Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2588

สรุปบท ตอนที่ 2588 เหนือเขายังมียอดเขา: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2588 เหนือเขายังมียอดเขา จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2588 เหนือเขายังมียอดเขา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2588 เหนือเขายังมียอดเขา

การปรากฏตัวของฮั่วซิงตู สำหรับทุกคนแล้วไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเห็นบุคคลในตำนานมาเยือน สีหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความยำเกรง

แคว้นเมฆวารีประกอบด้วยเมืองหนึ่งร้อยแปดสิบเมือง และฮั่วซิงตูสามารถขึ้นเป็นเจ้าแคว้นเมฆวารีได้ ความแข็งแกร่งของเขาหยั่งลึกกลางใจผู้ฝึกปราณทุกคนในกาลเวลาไร้สิ้นสุดนี้มานานแล้ว

“ใต้เท้า ช่วยชีวิตลูกชายผู้น่าสงสารของข้าด้วย!”

และท่ามกลางบรรยากาศเงียบกริบนี้ ฉินเซี่ยวทงที่ถูกหนึ่งฝ่ามือของหลินสวินตบกระเด็นออกไปก็ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง เหมือนคว้าฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้าย

ฮั่วซิงตูขมวดคิ้ว ทอดสายตามองหลินสวินแล้วเอ่ยว่า “สหายน้อยคิดว่าข้อเสนอแนะของข้าเป็นอย่างไร”

สายตาทุกคนมองไปอย่างควบคุมไม่ได้เช่นเดียวกัน ลอบกล่าวในใจว่าใต้เท้าฮั่วซิงตูถึงขั้นมาเยือนแล้ว เจ้ายังจะไม่ไว้หน้าได้หรือ

แต่เหนือความคาดหมายของทุกคน หลินสวินไม่สนใจฮั่วซิงตูสักนิด ผินหน้าไปพูดกับเสี่ยวซีที่อยู่ข้างตัว “เจ้าคิดว่าเด็กเหลือขอนั่นเป็นคนโง่หรือไม่”

เสี่ยวซีอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนกล่าว “แน่นอนว่าไม่ใช่”

“เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเจ้าเฒ่านั่นเป็นคนโง่หรือไม่”

“คนที่เป็นถึงเจ้าเมืองเมืองหนึ่งย่อมไม่โง่แน่นอน”

หลินสวินพยักหน้ากล่าว “เจ้าพูดถูก ตอนนี้พวกเขาดูน่าสงสารเพราะยั่วโทสะข้า แต่หากครั้งนี้ข้าไม่อยู่ เจ้าคิดว่าจุดจบของเจ้าจะเป็นอย่างไร”

เสี่ยวซีใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนจะตัวสั่นหวาดกลัว หากถูกจับตัวไป ด้วยพลังของตนมีหรือจะตอบโต้ไหว

ถึงตอนนั้นเกรงว่าต้องพบเจอความอับอายและทุกข์ทรมานชนิดอยู่ก็ไม่ได้ ตายก็ไม่สามารถอย่างแน่นอน!

“เช่นเดียวกัน หากเปลี่ยนให้คนใดคนหนึ่งในหมู่คนที่มามุงดูเหล่านั้นเป็นเจ้า จุดจบต้องน่าสังเวชเป็นแน่ แต่สองพ่อลูกคู่นี้ยังคงใช้ชีวิตรุ่งเรื่องเฟื่องฟู อิสระเสรีได้ตามเดิม”

ยามที่หลินสวินเอ่ยประโยคนี้ออกมา สีหน้าผู้คนที่มามุงดูเหล่านั้นชักเริ่มผิดแปลกไป

เพราะนี่คือเรื่องจริง!

โลกนี้ไม่มีปาฏิหาริย์มากมายขนาดนั้น สองพ่อลูกฉินเซี่ยวทงไม่ใช่คนโง่เด็ดขาด ครั้งนี้ที่พวกเขาล้ม เป็นเพราะเตะโดนแผ่นเหล็ก

อันที่จริงใครจะไปคาดคิดกัน ว่าข้างกายเด็กสาวสวมชุดบ้านๆ คนหนึ่งจะมียอดฝีมือที่ซ่อนคมในฝักติดตามอยู่

“เจ้าหนุ่ม นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

ฮั่วซิงตูสีหน้าชักเริ่มไม่น่ามองขึ้นมาแล้ว ภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน กลับถูกหลินสวินเมินเหมือนมองไม่เห็น นี่ทำให้เกียรติของเขาถูกท้าทายอย่างร้ายแรง

ด้วยฐานะของเขากลับถูกปฏิบัติเช่นนี้ นี่ทำให้ในใจเขาอึดอัดถึงขีดสุด

“หมายความว่าอย่างไรหรือ หากเป็นลูกสาวเจ้าถูกปฏิบัติเหมือนอย่างเมื่อครู่ เจ้ายังจะร้องว่าความแค้นพึงละไม่พึงผูกอยู่อีกหรือไม่”

มุมปากหลินสวินผุดแววเย้ยหยัน “หากตอนที่เกิดเรื่องเช่นนั้นจริง จู่ๆ มีคนโผล่ออกมาขอให้เจ้ายอมถอยหนึ่งก้าว รามือไว้เพียงเท่านี้ เจ้า… จะรู้สึกอย่างไร”

ฮั่วซิงตูสีหน้าอึมครึมยิ่ง เอ่ยว่า “พูดไปพูดมา นี่เจ้าไม่คิดจะไว้หน้าข้าใช่หรือไม่”

บรรยากาศทั่วบริเวณพลันเปลี่ยนเป็นกดดันขึ้นมา

“ข้าเห็นแก่ที่ไม่มีแค้นพยาบาทต่อกันจึงได้ถกเหตุผลกับเจ้า แต่เจ้ากลับเอาสิ่งที่เรียกว่าหน้าตามาข่มขู่ข้า”

หลินสวินกล่าวถึงตรงนี้ก็อดหัวเราะไม่ได้ มองฮั่วซิงตูด้วยสายตาลุ่มลึก “นี่เรียกว่า… ไว้หน้าแล้วยังไม่รู้สำนึกใช่หรือไม่”

ประโยคนี้ไม่เพียงแต่ไม่เกรงใจ ซ้ำยังแฝงกลิ่นอายเหยียดหยามและหลู่เกียรติ

ผู้ที่มุงดูเหล่านั้นล้วนเบิกตากว้าง ยากจะเชื่อ เจ้าหมอนี่บ้าไปแล้วชัดๆ ถึงกับกล้าลบหลู่ใต้เท้าฮั่วซิงตูขนาดนี้ ไม่กลัวตายจริงๆ หรือ!?

กลับเห็นใบหน้าชราของฮั่วซิงตูคล้ำเขียว ไอสังหารในดวงตาพวยพุ่ง กี่ปีมาแล้ว เขาเพิ่งเคยพบเจอคนบ้าระห่ำที่โอหังไม่สนโลกเช่นนี้เป็นครั้งแรก

ตูม!

อานุภาพระดับบรรพจารย์อันน่าสะพรึงสายหนึ่งทะลักออกมาจากตัวเขา ทำให้เขามีบารมีดุจฟ้า กดดันจนทั่วทั้งที่นั้นสั่นโคลงรุนแรง

ผู้ฝึกปราณใกล้เคียงยิ่งถอยหลบไปไกลๆ สีหน้าหวาดหวั่น

แต่หลินสวินกลับเหมือนไม่รู้สึกรู้สา กล่าวเรียบๆ ว่า “อายจนพานโมโหคิดจะลงมือหรือ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ วันนี้ก็จะกำราบเฒ่าชราเช่นเจ้าไปพร้อมกันเสียเลย”

“คุยโวไม่อายปาก!” ฮั่วซิงตูเดือดจัด ขณะที่กำลังจะลงมือ

“ช้าก่อน!”

จู่ๆ เสียงเย็นชาสายหนึ่งก็ดังขึ้น จากนั้นหญิงสวมเสื้อคลุมนกกระเรียนสีม่วงเข้มทั้งตัว ผมดำเกล้าเป็นมวย หน้าตางดงามหยาดเยิ้มคนหนึ่งเดินเข้ามาในจวน

ท่วงท่าเหนือคนทั่วไปเช่นนั้น เพิ่งปรากฏตัวก็กลายเป็นจุดสนใจของคนทั้งลาน

แต่ผู้ชมรอบบริเวณเหล่านั้น มองเข้าไปเพียงปราดเดียวก็ขนลุกเกรียวไปทั้งตัว ในใจเกิดความหวาดกลัว รีบก้มหน้าลงทันที ประหนึ่งขุนนางพบกับจอมราชัน ราวกับว่าหากมองอีกแม้แต่นิดเดียวก็จะถือเป็นการดูหมิ่นและจาบจ้วงยิ่งยวด

ส่วนฮั่วซิงตูที่ก่อนหน้านี้ยังเดือดดาลไร้สิ้นสุด เวลานี้กลับเผยสีหน้าแปลกใจ เดินไปข้างหน้าทันที แล้วโค้งคำนับพลางกล่าวว่า “ใต้เท้า ทำให้ท่านพลอยตกใจไปด้วยหรือ”

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนในที่นี้ล้วนรู้สึกปั่นป่วนในใจ สมองมึนตื้อ

ใต้เท้าฮั่วซิงตูมีฐานะเช่นไร แต่ตอนนี้ถึงกับถ่อมตัวเช่นนี้!?

ชั่วขณะนี้ไม่ว่าใครต่างมองออกว่าหญิงสาวบุคลิกงามสง่าซึ่งปรากฏตัวกะทันหันคนนี้มีที่มาไม่ธรรมดาสุดขีด หาไม่มีหรือจะทำให้เจ้าแคว้นเมฆวารียังก้มหัวได้

ทว่าสตรีผู้นั้นกลับไม่สนใจฮั่วซิงตู แต่เดินตรงมาหยุดเบื้องหน้าหลินสวิน ก้มหน้าหลุบตาลงคารวะคราหนึ่ง ในเสียงอ่อนนุ่มเจือความยำเกรง กล่าวว่า “สหายยุทธ์ ไม่พบกันหนึ่งปี สบายดีหรือไม่”

ทั่วลานตะลึงอึ้งค้าง เงียบกริบไร้เสียง

ภาพเช่นนี้ทำให้คนอ้าปากค้างจนคางยืดแตะพื้นได้ชัดๆ… นี่มันเรื่องอะไรกัน!?

โดยเฉพาะฮั่วซิงตู เขายังคงอยู่ในท่าโค้งคำนับนอบน้อม เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ภายในใจเหมือนมีม้าป่าพุ่งทะยาน อึ้งงันไปทั้งตัว

หรือว่าตน… ล่วงเกิน… คนใหญ่คนโตที่ซ่อนคมไว้ลึกเร้นเข้าให้แล้ว

เสี่ยวซีร้องหาคราหนึ่ง ขณะที่จะพูดอะไรกลับถูกหลินสวินเอ่ยห้ามไว้ด้วยรอยยิ้ม “เก็บไว้ในใจก็พอ เหตุผลภายในนี้ รอเจ้าปราณสูงขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ค่อยๆ เข้าใจเอง”

ว่าพลางเขาพาเสี่ยวซีเดินออกไปนอกจวน

ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ได้มองพวกฮั่วซิงตู ฉินเซี่ยวทงอีกเลย

“เรื่องในที่นี้เจ้ามาจัดการเอง หากจัดการไม่ดี ก็ให้ข้าเป็นคนจัดการ”

เนี่ยชิงหรงปรายตางามมองฮั่วซิงตูปราดหนึ่ง ก่อนหมุนตัวตามหลังหลินสวินและเสี่ยวซีไป

จนกระทั่งเงาร่างชดช้อยงามสง่าของเนี่ยชิงหรงหายลับไป

ฮั่วซิงตูจึงเงยหน้าขึ้น สีหน้าเปลี่ยนเป็นมืดทะมึนน่ากลัว แววตาเหมือนจะจับคนมากินเลือดกินเนื้อ ทอประกายน่าหวาดหวั่น

“ฉินเซี่ยวทง เจ้ารู้ความผิดหรือไม่” เขาเอ่ยพูดเย็นชา

“ใต้เท้า ข้า…”

ฉินเซี่ยวทงขวัญกระเจิง หน้าซีดขาว เพิ่งอ้าปากกำลังจะอธิบาย จู่ๆ ฮั่วซิงตูก็ตบฝ่ามือหนึ่งเข้ามา

ปึง!

ฉินเซี่ยวทงกระอักเลือด ทั่วร่างกระตุกเกร็ง มรรควิถีในกายอันตรธานหายเกลี้ยงราวลูกหนังที่ถูกเจาะทะลุ ทั้งตัวเหมือนแก่ชราลงหลายปีในคราวเดียว

“อย่าโทษข้า ทั้งหมดนี้เจ้าเป็นคนหาเรื่องเอง” ฮั่วซิงตูว่าพลางทอดสายตามองฉินฮุยหรันที่อยู่ไม่ไกล

เด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีคนนี้ตกใจจนขวัญกระเจิงนานแล้ว ตอนที่ถูกสายตาของฮั่วซิงตูจ้องมอง เบื้องหน้าถึงกับพลิกหมุน ตกใจจนเป็นลมล้มทั้งยืน

“สวะ!”

สายตาฮั่วซิงตูทอประกายดูหมิ่น ดีดนิ้วคราหนึ่ง

ปึง!

ปราณในตัวฉินฮุยหรันก็ถูกทำลายทิ้งหมดเกลี้ยงเช่นกัน

“ทหาร โยนพวกเขาสองพ่อลูกออกไป นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตำแหน่งเจ้าเมืองเมืองหลิวเขียวนี้มอบให้คนอื่นมาดูแล!”

ฮั่วซิงตูออกคำสั่ง

องครักษ์ทั้งกลุ่มที่ก่อนหน้านี้ยังเชื่อฟังคำสั่งของสองพ่อลูกตระกูลฉินพุ่งตัวออกมาทันที ลากตัวพวกเขาสองคนออกไป

เมื่อเห็นภาพทุกอย่างนี้กับตาตัวเอง ผู้คนในบริเวณโดยรอบเหล่านั้นไม่สามารถดึงสติกลับมาได้อยู่นาน อารมณ์สั่นสะท้านภายในใจแผ่ขยายไปทั่วร่างอย่างควบคุมไม่ได้

ก่อนหน้านี้ใครจะกล้าเชื่อ ว่าข้อพิพาทนี้จะจบลงด้วยวิธีที่แปลกพิสดารเช่นนี้

…………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์