเวณไกลออกไป ฮั่วซิงตูจึงลอบปาดเหงื่อเย็นคราหนึ่ง ในฐานะบรรพจารย์จักรพรรดิ เขาไม่ได้หวาดหวั่นครั่นคร้ามจากใจเช่นนี้มานานแล้ว
…
สวบ!
ส่วนลึกของชั้นเมฆบนเวิ้งฟ้า ยานสมบัติมหึมาเท่าภูเขาลำหนึ่งบินทะยาน
บนยานสมบัติ หลินสวินเอนพิงหัวยานอย่างสบายๆ ถือน้ำเต้าสุรายกขึ้นดื่ม
ในตัวยานด้านหลังมีเสียงหัวเราะเสนาะหูดังลอยออกมาเป็นพักๆ เสียงหนึ่งหวานหยาดเยิ้มชวนหลงใหล เสียงหนึ่งเจื้อยแจ้วใสกังวาน
นั่นคือบทสนทนาระหว่างเนี่ยชิงหรงกับเสี่ยวซี ตั้งแต่เริ่มเหยียบขึ้นยานสมบัติ เนี่ยชิงหรงก็ตั้งใจผูกมิตรกับเสี่ยวซี ปล่อยวางมาดพูดคุยกับเสี่ยวซี ไม่ทันไรความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ก็ค่อนข้างสนิทสนมกลมเกลียวกันแล้ว
หลินสวินมองเห็นอยู่ในสายตา แต่ไม่ได้พูดอะไร
อันที่จริงเสี่ยวซีเพิ่งออกจากหมู่บ้านเงาเมฆา ได้เห็นและสัมผัสทุกสิ่งทุกอย่างในน่านฟ้าที่หนึ่งเป็นครั้งแรก ทว่าเขาเองก็ไม่ใช่เหมือนกันหรอกหรือ
แต่สิ่งที่ต่างไปจากเสี่ยวซีคือ เขาแค่มีประสบการณ์เจนจัดโชกโชนก็เท่านั้น
หลินสวินดื่มสุราไปพลางขณะหยิบม้วนหยกอันหนึ่งออกมา
นี่คือตำราโบราณชื่อว่า ‘ศาสตร์ปกครองทั่วหล้า’ ที่ซื้อมายามเดินเล่นในเมืองหลิวเขียว บนนั้นบันทึกเรื่องราวบางส่วนที่เกี่ยวกับน่านฟ้าที่หนึ่งเอาไว้
‘สี่แดนใหญ่’
‘สี่สำนักศึกษาใหญ่’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์