Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2614

สรุปบท ตอนที่ 2614 ฝันหวานจริงๆ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 2614 ฝันหวานจริงๆ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 2614 ฝันหวานจริงๆ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 2614 ฝันหวานจริงๆ

จัดการด้วยวิธีอื่นหรือ

หลินสวินยิ้มแล้ว เจือแววเย้ยหยัน “เจ้าว่าเป็นไปได้หรือ”

เขาได้พบกับมารดาลั่วชิงสวินแล้ว ทั้งยังได้รู้บุญคุณความแค้นต่างๆ ในอดีตนี้แล้ว เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าความแค้นระหว่างเขากับตระกูลลั่วจะยังมีวิธีอื่นให้จัดการได้อีก

ลั่วอวิ๋นซานถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง เอ่ย “ไม่ว่าอย่างไร ถ้ามีความหวังสักนิด ข้าก็จะพยายามช่วงชิงมาให้ถึงที่สุด”

เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ความจริงเจ้าก็คงรู้อยู่ ถ้าตระกูลลั่วของข้าจะฆ่าปิดปากเจ้า ไม่ต้องรอถึงตอนนี้สักนิด คงนำผู้แข็งแกร่งจากเผ่าจักรพรรดิอมตะเหล่านั้นไปหาเจ้าจนพบตั้งแต่หลายปีก่อนแล้ว แต่พวกเราไม่ได้ทำเช่นนี้ เพราะว่า… ถึงอย่างไรในกายของเจ้าก็มีสายเลือดตระกูลลั่วไหลเวียนอยู่ครึ่งหนึ่ง”

หลินสวินเอ่ย “พูดแบบนี้ ข้ายังต้องขอบคุณพวกเจ้าตระกูลลั่วที่เมตตาไม่ฆ่าข้าหรือ”

ลั่วอวิ๋นซานคล้ายจนใจอยู่บ้าง ถอนใจยาวพูดว่า “ข้าพูดเรื่องพวกนี้เพียงต้องการบอกเจ้าว่าข้ามาด้วยความจริงใจ”

หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย “อย่าพูดพล่าม ว่ามาตามตรงเถอะ”

ลั่วอวิ๋นซานพยักหน้าเอ่ย “ก่อนข้ามาได้รับคำมั่นจากผู้นำตระกูลแล้วว่าขอเพียงเจ้าเปลี่ยนแซ่เป็นลั่ว และทำงานให้ตระกูลลั่วอย่างเต็มใจ ภายหน้าตำแหน่งผู้นำตระกูลลั่วนี้ก็จะให้เจ้าครอบครอง นี่ก็ถือเป็นการชดใช้ให้มารดาและลุงของเจ้า”

“ข้าเชื่อว่าเจ้าคงรู้ว่าคำสัญญานี้สำคัญแค่ไหน สามารถทำให้เจ้าถือครองอำนาจของเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลหนึ่ง กลายเป็นคนใหญ่คนโตที่เลื่องชื่อระบือนามในโลกยอดนิรันดร์อย่างก้าวกระโดด!”

แววตาเขาจริงใจ เจือประกายกระตือรือร้น “โอกาสเช่นนี้หมื่นปียังหาได้ยาก ข้าหวังว่าเจ้าจะตรองดูดีๆ ขอเพียงรับปาก ไม่เพียงสามารถหลุดพ้นจากน่านฟ้าที่ห้าแห่งนี้ วันหน้ายังสามารถครองอำนาจของตระกูลหนึ่งได้ด้วย ถึงตอนนั้นต่อให้ไปล้างแค้นศัตรูของเจ้าพวกนั้น เบื้องหลังก็มีทั้งตระกูลลั่วหนุนหลังเจ้าอยู่!”

กลับพบว่าหลินสวินคล้ายเห็นขัน หัวเราะหยันออกมา เอ่ยว่า “เจ้าคิดว่าความแค้นในอดีต แค่ตำแหน่งผู้นำตระกูลที่ว่าก็จะสะสางได้หรือ พูดอีกอย่างก็คือ เจ้าคิดว่าข้าหลินสวินหมายปองตำแหน่งผู้นำตระกูลลั่วหรือ”

ไม่รอให้ลั่วอวิ๋นซานเอ่ยปาก หลินสวินก็พูดต่อว่า “ให้ข้าเดา คงเพราะตระกูลลั่วสังเกตเห็นแล้วว่าถ้าไม่คิดวิธีมาจัดการข้าหลินสวินอีก ภายหน้าตระกูลลั่วก็จะถูกคุกคามอย่างหนัก ถึงขั้นเป็นไปได้สูงว่าอาจต้องจ่ายค่าตอบแทนสาหัสถึงที่สุด ดังนั้นพวกเจ้าตระกูลลั่วจึงทำได้เพียงใช้แผนพักรบแบบนี้ใช่ไหม”

ลั่วอวิ๋นซานสีหน้าอักอ่วนเล็กน้อย พูดว่า “ไม่ถึงกับเป็นแผนพักรบ แต่ตระกูลลั่วในตอนนี้รับรู้แล้วว่าการต่อสู้เช่นต่อไป มีแต่จะเสียหายอย่างไม่อาจคาดได้กันทั้งสองฝ่าย แทนที่จะพ่ายแพ้เจ็บตัวทั้งคู่ ไยจึงไม่เปลี่ยนสงครามเป็นสันติภาพเล่า”

หลินสวินไม่รับหรือปฏิเสธ เอ่ยว่า “ถ้าอิงตามที่เจ้าพูด ขอเพียงข้าหลินสวินก้มหัวให้ เปลี่ยนแซ่เปลี่ยนสกุลเข้าไปรับใช้ตระกูลลั่ว ก็จะได้รับตำแหน่งผู้นำตระกูลลั่วหรือ”

ลั่วอวิ๋นซานพยักหน้า “นี่เป็นสิ่งที่ผู้นำตระกูลรับปาก”

หลินสวินเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “ยังไม่ต้องพูดถึงว่าถึงเรื่องว่าข้าจะได้เป็นผู้นำตระกูลลั่วจริงหรือไม่ พวกเจ้าไม่กังวลหรือว่าหลังจากข้าได้เป็นผู้นำตระกูลแล้ว จะกักขังกำราบพวกเจ้าทั้งหมด เช่นเดียวกับที่พวกเจ้าเคยกระทำต่อคนตระกูลลั่วสายหลักพวกนั้นในตอนนั้น”

ลั่วอวิ๋นซานดวงตานิ่งขึง เอ่ยถอนใจเบาๆ ทันทีว่า “ข้าเชื่อว่าขอเพียงตระกูลลั่วของข้าแสดงความจริงใจมากพอ ถึงตอนนั้นสหายน้อยย่อมไม่อาจตัดใจทำเช่นนี้ได้”

หลินสวินเอ่ย “แล้วถ้าข้าตัดใจได้เล่า”

ลั่วอวิ๋นซานสีหน้าปนเปด้วยความรู้สึกต่างๆ ไปครู่หนึ่ง พักใหญ่จึงยิ้มเจื่อนพูดว่า “เรื่องในภายหน้าข้าคาดเดาส่งๆ ไม่ได้”

หลินสวินร้องอ้อคราหนึ่ง เอ่ยว่า “ถ้านี่เป็นเรื่องที่เจ้าอยากคุยด้วย เช่นนั้นข้าจะบอกเจ้าให้ก็ได้ ไม่ว่าพวกเจ้าตระกูลลั่วจะยกเงื่อนไขนี้ขึ้นมาโดยมีเจตนาร้ายแอบแฝงหรือไม่กันแน่ ข้าพูดได้เพียงว่า พวกเจ้า… ฝันหวานจริงๆ”

คดีนองเลือดตระกูลหลินยังเห็นอยู่ในสายตา หลายปีมานี้ไม่ว่าจะเป็นดินแดนรกร้างโบราณ ทางเดินโบราณฟ้าดารา โลกมืด หรือแดนหงส์เซียน แดนเจินหลง…

การไล่ฆ่าจากตระกูลลั่วก็เป็นเหมือนผีร้าย ไม่เคยเลิกรา ไม่เคยว่างเว้น!

ต่อให้มาถึงแดนใหญ่พันศึก ต่อให้เข้าสู่โลกยอดนิรันดร์ การไล่ฆ่าเช่นนี้ก็ยังดำเนินต่อไปเช่นเดิม!

การเล่นงานให้ร้ายที่ได้รับ การนองเลือดและความแค้นที่ได้สัมผัสตลอดทางนี้ จะใช้ข้อเสนอที่เหลวไหลเช่นนี้มาคลี่คลายได้หรือ

ตระกูลลั่ว… ฝันหวานมากจริงๆ!

ที่ทำให้หลินสวินรู้สึกตลกที่สุดก็คือ ในความคิดของตระกูลลั่ว แค่ตำแหน่งผู้นำตระกูลก็สะสางความแค้นในอดีตทั้งหมดได้แล้วหรือ

ในใจพวกเขาเห็นตนเป็นอะไร

คำพูดของหลินสวินทำให้สีหน้าลั่วอวิ๋นซานค้างแข็งเล็กน้อย อึดอัดอยู่บ้าง เขามีฐานะเป็นเฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับอมตะคนหนึ่งของตระกูลลั่ว การเคลื่อนไหวด้วยตัวเองคราวนี้เป็นการลดตัวลงมากแล้ว ต่อให้ถูกหลินสวินเย้ยหยันด้วยวาจาเย็นชา เขาก็อดกลั้นความโมโห ไม่มีปากเสียง เป้าหมายก็เพื่อแสดงความจริงใจของตัวเอง

แต่สุดท้ายกลับยังถูกปฏิเสธเช่นนี้!

นี่ทำให้หว่างคิ้วลั่วอวิ๋นซานปรากฏแววอึมครึมอย่างเลี่ยงไม่ได้ สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา เอ่ยว่า “หลินสวิน ข้าต้องยอมรับว่าด้วยมรรควิถีของเจ้าตอนนี้ คนธรรมดาทำอะไรเจ้าไม่ได้ กระทั่งต่อให้เผชิญหน้าระดับอมตะ เจ้าก็มีไพ่ตายมาต้านทาน แต่ว่า…”

พูดถึงตรงนี้แววดูถูกที่ข่มไม่ลงก็เผยออกมาจากดวงตาลั่วอวิ๋นซาน “เจ้าอย่าประเมินตัวเองสูงไป ต่อให้ตระกูลลั่วตกต่ำกว่านี้ ถ้าใช้ทุกวิถีทางมาต่อกรเจ้า เกรงว่าเจ้าคงรับไม่ไหว”

“และไม่ต้องพูดถึงสำนักที่อยู่เบื้องหลังเจ้า ตั้งแต่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลประสบเคราะห์ที่น่านฟ้าที่เก้า ในโลกยอดนิรันดร์แห่งนี้ใครไม่รู้บ้างว่าผู้สืบทอดคีรีดวงกมลต่างเหมือนผีเร่ร่อนไปหมดแล้ว”

“พูดตามตรง ในแดนลับทวยเทพ ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์อาคงเจวี๋ยของเจ้า หรือหลิงเสวียนจื่อศิษย์พี่ของเจ้า ต่างก็สำแดงฝีมือเยี่ยมยอดออกมา แต่สุดท้ายเล่า คงเจวี๋ยได้รับบาดเจ็บสาหัสจาก ‘กระบี่ตัดมรรค’ ของตระกูลหวัง ยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งแห่งน่านฟ้าที่แปด หลิงเสวียนจื่อยิ่งถูกฆ่าตาย!”

หลินสวินใจสะท้าน ศิษย์พี่สี่ตายไปแล้วจริงๆ หรือ!

หลายปีมานี้เขาสืบเรื่องที่เกิดขึ้นนอกโบราณสถานทวยเทพ แต่ข่าวที่ได้กลับคลุมเครือนัก

เมื่อถ้อยคำแผ่วเบาดังออกมา

ทันใดนั้นคลื่นพลังผนึกคลุมเครือก็ปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบกลางภูผาธาราแห่งนี้ ทิวเขาที่เรียงสลับกันเป็นแถบนั้นเปลี่ยนเป็นพร่าเลือนหาใดเทียบโดยพลัน

ฟ้าดินแห่งนี้เหมือนเข้าสู่ราตรีนิรันดร์ทันใด ถูกพลังผนึกอันคลุมเครือกลบท่วม

ลั่วอวิ๋นซานนัยน์ตาหดรัดฉับพลัน สัมผัสได้อย่างฉับไวว่าการเชื่อมต่อกับโลกภายนอกเหมือนถูกตัดขาด คล้ายแยกออกจากโลก ตกอยู่ในฟ้าดินที่เหมือนกรงขังแห่งหนึ่ง

ทว่าเขาไม่ได้ลุกลน ประเมินเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “วิธีผนึกเช่นนี้เรียกได้ว่าพิสดารจริงๆ ทำเอาข้ายังไม่อาจสังเกตได้ทันที แต่เกรงว่าเจ้าจะไม่เข้าใจพลังระดับอมตะสักนิด คิดจริงหรือว่าอาศัยกระบวนค่ายกลนี้ก็จะรอดพ้นเคราะห์ไปได้”

สีหน้าเขาปรากฏแววเย็นชา ก่อนมาเขาก็คาดเดาไว้แล้วว่าหลินสวินไม่มีทางก้มหัวให้อย่างง่ายดายปานนั้น เหตุไม่คาดฝันนี้ก็อยู่ในความคาดเดาของเขาเช่นกัน

ตูม!

ขณะพูดแขนเสื้อลั่วอวิ๋นซานก็โบกสะบัด แสงมรรคอมตะงดงามตระกาลตาดุจสายธารปรากฏออกมา แล้วเข้าไปปกคลุมตัวหลินสวิน

แต่ที่น่าประหลาดก็คือ เงาร่างหลินสวินหายลับไปคล้ายฟองสบู่ แสงมรรคอมตะแถบนั้นสลายไป กระบวนค่ายกลที่ปกคลุมฟ้าดินแห่งนี้ยังสั่นสะเทือนรุนแรงไปครู่หนึ่ง

แต่ไม่ได้ถูกทำลายลง!

ลั่วอวิ๋นซานสะท้านใจ เพิ่งตระหนักว่าสถานการณ์ชอบกลอยู่บ้างในยามนี้

“หลายปีนี้ข้าใช้ชีวิตอยู่ในเมืองพยับวายุมาตลอด ใช้สมบัติของตัวเองไปเกือบครึ่งเพื่อวางกระบวนค่ายกลนี้”

เสียงเจือแววทอดถอนใจของหลินสวินนั้นดังขึ้นในฟ้าดินแห่งนี้ “แต่เจ้าพูดถูก กระบวนค่ายกลผนึกนี้ไม่อาจคุกคามระดับอมตะอย่างเจ้าได้จริงๆ แต่เกรงว่าเจ้าคงไม่มีทางหลุดไปจากกระบวนค่ายกลนี้ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ!”

ตูม!

สุริยันจันทราที่หลอมขึ้นจากกฎเกณฑ์ผนึกคู่หนึ่งพลันอุบัติขึ้นกลางโลกผนึกอันมืดมิดแห่งนี้ ตกลงมาจากเวิ้งฟ้าอย่างรวดเร็ว

ที่ตามมาติดๆ คือดวงดาวในฟ้าดารานับไม่ถ้วนพริบวาบพุ่งทะยาน เข้าปกคลุมลั่วอวิ๋นซานอย่างมืดฟ้ามัวดิน ดาวแต่ละดวงต่างมีกลิ่นอายน่ากลัวสุดหยั่งไหวเคลื่อน

มองจากไกลๆ สุริยันจันทราร่วงโรย ดวงดาราโปรยลงดั่งสายฝน!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์