Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2597

ตอนที่ 2597 เคลื่อนไหวก่อน

บุคคลปริศนา!

ซืออวิ๋นเฟยใจกระตุกวูบ ในที่สุดก็เข้าใจแล้ว

นางถึงขั้นตระหนักได้ว่าคนผู้นี้รอพวกเขาอยู่ที่นี่ เห็นชัดว่ากำลังช่วยสำนักศึกษาสองลักษณ์ ไม่อย่างนั้นทำไมอีกฝ่ายถึงลงมือรุนแรงกับพวกเขาโดยไม่มีความแค้นต่อกันเล่า

‘เจ้าเนี่ยชิงหรงบัดซบต้องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับบุคคลปริศนานี้แน่!’

ซืออวิ๋นเฟยไม่ได้โง่ คาดเดาความจริงบางส่วนออกโดยคร่าว แค้นจนกัดฟันกรอดอย่างอดไม่ได้

“เจ้าจะหนีไปได้ไกลเท่าไหร่”

เสียงราบเรียบหนึ่งดังขึ้นข้างหู สำหรับซืออวิ๋นเฟยแล้วไม่ต่างอะไรกับฟ้าผ่าลงกลางใจ ในใจนางสั่นสะท้าน พลันสะบัดมือสุดชีวิต

ฟุ่บ!

กระบี่มรรคที่ปกคลุมด้วยอักขระแน่นขนัดเล่มหนึ่งพุ่งออกมาพร้อมเสียงครวญ คลื่นพลังระเบียบสีเงินยวงทะยานออกมาชั่วพริบตา

ก่อนเคลื่อนไหวครั้งนี้ ซืออวิ๋นเฟยเพิ่งได้สมบัติลับชิ้นนี้มาจากมือของเจ้าสำนักแห่งสำนักศึกษาเยือกแข็ง ทำให้ใช้พลังระเบียบได้

เดิมทีพวกเขาคิดว่าหลังจากเข้าไปในสำนักศึกษาสองลักษณ์แล้วค่อยใช้มันกำราบเนี่ยชิงหรง แต่ตอนนี้กลับถูกซืออวิ๋นเฟยนำมาใช้เป็นวิธีหนีเอาตัวรอด

ตูม!

พลังระเบียบสีเงินราวกับประกายสายฟ้า สาดส่องภูผาธาราจนเจิดจ้าไปทั้งแถบ กลิ่นอายชวนประหวั่นน่าพรั่นพรึงเป็นอย่างยิ่ง

กลับเห็นหลินสวินยื่นมือไปคว้า กลางฝ่ามือเผยเงามายาเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งรางๆ จากนั้นพลังระเบียบสีเงินนั่นก็เหมือนอสรพิษที่ถูกบีบและเขมือบกลืนอย่างต่อเนื่อง เพียงพริบตาก็หายลับไป

กลายเป็นอาหารของอู๋ซวง!

วิญญาณซืออวิ๋นเฟยเกือบหลุดออกจากร่าง แทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง สภาพอารมณ์ของนางตอนนี้เหมือนโหยวเชียนเหิงเมื่อตอนนั้นไม่มีผิด ไม่กล้าเชื่อว่าทำไมพลังระเบียบถึงถูกซัดพินาศโดยง่ายเช่นนี้

“เจ้าเป็นใครกันแน่!?” นางส่งเสียงร้องแหลม ใบหน้างามซีดเผือด

สิ่งที่ตอบนางคือปราณกระบี่สายหนึ่งที่พุ่งเข้ามา เจิดจ้าดุจสายรุ้ง พาดขวางเก้าชั้นฟ้า ทำให้สายตาและจิตใจของนางสั่นสะท้าน

ฉัวะ!

ครู่ต่อมาเงาร่างนางร่วงโรย ดับสลายหายไป

“ในเมื่อตายแล้ว ข้าเป็นใครสำคัญด้วยรึ…”

หลินสวินส่ายหัวแล้วหันหลังจากไป

เงาร่างเขาเพิ่งหายไปไม่นาน แสงเคลื่อนไหวตระการตากลุ่มหนึ่งก็พุ่งมาจากสำนักศึกษาสองลักษณ์ในส่วนลึกของเทือกเขาเสินถูนั่น มุ่งมาทางนี้

คนที่เป็นผู้นำคือเนี่ยชิงหรง เหลิ่งชิงเสวี่ยและเหล่าบุคคลสำคัญของสำนักศึกษาสองลักษณ์นั่นเอง

เห็นชัดว่าการต่อสู้ซึ่งเกิดขึ้นที่นี่สะเทือนสำนักศึกษาสองลักษณ์เช่นกัน

แต่เมื่อพวกเขามาถึง การต่อสู้ก็สิ้นสุดไปแล้ว เหลือเพียงภูผาธารากระจัดกระจายกับความบอบช้ำทั่วหัวระแหงนั่น

“นี่มันเรื่องอะไรกัน”

หลายคนตื่นตระหนกไม่หยุด

“ไม่ใช่ว่ารองเจ้าสำนักสามคนของสำนักศึกษาเยือกแข็งจะมารึ หรือประสบเคราะห์สังหารที่นี่จนตายไปแล้ว” มีคนแปลกใจสงสัย คาดเดาอะไรได้รางๆ สายตามองไปทางเนี่ยชิงหรง

“ก่อนจะรู้ความจริงอย่าคาดเดาส่งเดช” เนี่ยชิงหรงเหลือบมองคนผู้นั้น แววตาเยียบเย็นนั่นทำให้ฝ่ายหลังหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อยก่อนก้มหน้าลง

“ไปเถอะ กลับสำนัก”

ครู่ต่อมาเนี่ยชิงหรงก็ตัดสินใจพาคนกลับไป

แม้ว่าทุกคนจะมึนงง แต่ยังจากไปพร้อมนางโดยดี

มีเพียงเหลิ่งชิงเสวี่ยที่เหมือนเข้าใจแล้ว อดสื่อจิตไม่ได้ ‘พี่สาว สหายยุทธ์ท่านนั้นไม่ร้ายกาจเกินไปหน่อยหรือ ตั้งแต่เริ่มจนถึงปิดฉาก การต่อสู้นี้เพิ่งผ่านไปเพียงชั่วขณะเท่านั้น’

คนอื่นไม่รู้ แต่นางมีหรือจะไม่รู้ว่าทุกอย่างนี้เป็นฝีมือของหลินสวิน

‘หากไม่ใช่ว่ามีเขาอยู่ วันนี้สำนักศึกษาสองลักษณ์ของพวกเราคงประสบเคราะห์แล้ว’ ในใจเนี่ยชิงหรงว้าวุ่นเจือความทอดถอนใจ

ติดค้างไมตรีของหลินสวิน เกรงว่าชาตินี้ทั้งชาติคงใช้คืนไม่หมดแล้ว…

เคราะห์สังหารคราหนึ่งถูกสลายไปหน้าเทือกเขาเสินถูเช่นนี้ ขณะที่ผู้ฝึกปราณของสำนักศึกษาสองลักษณ์พวกนั้นยังงมโข่ง หลินสวินก็กลับมายังที่พักอย่างเงียบเชียบแล้ว

นอกจากเนี่ยชิงหรงกับเหลิ่งชิงเสวี่ยแล้ว ไม่มีใครรู้ว่า ‘บุคคลปริศนา’ อย่างเขาอยู่ในสำนักศึกษาสองลักษณ์มาตลอด

“สหายยุทธ์ ขอบคุณมาก” พริบตาแรกที่กลับมาถึงสำนักศึกษาสองลักษณ์ เนี่ยชิงหรงก็มายังที่พักของหลินสวิน บนใบหน้าพริ้งเพราขาวกระจ่างยากปกปิดความซาบซึ้งใจ

“ข้าบอกแล้ว นี่เป็นของขวัญที่ช่วยรับเสี่ยวซีเป็นศิษย์”

หลินสวินยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นจึงกล่าว “นอกจากนี้ก็ช่วยข้าเตรียมแผนที่สำนักศึกษาเยือกแข็งแห่งแดนเพลิงทักษิณสักฉบับ”

เนี่ยชิงหรงอดตะลึงไม่ได้ “สหายยุทธ์ นี่เจ้าจะทำอะไร”

“การรอศัตรูมาหาถึงที่อย่างไรก็เป็นฝ่ายถูกกระทำเกินไป เจ้าว่าอย่างไรเล่า” หลินสวินยิ้มกล่าว

เนี่ยชิงหรงเข้าใจในทันที จิตใจปั่นป่วน

วันต่อมา

หลินสวินออกจากสำนักศึกษาสองลักษณ์ไปเงียบๆ

เขาไม่ได้รีบเร่งเดินทาง ก้าวเดินลำพังในน่านฟ้าที่หนึ่งเหมือนนักท่องเที่ยว กลางวันเยื้องย่างกลางภูผาธาราไร้ขอบเขต กลางคืนเดินอยู่ในเมืองที่เจริญรุ่งเรือง…

นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาสัมผัสทิวทัศน์ของโลกยอดนิรันดร์โดยละเอียดและแท้จริง แม้ว่านี่จะเป็นแค่น่านฟ้าที่หนึ่ง แต่สำหรับหลินสวินแล้วก็มีความรู้สึกว่าได้เปิดโลกทัศน์อยู่บ่อยครั้ง

หนึ่งเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เวลานี้ในที่สุดหลินสวินก็มาถึงเมืองที่มีนามว่า ‘ธารมัจฉา’ ซึ่งอยู่ใกล้สำนักศึกษาเยือกแข็งที่สุด

ใช่ว่าเขาจงใจชะลอฝีเท้า แต่หนทางตั้งแต่ออกเดินทางจากแดนทุ่งบูรพาถึงแดนเพลิงทักษิณนั้นห่างไกลกันเกินไป

‘คืนนี้พักที่นี่แล้วกัน’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์