ต้นแรกกำเนิดล้ำค่ายิ่ง มีค่าถึงขั้นทำให้ระดับจักรพรรดิในใต้หล้าบ้าคลั่งตาลุกวาว
แต่ตอนนี้สำหรับหลินสวินที่หลอมต้นแรกกำเนิดไป ไม่มีความเจ็บปวดและเสียดายใดแม้แต่น้อย กลับมีความรู้สึกว่ากายใจล้วนผ่อนคลายอย่างหนึ่ง
มรรคเสาะหาด้วยใจ วิชามาจากกาย
ฝึกปราณมาถึงวันนี้ แม้กายใจจะแบกรับผลสำเร็จมหามรรคที่เหนือธรรมดาไว้ แต่ประสบการณ์และสิ่งที่ได้รับยามฝึกปราณในอดีต มีหรือจะไม่ใช่ ‘ภาระ’ ในอีกนัยหนึ่งเช่นกัน
ปรารถนาทะลวงระดับ จำเป็นต้องละทิ้งประสบการณ์ฝึกปราณในอดีต เมื่อไปทำความเข้าใจและหยั่งรู้ใหม่อีกครั้ง บางทีอาจก้าวสู่ระดับใหม่ทั้งหมดได้อย่างแท้จริง!
หลินสวินสูดหายใจเข้าลึก ตัดสินใจหลอมต้นหงเหมิงหมื่นมรรคเช่นกัน
ต้นไม้นี้เป็นถึงสมบัติล้ำค่าชั้นสูงของยุคก่อน ใช้คู่กับตำรามรรคต้นกำเนิด สามารถหยั่งถึงมรดกชั้นสูงและนัยเร้นลับมหามรรคนานัปการของยุคก่อนได้
สิ่งนี้ทำให้การฝึกปราณของหลินสวินได้รับประโยชน์ที่ไม่อาจประเมิน ทำให้มรรควิถีทั้งตัวเขารวมจุดแข็งของสองยุคไว้ด้วยกัน โอหังเหนือคนระดับเดียวกันตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ไม่มีใครเทียบได้!
สมบัติเช่นนี้สามารถทำให้ระดับอมตะแย่งกันหัวแทบแตกได้
นึกถึงตอนอยู่แดนลับทวยเทพ มีระดับอมตะมากมายทยอยมาเยือน ต้องการชิงศุภโชคยิ่งใหญ่ของยุคก่อนนี้ไป!
สำหรับหลินสวิน ต้นหงเหมิงหมื่นมรรคนั้นเลิศล้ำเกินบรรยายจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอันดับต้นๆในตัวเขา
ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่าหลังจากก้าวสู่ระดับอมตะ เขาจะนำต้นหงเหมิงหมื่นมรรคมาหยั่งรู้ต่อ สัมผัสมหามรรคอมตะของยุคก่อน
แต่ตอนนี้…
หลินสวินตื่นรู้ฉับพลันแล้ว
มรรคแห่งอมตะ การอ้างอิงและเรียนรู้มีแต่โทษไร้ประโยชน์ สุดท้ายมหามรรคนี้ต้องไปเสาะหาด้วยตัวเอง!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สู้ละทิ้งไปเสียยังดีกว่า
ตัดความคิดเตรียมพร้อมล่วงหน้านั้นไปโดยสิ้นเชิง ทำให้กายใจของตนไร้กังวล!
ตูม!
ในโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์แสงเขียวล้นฟ้า กิ่งก้านเขียวมรกตนับหมื่นพันพลิ้วไหว ต้นหงเหมิงหมื่นมรรคสั่นระรัว กำลังถูกหลินสวินหลอมไปทีละน้อย
ต้นไม้เทพที่เรียกว่าเป็นสมบัติแห่งยุคนี้แตกออกทีละชุ่น กิ่งก้านร่วงหลุด ใบต้นโรยรา…
ต่างจากการหลอมต้นแรกกำเนิด หลินสวินใช้เวลาหนึ่งปีเต็มกว่าจะสลายต้นหงเหมิงหมื่นมรรคไปทั้งหมด กลายเป็นพลังหงเหมิงที่พลุ่งพล่านหาใดเปรียบ ซึมซาบเข้าไปในมรรควิถีทั้งตัวของหลินสวิน
ในหนึ่งปีนี้เขาเฝ้าเรือนเมฆปรกเหมือนปกติ เวลาส่วนใหญ่ล้วนนอนบนเก้าอี้โยกตัวนั้น เหล่าเพื่อนบ้านเคยชินกับเรื่องพวกนี้นานแล้ว เห็นจนชาชิน
ไม่มีใครรู้ว่าหนึ่งปีนี้มรรควิถีของหลินสวินเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างไร้สุ้มเสียงนานแล้ว
หลินสวินสัมผัสได้ว่าหลังจากดูดซับพลังของต้นแรกกำเนิดและต้นหงเหมิงหมื่นมรรคแล้ว โลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ของตนเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกดินเงียบๆ
กลิ่นอายแรกกำเนิดดั้งเดิมพลุ่งพล่านอบอวล ราวกับยามหงเหมิงแรกกำเนิด ในโลกจักรพรรดิบริสุทธิ์ที่กว้างใหญ่ สุริยันจันทราดารา ภูผาธาราไพศาล สรรพสิ่งหมื่นลักษณ์เหมือนหวนคืนสู่แรกกำเนิด ได้รับการยกระดับและหล่อเลี้ยงถึงขีดสุดท่ามกลางกลิ่นอายหงเหมิงแรกเริ่ม
มรรควิถียังคงไม่เปลี่ยนแปลง
แต่หลินสวินรู้ว่าพลังปราณของตนเกิดการยกระดับและแปรสภาพอย่างคาดไม่ถึงแล้ว
มรรคดุจแรกกำเนิดเปลี่ยนเป็นหงเหมิง!
หากกล่าวว่าระดับย้อนบรรพ์คือนัยเร้นลับแรกของการเสาะหามหามรรคดั้งเดิม
เช่นนั้นมรรควิถีของหลินสวินในตอนนี้ก็เหมือนยุคแรกกำเนิดดั้งเดิม ครองหงเหมิงหมื่นลักษณ์!
เวลานี้หลินสวินหยั่งรู้โดยสมบูรณ์แล้ว
ตัวเบาดุจโผผิน คล้ายตัดโซ่ตรวนในอดีตที่ผู้บำเพ็ญธรรมกล่าวถึง มหามรรคเสมือนข้า ข้าเป็นดั่งมหามรรค ไม่อาจพรรณนา เรียกว่าแรกกำเนิด สำแดงลักษณ์แห่งหงเหมิง
บนเก้าอี้โยกเขาลืมตาขึ้นเงียบๆ
ฟ้าดินแถบนี้พลันมืดลงในพริบตา กฎระเบียบและกลิ่นอายมหามรรคที่กระจายอยู่กลางฟ้าดินหยุดชะงักไปชั่วขณะ คล้ายถูกทำให้ตกใจ
แต่เพียงพริบตาก็กลับสู่สภาพเดิม
บนตรอกถนนเงาร่างที่เบียดเสียดแน่นขนัด สรรพชีวิตมากมายหลายหลากนั้นไม่สังเกตเห็นสักนิด
ข้าเป็นดั่งมหามรรค ไม่อาจสังเกตเห็น
บนหน้าหลินสวินเผยรอยยิ้ม ยืดเอวอย่างผ่อนคลายแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้โยก
บุปผาข้าเบ่งบาน เมื่อไหร่ผีเสื้อจะมาเวียนวน
หลินสวินไม่สนใจ
สำหรับเขาภายหน้ามรรคาอมตะนั้นย่อมมา ‘ติดกับเอง’!
ตั้งแต่มาถึงเรือนเมฆปรกจนถึงตอนนี้ผ่านไปหนึ่งปีกว่าแล้ว
เหลือเวลาแค่หนึ่งปีกว่าก็จะถึงช่วงรับผู้สืบทอดของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด
“เจ้าหนอนขี้เกียจ”
ขณะที่หลินสวินกำลังหันหลังกลับเข้าไปในเรือนเมฆปรก เสียงกระจ่างใสหนึ่งดังขึ้น นั่วนั่วที่ถักผมเปียสองข้างวิ่งมาอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรหรือ” หลินสวินยิ้มถาม
ในหนึ่งปีนี้นั่วนั่วก็โตขึ้นไม่น้อย ทิ้งความเยาว์วัยเหมือนเด็กไป มีความร่าเริงของเด็กสาวเพิ่มขึ้นมา
นั่วนั่วแย้มยิ้ม กล่าวอย่างลำพอง “ท่านแม่ข้าบอกว่ารวบรวมเงินได้พอแล้ว อีกไม่นานก็จะส่งข้าไปฝึกปราณที่ ‘จวนกระบี่แรกวิญญาณ’ ”
หลินสวินอึ้งไป
จวนกระบี่แรกวิญญาณตั้งอยู่กลางหุบเขาแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างเมืองจันทร์เหมันต์สามหมื่นกว่าลี้ มีระดับบรรพจารย์จักรพรรดิหลายคนควบคุมดูแลด้วยกัน
หากกล่าวถึงรากฐานพลัง ล้วนเทียบไม่ได้แม้แต่ขุมอำนาจอมตะขั้นปลายสุด ไม่อยู่ในสายตาหลินสวินโดยสิ้นเชิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์