Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2626

ตอนที่ 2626 จอมมรรคมารแดง

เขตลมสนามแม่เหล็ก!

หนึ่งในสามเขตผนึกของทะเลประหัตมาร!

หลินสวินอึ้งไปครู่หนึ่ง สิ่งที่คิดในใจกลับเป็นว่า ในเมื่อพลังระเบียบห้วงอากาศที่อัดแน่นในเขตลมสนามแม่เหล็กสามารถสังหารระดับอมตะได้ เกรงว่าต้องเป็นพลังระเบียบระดับสวรรค์เท่านั้นจึงจะทำได้…

ยานสมบัติแล่นเหินเหนือผิวทะเลสีดำ ตลอดเส้นทางมีลมกระโชกรุนแรง ฟ้าแลบแปลบปลาบ ส่วนลึกของน้ำทะเลที่เหมือนน้ำหมึกนั่นยิ่งแผ่กลิ่นอายอันตรายมากมาย

บางครั้งที่เคลื่อนผ่านเกาะซึ่งกระจัดกระจายเหมือนตัวหมากบางส่วน มีกลิ่นอายดุดันชั่วร้ายมากมายพวยพุ่งออกมาจากเกาะนั่น

แต่หลังจากเห็นสัญลักษณ์ของหอการค้าเก้าใบที่ติดประดับบนยานสมบัติ กลิ่นอายดุดันเหล่านี้ก็หดกลับไป ทำให้ยานสมบัติแล่นผ่านไปได้โดยสวัสดิภาพ

สถานการณ์ทำนองนี้ล้วนมีอยู่ตามรายทางตลอดเวลา หลินสวินยังอดหวาดเสียวไม่ได้

หากเป็นผู้ฝึกปราณทั่วไป ต่อให้มีชีวิตมาถึงทะเลประหัตมารก็หนีเคราะห์สังหารที่ซุ่มโจมตีตลอดทางไม่พ้นอย่างแน่นอน

ขณะเดียวกันหากเปลี่ยนให้เขาเดินทางคนเดียวลำพัง ไม่มีป้ายหอการค้าเก้าใบ ตลอดทางนี้เกรงว่าต้องผ่านการต่อสู้และเข่นฆ่าไม่หวาดไม่ไหวเป็นแน่!

สองวันให้หลัง

ยานสมบัติจอดพักอยู่บนเกาะยักษ์ที่ลอยไหวๆ เหนือมหาสมุทรแห่งหนึ่ง ถึงจะบอกว่าเป็นเกาะ แต่กลับเทียบได้กับเมืองขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง บนนั้นมีสิ่งปลูกสร้างตั้งเรียงราง ถนนตรอกซอยเกะกะไม่เป็นระเบียบ

เกาะพันมงคล

เกาะที่ห้ามเข่นฆ่าและต่อสู้กัน ไม่ว่าใครล้วนสามารถซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินค้าที่นี่ได้ เป็นหนึ่งใน ‘แดนพิสุทธิ์’ ที่มีอยู่ไม่มากในทะเลประหัตมาร

ที่เรียกว่าแดนพิสุทธิ์ ก็เพราะไม่ต้องกังวลว่าจะประสบเคราะห์สังหาร

แต่ไม่ว่าใครก็ตามที่มาเหยียบเกาะล้วนต้องจากไปภายในสามวัน หาไม่จะพบเจอกับการขับไล่ของผู้ฝึกปราณทั้งหมดบนเกาะ

นี่เป็นกฎเหล็กที่ร่วมกันบัญญัติขึ้นโดยขุมอำนาจน้อยใหญ่มากมายในทะเลประหัตมาร

หลังจากยานสมบัติของหอการค้าเก้าใบขึ้นเกาะ ลุงเจียวก็เดินดุ่มๆ ออกไปคนเดียว เขาจะไปสืบข้อมูลเกี่ยวกับภูเขาทองแดง เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการช่วยเหลือป๋ออันบุตรชายของเฒ่าคุน

ส่วนหวั่นโหรวพาหลินสวินพร้อมด้วยผู้คุ้มกันทั้งกลุ่มมุ่งหน้าไปยังร้านค้านามว่า ‘เรือนหกหยิน’

ออกเดินทางครั้งนี้ หวั่นโหรวนำทรัพยากรฝึกปราณจำนวนมากมาด้วยเพื่อแลกเปลี่ยนซื้อขายที่นี่ ขณะเดียวกันก็จะซื้อเจตวัตถุและวัตถุดิบเทพที่มีเฉพาะในทะเลประหัตมารบางส่วนด้วย

ตลอดทางหลินสวินเป็นเหมือนผู้ชม มองสำรวจสิ่งที่เห็นระหว่างทาง

ผู้ฝึกปราณที่พบเห็นในนี้ต่างไปจากโลกภายนอก บนตัวล้วนมีกลิ่นคาวเลือดและดุดัน สะดุดตาเป็นอย่างมาก

ในความเข้าใจของหลินสวิน ทะเลประหัตมารรู้จักกันในนาม ‘แดนชั่วช้า’ ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่แทบจะมีแต่พวกมารนอกรีตชั่วร้ายที่โลกภายนอกไม่ยอมรับ

แน่นอนว่ายิ่งไม่ขาดพวกชั่วร้ายสุดขั้ว

นี่เหมือน ‘โลกมืด’ ในทางเดินโบราณฟ้าดารา แต่ก็มีความแตกต่างอยู่

เพราะอย่างน้อยโลกมืดยังมีระเบียบและกฎเกณฑ์ที่ตั้งขึ้นโดยหอวิหคทองแดง แดนกษิติครรภ์ และสำนักโบราณจรัสเทพ

แต่ในทะเลประหัตมารมีแต่ความโกลาหลและปั่นป่วนอย่างสมบูรณ์

มีเพียงสถานที่อย่างเกาะพันมงคลเท่านั้นจึงจะค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด บนโลกนี้ไม่ขาดพวกทำเรื่องชั่วช้าแบบไม่คิดชีวิต

ไม่ทันไรคนทั้งขบวนก็มาถึงเรือนหกหยิน

นี่คือร้านค้าที่ปกครองโดย ‘เขามารหกหยิน’

และเขามารหกหยินก็เป็นหนึ่งใน ‘เจ็ดสำนักมารใหญ่’ ระดับปลายยอดในทะเลประหัตมาร!

หลังจากใช้เวลาหนึ่งชั่วยามในการแลกเปลี่ยนต่างๆ เสร็จสิ้น หวั่นโหรวถึงเปรยว่าอยากขอให้เรือนหกหยินช่วยสืบหาคนผู้หนึ่ง

ผู้ดูแลคนหนึ่งในเรือนหกหยินซึ่งให้การต้อนรับหวั่นโหรวจึงขานรับเป็นมั่นเป็นเหมาะ

จากนั้นหวั่นโหรวหยิบภาพเหมือนที่รับมาจากหลินสวินออกมา ยื่นส่งให้อีกฝ่าย คนในภาพเหมือนนี้ก็คือลู่ป๋อหยา

ผู้ดูแลของเรือนหกหยินมองสำรวจคร่าวๆ ก่อนเอ่ยว่า “แม้ข้าจะไม่รู้จักคนผู้นี้แต่สามารถช่วยท่านสืบได้ ทว่าต้องใช้เวลาพอสมควร”

หวั่นโหรวกล่าว “เรื่องนี้ก็รบกวนท่านอาแล้ว อีกหนึ่งเดือนข้าจะจากไป จะมาใหม่อีกครั้งก่อนออกไป”

หลังจัดการเรื่องนี้เสร็จ หวั่นโหรวพาหลินสวินออกจากเรือนหกหยินพร้อมกัน และไปเดินเล่นตามสถานที่ต่างๆ ในเกาะพันมงคลอีกพักหนึ่งก่อนกลับขึ้นไปบนยานสมบัติ

ถัดจากนี้พวกเขาก็จะมุ่งหน้าไปยังภูเขาทองแดง!

หากสามารถจัดการเรื่องต่างๆ ได้อย่างราบรื่น พวกเขาก็จะไปยังส่วนลึกของทะเลประหัตมารต่อ เพื่อไปเจรจาแลกเปลี่ยนกับขุมอำนาจอื่นๆ

เพียงแต่สิ่งที่ทำให้พวกหลินสวินคิดไม่ถึงคือ ลุงเจียวที่ไปสืบข้อมูลจอมมรรคมารแดงแห่งภูเขาทองแดงกลับยังไม่กลับมาเสียที

จนกระทั่งตอนที่หวั่นโหรวเริ่มนั่งไม่ติด ลุงเจียวถึงรีบร้อนกลับมา

“เรื่องเป็นอย่างไรบ้าง”

หวั่นโหรวโพล่งถามขึ้นทันที

ลุงเจียวเผยรอยยิ้มออกมา เอ่ยว่า “ช่วงนี้จอมมรรคมารแดงไม่ได้ออกจากภูเขาทองแดง หากมุ่งหน้าไปตอนนี้ต้องได้พบเขาแน่ นอกจากนี้ข้าติดต่อกับคนของภูเขาทองแดงไว้แล้ว เชื่อว่าไม่นานจอมมรรคมารแดงก็จะรู้ว่าพวกเรากำลังมุ่งหน้าไป ถึงตอนนั้นก็สามารถช่วยชีวิตนายน้อยป๋ออันได้แล้ว”

หวั่นโหรวถึงกล่าวเหมือนยกภูเขาออกจากอก “แบบนี้ก็ดี”

นางทอดสายตามองหลินสวินแล้วเอ่ยว่า “รอเมื่อถึงภูเขาทองแดง หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันอะไรขึ้นก็รบกวนสหายยุทธ์ช่วยเหลือแล้ว”

หลินสวินพยักหน้า

ลุงเจียวกลับยิ้มกล่าวว่า “คุณหนูไม่ต้องกังวล เท่าที่ข้าดู แม้ว่าจอมมรรคมารแดงนั่นจะชั่วร้ายแค่ไหน เกรงว่าก็คงไม่กล้ากลับกลอกในเรื่องนี้แน่”

หลินสวินอดถามไม่ได้ “ลุงเจียวรู้จักคนผู้นี้มากเลยหรือ”

ลุงเจียวกล่าว “ไม่ถึงขั้นเรียกว่ารู้จัก เพียงแต่ได้ยินว่าหลายปีมานี้จอมมรรคมารแดงไม่ใช่พวกไม่รักษาคำพูด คุณชายอาจไม่รู้อะไร ในทะเลประหัตมารที่ปั่นป่วนนองเลือดแห่งนี้ บางครั้งคำสรรเสริญปากต่อปากก็สำคัญยิ่งกว่าความแข็งแกร่ง คำสรรเสริญของจอมมรรคมารแดง… ก็ไม่ได้เลวร้าย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์