“ไม่ผิด”
หลินสวินพยักหน้า สุขุมเยือกเย็น
หลิงเสวี่ยเฮิ่นแสยะยิ้ม เผยฟันขาวโพลนน่าสะพรึง เอ่ยว่า “มาๆๆ ข้าก็อยู่นี่ ข้าล่ะอยากเห็นว่าเจ้าจะจัดการข้าอย่างไร!”
มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่ง กลับถึงขั้นกล้าท้าทายเช่นนี้
ความรู้สึกที่มอบให้ก็เหมือนมดกำลังท้าทายมังกรยักษ์บนสวรรค์ ทำให้ระดับบรรพจารย์ตระกูลเหยาและตระกูลหลิงไม่น้อยหัวเราะ แววตาเย้าแหย่
ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าผู้สืบทอดคีรีดวงกมลที่บุกทะลวงจากน่านฟ้าที่หนึ่งถึงน่านฟ้าที่ห้า ทั้งตอนนี้ยังปรากฏตัวในตระกูลลั่วอีกอย่างหลินสวิน เป็นพวกเย้ยฟ้ายอดเยี่ยมขนาดไหน
แต่ตอนนี้ดูไป…
จะกำเริบเสิบสานและไม่รู้เรื่องรู้ราวเกินไปแล้ว!
พวกลู่ป๋อหยาสบตากัน ต่างยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เกิดความรู้สึกเวทนาหลิงเสวี่ยเฮิ่น ถ้าให้เขารู้ว่าลั่วอวิ๋นซานกับลั่วอวิ๋นเหอต่างถูกหลินสวินฆ่า ยังจะกล้าดูถูกหลินสวินขนาดนี้หรือ
“ข้าจะจัดการเหยาเทียนหาน”
ลั่วซิวก้าวออกมา เงาร่างผอมซูบมีกฎเกณฑ์อมตะสีม่วงอ่อนเป็นสายๆ ปรากฏ โอบล้อมกลายเป็นวงแหวนเทพ ไหลเวียนโคจรอยู่รอบกายเขา
ท่ามกลางความคลุมเครือ ในวงแหวนกฎเกณฑ์นั้นคล้ายมีเงามายาวิญญาณเทพบัญชาการ
วงแหวนเทพอมตะ!
นี่เป็นสัญลักษณ์ที่ขั้นดับเทพเท่านั้นถึงมีได้!
“การกำราบและทรมานมาในกาลเวลาไร้สุดสุดทำให้พลังจิตของเจ้าลั่วซิวเสียหายอย่างหนัก ตอนนี้ยังกล้าท้าทายข้าอย่างไม่ละอายปาก น่าขันขนาดไหน!”
ตรงข้ามกันเหยาเทียนหานหัวเราะหยันเย็นชา กระบี่ยักษ์ที่สะพายอยู่ข้างหลังร่วงลงมาในมือดังชิ้ง ชุดโลหิตทั้งตัวไหวกระพือ มีวงแหวนเทพอมตะที่ควบรวมจากพลังกฎเกณฑ์วงหนึ่ง แรงกล้าดั่งเปลวเพลิง ลุกโชนโหมกระหน่ำ คล้ายจะเผาทำลายเวิ้งฟ้า
“น่าขันหรือไม่อีกเดี๋ยวก็รู้” ลั่วซิวแววตาเฉยชา
“เหยาชิงลู่ กล้าสู้กันสักตั้งไหม” ลั่วยงที่รูปลักษณ์เช่นคนหนุ่ม นัยน์ตาโชติช่วงดุจสุริยันเอ่ยปาก สายตาจับจ้องเหยาชิงลู่
“ถ้าเจ้าอยากรนหาที่ตาย ข้าก็จะสงเคราะห์ให้” เหยาชิงลู่เก็บค้อนทลายผนึก มือกระจ่างถือโคมแก้ว เอ่ยเสียงกังวาน
“ดูท่าคงได้แต่ให้ข้าจัดการเจ้าแล้ว”
มือทั้งสองของลู่ป๋อหยาเก็บอยู่ในแขนเสื้อ มองไปที่หลิงฉิงอู๋
“ลู่ป๋อหยา ว่ากันว่าเจ้าได้รับบาดแผลมหามรรค ศักยภาพทั้งตัวไม่อาจสำแดงได้เต็มที่ ไม่เช่นนั้นจะถูกพลังสะท้อนกลับ ในสภาพเช่นนี้ข้าสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าจะอะไรมาสู้กับข้า”
หลิงฉิงอู๋ในชุดเขียวทั้งตัว รอบกายล้อมรอบด้วยโซ่เทพกฎเกณฑ์สีดำเป็นริ้วๆ วิวัฒน์เป็นภาพประหลาดที่หมู่มารร่ายรำน่าสะพรึง
ลู่ป๋อหยายิ้มน้อยๆ เอ่ยว่า “สงสัยว่าจะมีคนตาย”
เมื่อเสียงพูดเงียบลง
ตูม!
เขาก้าวออกก้าวหนึ่งมา ฟ้าถล่มดินทลาย สัญลักษณ์ลายมรรคพร่างพราวตระการตานับไม่ถ้วนผุดออกมา กลายเป็นกระบวนผนึกอสนีกลางฟ้ากระบวนหนึ่งปกคลุมออกไป
มองจากไกลๆ เหมือนอสนีเคราะห์วันสิ้นโลกมาเยือน!
“ไป!”
ไอสังหารปะทุในดวงตาหลิงฉิงอู๋ เมื่อพลิกนิ้วมือ ดาบศึกสีดำเล่มหนึ่งก็พุ่งทะยานกลางอากาศ ดึงรั้งละอองแสงอมตะให้ถาโถม กรีดแหวกห้วงอากาศ ฟาดฟันลงมาอย่างบ้าคลั่ง
ตูมโครม!
กระบวนผนึกอสนีกับดาบศึกปะทะกัน ฟ้าดินสะท้านสะเทือน เผยภาพอันน่าสะพรึงเหมือนโลกพังทลาย ห้วงอากาศบริเวณใกล้เคียงยังถล่มลงตามไปด้วย
บรรพจารย์จักรพรรดินับร้อยของตระกูลเหยาและตระกูลหลิงหลบไปทันที ยามเห็นภาพเช่นนี้ไกลๆ ยังอดสูดหายใจสะท้านอย่างอดไม่ได้
นี่คือการชิงชัยระหว่างระดับอมตะ อย่าว่าแต่พวกเขาสอดมือเลย ต่อให้โดนลูกหลงยังเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส!
หลินสวินไม่ได้ถอย ระลอกคลื่นการต่อสู้เท่านี้เขายังรับได้อยู่
เดิมทีเขายังเป็นห่วงท่านลู่ที่ถูกเคราะห์มรรคห้าเสื่อมรัดตัว แต่เมื่อเห็นความสง่างามยามอีกฝ่ายต่อสู้ ความกังวลในใจก็ถูกความตื่นตาตื่นใจเข้าแทนที่
ชั่วขณะที่ยกมือวาดเท้า ท่านลู่ก็ควบรวมกระบวนค่ายกลผนึกอันลึกลับสุดหยั่งนานาชนิดออกมา แปลงเป็นพายุสายฟ้า น้ำไฟ เสียงมรรค กระบี่เทพ ดาบศึก… ทุกการโจมตีล้วนมาพร้อมกับกลิ่นอายอมตะ เร้นลับผันแปร แกร่งกล้าถึงขีดสุด
ชั่วขณะหนึ่งหลิงฉิงอู๋เหมือนตกอยู่ในวงล้อมกระบวนผนึกเป็นชั้นๆ ท่าทางย่ำแย่!
แต่ถึงอย่างไรหลิงฉิงอู๋ก็เป็นระดับอมตะ กวัดแกว่งดาบศึกทำลายพายุสายฟ้า สลายห้าธาตุ เบิกหยินหยาง อานุภาพแข็งกร้าว ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำในการโจมตีเดียว
“ฆ่า!”
ท่ามกลางเสียงคำรามสะท้านฟ้า เหยาเทียนหานออกโจมตี วงแหวนเทพอมตะดุจเปลงเพลิงโอบล้อม เคลื่อนย้ายกลางห้วงอากาศพุ่งโจมตีไปทางลั่วซิวราวกับเพลิงเทพในตำนาน
ลั่วซิวครอบครองกฎเกณฑ์อสนีสีม่วง ไม่หลบไม่หนี เข้าประจันหน้ากับเขา
และในขณะเดียวกันลั่วยงกับเหยาชิงลู่ก็ต่อสู้กัน
ศาสตรามรรคของลั่วยงคือทวนยาวสีนิลเล่มหนึ่ง ดุดันอหังการ แทงทะลวงห้วงอากาศ ทุกการโจมตีต่างมีอานุภาพไม่อาจต้าน สามารถพลิกภูเขาคว่ำสมุทร รวดเร็วรุนแรงเป็นที่สุด
การโจมตีลวกๆ นั้นถึงขั้นสามารถแทงทะลุพวกระดับบรรพจารย์ทุกคนได้อย่างง่ายดาย!
เทียบกันแล้วพลังต่อสู้ของเหยาชิงลู่กลับมีเอกลักษณ์ที่สุด โคมแก้วในมือนางโบกไหว กลีบดอกไม้สีทองโปรยปรายออกมา ประหนึ่งหล่อขึ้นจากทองเทพ ประทับกฎเกณฑ์อมตะที่แหลมคมหาใดเทียบเอาไว้
เมื่อกลีบดอกไม้ปลิวว่อนไปทั่วฟ้า ห้วงอากาศบริเวณนั้นก็ถูกตัดออกเป็นรอยแยกยาวแคบน่าตระหนกรอยแล้วรอยเล่าอย่างกับเศษกระดาษ!
พลังสังหารดุดันเช่นนั้นงดงามถึงที่สุด และอันตรายยิ่งยวด!
แม้ว่าทวนยาวสีนิลของลั่วยงจะอหังการฉับไว แต่กลับไม่อาจสลายการโจมตีของกลีบดอกไม้สีทองเต็มฟ้านั้นได้ในทันที
ตูม!
ฟ้าดินแถบนี้ยุ่งเหยิง เวิ้งฟ้าเหมือนจะพังถล่ม แสงมรรคอมตะอันน่าครั่นคร้ามกระจายออกมา ภูผาธาราในรัศมีพันลี้กลายเป็นซากปรักหักพัง ไร้ซึ่งพลังชีวิตในชั่วพริบตา
บัดนี้พลังผนึกที่ปกคลุมอยู่รอบเขาเทพหลังมังกรถูกโคจรทั้งหมด ประกายแสงไหลเวียน ต้านการจู่โจมจากระลอกคลื่นการต่อสู้เอาไว้
เหล่าบุคคลสำคัญตระกูลลั่วอย่างลั่วเซียว ลั่วชิงเหิงต่างกำลังดูศึกนี้อยู่
สีหน้าแต่ละคนล้วนแตกต่างกันไป บ้างตื่นเต้น บ้างกังวล บ้างฮึกเหิม บ้างสั่นสะท้าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์