Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2672

ตอนที่ 2672 สามดาบชะตา

หลินสวินเหยียบห้วงอากาศขึ้นไป ยืนตระหง่านกลางทะเลเมฆ มองดูเย่ฉุนจวินจากไกลๆ แล้วเอ่ยว่า

“จะตัดสินแพ้ชนะอย่างไร”

เย่ฉุนจวินนิ่งคิดเล็กน้อยแล้วเอ่ยว่า “ในเมื่อมาเพื่อช่วงชิงวาสนา เช่นนั้นก็ไม่ต้องตัดสินชี้เป็นชี้ตาย ใครแพ้ก็ล้มเลิกไปเป็นอย่างไร”

“ได้”

หลินสวินพยักหน้า

เย่ฉุนจวินคล้ายคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะตอบรับอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ยิ้มเอ่ยว่า “พี่หลิน ทำไมข้ารู้สึกว่าเจ้าเหมือนออกจะอดรนทนไม่ไหว”

หลินสวินพูดอึ้งๆ ว่า “เช่นนั้นหรือ นั่นคงเป็นเพราะเจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อจึงตื่นเต้นจนยากทานทนกระมัง”

เย่ฉุนจวินหัวเราะร่า “ดูออกว่าพี่หลินเหงาอยู่ระดับนี้มานานแล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้ากับข้าก็มาประชันความแข็งแกร่งของมรรควิถีตัวเองกันเป็นอย่างไร”

หลินสวินเอ่ยว่า “ย่อมเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว”

ขณะที่เย่ฉุนจวินเลิกคิ้ว ในใจก็ขบคิดถึงคำว่า ‘ย่อมเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว’ นี้ด้วย

ต้องมั่นใจในมรรควิถีของตนมากขนาดไหนถึงกล้าพูดคำนี้ออกมาได้ตามใจเช่นนี้

ทั้งที่รู้ดีว่าตนมาจากหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ยังมีท่าทางสุขุมเยือกเย็นปานนี้ หลินเต้ายวนผู้นี้… ย่อมไม่อาจเทียบกับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิทั่วไป

ยามนี้เขาก็เกิดความรู้สึกเป็น ‘พวกเดียวกัน’ เหมือนตอนที่หลินสวินเห็นเขาครั้งแรกเช่นกัน

และก็เป็นเวลานี้ที่เย่ฉุนจวินได้เข้าใจ ว่าเหตุใดเมื่อครู่หลินสวินจึงพูดว่า ‘เจอคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อจึงตื่นเต้นยากทานทน’ ไม่ใช่เพราะจองหอง แต่พูดมาจากใจ!

และทัศนคติเช่นนี้ ก็เป็นความคิดว่าตนไร้ศัตรูที่หล่อหลอมมาจากการต่อสู้ห้ำหั่นเนิ่นนาน หลอมรวมเข้าไปถึงแก่นกระดูกแล้วอย่างไร้ข้อกังขา ถึงได้สงบนิ่งและเยือกเย็นปานนี้

“ดี วันนี้ข้าจะใช้พลังทั้งหมดประลองมกุฎมรรคากับพี่หลินสักครา!”

เย่ฉุนจวินดวงตาเปล่งประกายดุจดวงดารา ยามนี้สภาวะจิตอันสงบนิ่งไม่ไหวเอนก็ระเบิดจิตต่อสู้เดือดพล่านออกมา

บรรยากาศรอบตัวเขาเปลี่ยนไปแล้ว แขนเสื้อไหวกระพือ ดวงดาราที่ประหนึ่งลุกโชนนับไม่ถ้วนเริ่มรวมตัวกันโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง ขับให้เขาเป็นดั่งเจ้าแห่งดวงดาราที่ลุกโหม!

ตูม!

ฟ้าพลิกดินคว่ำ เย่ฉุนจวินก้าวกระโดดออกไปหนึ่งก้าว เงาร่างแหวกฟ้ากว้างมาถึงเบื้องหน้าหลินสวิน แล้วตบฝ่ามือข้างหนึ่งออกไปทันที

นิ้วมือเรียวยาวขาวสะอาดนั้นเหมือนแปรเปลี่ยนเป็นโลกจักรวาลอันไพศาลมหึมาแห่งหนึ่งอย่างรวดเร็ว ปลดปล่อยกลิ่นอายทำลายล้างที่รุนแรงน่าครั่นคร้ามขณะที่ดวงดารานับไม่ถ้วนลุกโชนอยู่

ฝ่ามือนี้น่ากลัวนัก!

ดวงตาหลินสวินปรากฏแววประหลาด

เป็นอย่างที่เขาสัมผัสได้ดังคาด จากอานุภาพฝ่ามือนี้ก็ดูออกถึงความเชี่ยวชาญที่มีในระดับมกุฎบรรพจารย์อย่างทะลุปรุโปร่ง

ขณะที่คิดเช่นนี้อยู่ในใจ ฝ่ามือหลินสวินก็ตบออกไปเช่นกัน

ฝ่ามือนี้ประหนึ่งหุบเหวลึกไหวเคลื่อน คลุมเครือไม่อาจบรรยาย คลื่นพลังสะท้านฟ้าสะเทือนดินพลันเกิดขึ้นทันทีที่ปะทะกับอีกฝ่าย

ห้วงอากาศบริเวณใกล้เคียงระเบิดออก แผ่ขยายไปทั้งสี่ด้านแปดทิศ กลิ่นอายกฎเกณฑ์ระดับบรรพจารย์อันน่าสะพรึงสะเทือนไปทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

ตูม!

เงาร่างทั้งสองเคลื่อนตัดกัน จากนั้นแต่ละคนต่างยืนสบตากันอยู่กลางอากาศ จิตต่อสู้ไร้รูปเข้าปะทะ ทำให้กลางฟ้าดินอบอวลไปด้วยกลิ่นอายดุดันเย็นเยียบเสียดกระดูก

“พี่หลินไม่ธรรมดาตามคาด”

เย่ฉุนจวินสะท้านในใจเล็กน้อย ด้วยพลังปราณของเขาในตอนนี้ก็เป็นบุคคลชั้นยอดในหมู่ผู้สืบทอดระดับเดียวกันของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ต่อให้ไม่ถึงกับไร้ศัตรูใดเทียบเทียมได้จริงๆ ก็ตาม

แต่จากคำพูดของผู้อาวุโสในสำนัก นอกจากหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดแล้ว มองไปทั้งโลกยอดนิรันดร์ก็มีแต่คนจของสามหอบรรพจารย์อย่างลัทธิวิญญาณ ลัทธิฌานและลัทธิพ่อมดถึงเป็นคู่ต่อสู้กับเขาได้

ทว่าตอนนี้ในทะเลประหัตมารของน่านฟ้าที่หกนี้ เขากลับได้พบคู่ต่อสู้ที่แกร่งกล้ายิ่งยวดคนหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ผู้สืบทอดของสี่หอบรรพจารย์ แต่พลังเช่นนั้นกลับไม่ด้อยกว่าผู้สืบทอดชั้นยอดบางส่วนในสี่หอบรรพจารย์!

“พี่เย่ เจ้ากับข้าต่างเคี่ยวกรำในระดับนี้มานานแล้ว ในเมื่ออยากตัดสินแพ้ชนะก็ไม่ต้องหยั่งเชิงกันอีก ใช้เต็มพลัง ต่อสู้ให้เต็มที่ไปเลย”

หลินสวินเอ่ย

การโจมตีนี้ก็ทำให้หลินสวินรับรู้ได้ว่า หากต้องการเอาชนะเย่ฉุนจวินคนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้หลินสวินยินดี

เป็นอย่างที่เขาพูด ไร้ศัตรูมานานเกินไป ในที่สุดก็หาคู่ต่อสู้ที่คู่ควรได้สักคน

นี่น่ายินดียิ่งนัก!

“ได้”

เย่ฉุนจวินยิ้มน้อยๆ ประกายแสงโชติช่วงดุจเพลิงเผาก็ปรากฏขึ้นในดวงตา พลานุภาพทั้งร่างเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ ตามไปด้วย จนกระทั่งในที่สุดตัวเขาก็ถูกปกคลุมอยู่กลางเปลวเพลิงถาโถม ท่วงท่าเหิมเกริมดุร้าย

“พี่หลิน ที่ข้าฝึกคือดาบ ดูให้ดีล่ะ!”

ตูม!

เย่ฉุนจวินก้าวย่างผ่านอากาศ ฟ้าดินยุ่งเหยิงปั่นป่วน ห้วงอากาศพังถล่มลงใต้เท้าเขา

และในมือเขา ประกายดาบสายหนึ่งมาเยือนจากกลางความว่างเปล่า ควบรวมเป็นดาบศึกเปล่งประกายดุจหิมะเล่มหนึ่ง

ดาบศึกนี้เหมือนพุทธศาสตราในมือภิษุ ทั้งเหมือนดาบอาญาสิทธิ์ในมือราชัน ทั้งคล้ายดาบที่ใช้บูชา หลอมรวมลักษณ์แห่งหมื่นดาบทั่วหล้า

ดาบก็คือมรรค!

กฎเกณฑ์ระดับบรรพจารย์อันเข้มข้นควบรวมเป็นเพลิงเทพวิจิตร เปล่งประกายและขาวโพลน ตลบอบอวลออกมาจากดาบ ราวกับมีกลิ่นอายอหังการน่าครั่นคร้ามทลายเวิ้งฟ้า

สวบ!

เมื่อคมดาบของเย่ฉุนจวินฟันออกมา เรียกได้ว่าทำลายล้างได้ทุกสิ่ง ฟันลงมาที่ศีรษะหลินสวินในชั่วพริบตา

ภาพน่าสะพรึงเกิดขึ้นแล้ว

ยามดาบนี้จู่โจมลงมา สุริยันจันทราอับแสง หมู่ดาราหม่นหมอง แสงสว่างทั้งปวงต่างรวมอยู่บนตัวดาบ

“ดาบก็คือมรรค!”

ทันใดนั้นกลางฟ้าดินมีเสียงดุจดั่งเหล่าเทพท่องคัมภีร์ ทำให้รู้สึกเหมือนดาบนี้เป็นตัวแทนเจตจำนงแห่งมหามรรค ทั่วหล้าไม่มีใครต้านทานได้!

นี่น่าครั่นคร้ามมากอย่างไม่ต้องสงสัย

ประกายดาบเข้าประชิด หลินสวินดวงตาวาววาบ จิตต่อสู้ในใจก็ถูกกระตุ้นโดยสมบูรณ์

วิ้ง!

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งปรากฏขึ้นอย่างฉิวเฉียด ขวางดาบที่ฟันลงมาที่หัวนี้ไว้ ดาบศึกเปล่งเสียงกังวานฮึกเหิม เปลวเพลิงสีขาวโพลนพวยพุ่ง ซัดจนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งสะเทือนกระหึ่ม

พลังเช่นนั้นน่ากลัวยิ่งยวดอย่างแท้จริง ซัดจนหลินสวินยังเลือดลมปั่นป่วนไปครู่หนึ่ง

เขายิ่งตื่นเต้นขึ้นไปอีก เย่ฉุนจวินผู้นี้เป็นคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งดังคาด!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์