สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2691 หนึ่งฝ่ามือตบเละ – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 2691 หนึ่งฝ่ามือตบเละ ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 2691 หนึ่งฝ่ามือตบเละ
ภายใต้ท้องฟ้า หลินสวินก้าวเดินไปข้างหน้า สีหน้าไม่สุขหรือทุกข์ เงาร่างก็เปิดเผยโดยสมบูรณ์
ภาพเช่นนี้ไม่นานก็ดึงดูดความสนใจของผู้ชมการต่อสู้เหล่านั้น
หลายคนประหลาดใจ
“เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ ไม่รู้หรือว่าหากเปิดเผยร่องรอยจะชักนำเคราะห์สังหารเข้ามามากมาย”
การทดสอบเริ่มขึ้นแล้ว ในสมรภูมิหมื่นยอดตอนนี้เหล่ามกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิต่างเคลื่อนไหว ทว่าต่างจากหลินสวิน
บางคนเก็บงำกลิ่นอาย หาที่ซ่อนตัวที่ปลอดภัยรอเหยื่อเงียบๆ
บ้างกำลังวางกระบวนผนึก
บ้างใช้วิชาลับติดต่อ ‘พวกพ้อง’ วางแผนจะเคลื่อนไหวเป็นกลุ่ม
บรรดามกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิที่ได้รับความสนใจที่สุดอย่างตงหวงเซ่าเหวิน ฉีชิงซือ มู่จุนอู๋ ต่างใช้วิชาลับเรียกหาพวกพ้อง
ด้วยฐานะของพวกเขา ย่อมสามารถระดมมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิกลุ่มหนึ่งให้ทำตามคำสั่งพวกเขาได้
นี่ไม่นับว่าผิดกฎ
อันที่จริงก่อนการทดสอบครั้งนี้จะเริ่มขึ้น ผู้โดดเด่นที่เข้าร่วมการคัดเลือกเหล่านี้ต่างสร้างพันธมิตรเล็กๆ เป็นการส่วนตัวแล้ว
มีเพียงหลินสวิน หลังจากการทดสอบเริ่มต้นก็ไม่ปกปิดสักนิด เคลื่อนไหวโดยตรง ก้าวเดินกลางฟ้าดิน ราวกับกระบี่ที่ชักออกจากฝักโดยไม่ปกปิด เปิดฉากเคลื่อนไหว
นี่ดูผิดแปลกมากอย่างไม่ต้องสงสัย
“เจ้าหมอนี่นับว่าใจกล้าเหมือนที่เล่าลือ!”
ข้างๆ สัตว์เทพกิเลนทอง ตงหวงฉยงหัวเราะหยัน ‘เจ้าหมอนี่’ ที่เขาพูดถึงเป็นใคร ทุกคนล้วนกระจ่างแจ้ง
“ฟ้าต้องการให้เขาตาย ก็ต้องทำให้เขาคลั่งก่อน”
ฉีทิงจื่อเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
“ก่อนหน้านี้ในโลกมีข่าวลือมากมาย บอกว่าเจ้าเดรัจฉานคนนี้พลังต่อสู้เย้ยฟ้า ความสามารถยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้ดูท่าข่าวลือเหล่านั้นเกินจริงมากไปแล้ว”
มู่ชางเจี่ยเอ่ยเนิบๆ “กระทำการอย่างเขา ไม่ต้องถึงหนึ่งเดือน ภายในสามวันก็ถูกคัดออกแล้ว”
“สามวันหรือ ไม่ บางทีไม่ถึงหนึ่งวันเจ้าหมอนี่ก็ต้องออกจากการทดสอบแล้ว”
จงหลีชงเอ่ยเรียบๆ “พวกเจ้าดูสมรภูมิหมื่นยอดนั่น ทุกทิศทางของเจ้าหมอนี่ล้วนมีคู่ต่อสู้กระจายอยู่ ที่อยู่ใกล้ห่างเพียงหมื่นลี้ ที่อยู่ไกลห่างไม่กี่หมื่นลี้ และเขาก็ไม่ปกปิดกลิ่นอายใดๆ อีกไม่นานจะต้องเกิดการปะทะขึ้นแน่!”
เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวต่อว่า “และขอเพียงเกิดการปะทะ ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะต้องดึงดูดความสนใจของคนอื่นๆ ถึงตอนนั้นนกปากซ่อมสู้กับหอยกาบ ชาวประมงได้ประโยชน์ ใครจะทนไม่ฉวยโอกาสกอบโกยผลประโยชน์ได้”
ทุกคนอดพยักหน้าไม่ได้
สิ่งที่จงหลีชงวิเคราะห์ก็คือความเห็นที่พวกเขาเห็นพ้องด้วย
สุดท้ายจงหลีชงกล่าวสรุป “จากที่ข้าดู การกระทำนี้ของหลินสวินมีเพียงคำเดียว โง่!”
คำว่าโง่ดังก้องทั้งที่นั้น
ในนั้นไม่ปกปิดความเย้ยหยันและดูหมิ่นสักนิด
จวินหวนไม่ได้พูดอะไร ความจริงดีกว่าคำพูด คำพูดไร้สาระพูดมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
รอตอนที่หลินสวินได้รับชัยชนะ ก็เป็นการโต้ตอบคำพูดเย้ยหยันพวกนี้ได้ดีที่สุดแล้ว
แต่กลับมีคนไม่ยอมปล่อยจวินหวน ตงหวงฉยงเอ่ยเสียงกึกก้องราวกับสายฟ้า “จวินหวน เหตุใดเจ้าไม่เถียงให้ศิษย์น้องเล็กคนนี้ของเจ้าสักหน่อยเล่า หรือคิดไม่ถึงเช่นกันว่าศิษย์น้องเล็กคนนี้จะโง่เขลาขนาดนี้”
จวินหวนเลิกคิ้วเรียวยาวราวกับใบหลิว เอ่ยพูดเรียบๆ “ไม่เช่นนั้นเราพนันกันไหม หากศิษย์น้องเล็กของข้าถูกคัดออก ข้าจะตบหน้าตัวเองต่อหน้าทุกคนพร้อมกล่าวว่าน่าอับอายขายหน้า แต่หากศิษย์น้องเล็กของข้าผ่านการทดสอบ เจ้าเองก็ต้องตบหน้าตัวเองและเอ่ยว่ามีตาหามีแววไม่”
ทั่วบริเวณล้วนผิดคาด
นี่ร้ายกาจยิ่งกว่าเสียอีก!
ต่อให้เป็นผู้คุมการทดสอบอย่างพวกฟางเต้าผิง เซียวเหวินหยวน ยังเผยสีหน้าประหลาดใจ
ตงหวงฉยงเองก็อึ้งไป จากนั้นแค่นเสียงเย็นเยียบ “ไร้สาระ เรื่องการทดสอบคัดเลือกเช่นนี้ใช่เรื่องล้อเล่นที่ไหน ต่อให้ข้าชนะก็ไม่เป็นเกียรติ”
“ไม่กล้าพนันก็หุบปาก”
จวินหวนน้ำเสียงสบายๆ “ประโยคนี้ก็พูดกับทุกคนในนี้ด้วย ใครกล้าพนันข้าจะเดิมพันด้วย ถ้าไม่กล้าก็อย่าพูดพล่อยๆ”
สีหน้าของหลายคนอึมครึม
พวกฉีทิงจื่อ จงหลีชง มู่ชางเจี่ยสีหน้ายิ่งมืดทะมึนลงไม่น้อย
คำพูดนี้ของจวินหวนเป็นการท้าทายพวกเขาอย่างที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย!
“ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลนี่ช่างบ้าบิ่น” ตงหวงชิงส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มหยัน
กลับเห็นฟางเต้าผิงสีหน้านิ่งสงบ เซียวเหวินหยวนยิ้มไม่เอ่ยคำ หลีเจินยังคงเงียบ
เมื่อไม่มีใครต่อบทสนทนา ทำเอาในใจตงหวงชิงอดอึดอัดไม่ได้ จากนั้นก็ฟื้นคืนสู่ยามปกติโดยพลัน ในใจลอบคิดว่าหลังจากหลินสวินถูกคัดออก อยากดูนักว่าพวกเขาจะมีท่าทีอย่างไร
“เจอกันแล้ว!”
เสียงร้องด้วยความตกใจระลอกหนึ่งดังขึ้นในที่นั้น
สายตาของผู้คนถูกดึงดูดทันที มองไปยังตำแหน่งที่หลินสวินอยู่ในสมรภูมิหมื่นยอด
นั่นเป็นที่ราบกว้างใหญ่ผืนหนึ่ง ต้นไม้ใบหญ้าอุดมสมบูรณ์ ยามเงาร่างของหลินสวินปรากฏ จู่ๆ ตรงหน้าเขาก็มีชายผมดำที่สะพายกระบองสำริด รูปร่างผอมสูงสวมชุดสีดำคนหนึ่งปรากฏตัวออกมา
“กู้หลิวไห่!”
ทุกคนรู้ฐานะของชายคนนั้นแทบจะในทันที
กู้หลิวไห่ มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่งของตระกูลกู้ หนึ่งในสี่ตระกูลตงหวง อุปนิสัยเหี้ยมหาญ แจ้งมรรคด้วยการสังหาร ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสิบมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิแห่งน่านฟ้าที่เจ็ด
อันดับของเขาสามารถอยู่ในห้าอันดับแรกอย่างมั่นคง!
นี่เป็นคนที่อานุภาพปานสุริยันบนฟ้า แข็งแกร่งอย่างที่สุด ชื่อเสียงเลื่องลือมายาวนาน
ในที่นั้นฮือฮา ทุกคนอดกลั้นหายใจจดจ่อไม่ได้
ตั้งแต่การทดสอบเริ่มขึ้นจนถึงตอนนี้เพียงแค่ครึ่งชั่วยาม หลินสวินก็เจอกับกู้หลิวไห่แล้ว ระหว่างทั้งสองจะเกิดการต่อสู้ชั้นเลิศเพียงใด
ชั่วขณะนี้หลายคนอดปาดเหงื่อแทนหลินสวินไม่ได้
ในสมรภูมิหมื่นยอด
หลินสวินมองเห็นคู่ต่อสู้คนแรกที่เจอจากไกลๆ ในหัวก็ปรากฏข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอีกฝ่ายขึ้นมา
ผู้แข็งแกร่งที่เข้าร่วมการทดสอบล้วนมีม้วนหยกสีทองม้วนหนึ่ง ในนั้นบันทึกข้อมูลของคู่ต่อสู้ทุกคน
“หลินสวิน!”
ไกลออกไปดวงตากู้หลิวไห่วับวาบ ทั่วร่างไอสังหารพุ่งทะยาน กฎเกณฑ์ทั่วตัวตัดสลับ กลายเป็นสายฟ้าสีดำแน่นขนัดราวกับมังกรรัดพันกัน
ตูม!
ห้วงอากาศบริเวณนั้นทรุดทลาย ต้นไม้ใบหญ้าบนพื้นดินกลายเป็นเถ้า ฟ้าดินเปลี่ยนสี
เห็นดังนี้เหล่าผู้ชมที่อยู่โลกภายนอกล้วนเผยสีหน้าอัศจรรย์ใจ สมกับเป็นหนึ่งในสิบมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิแห่งน่านฟ้าที่เจ็ด อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาไม่ธรรมดา
“เพิ่งพบกันก็เกิดความเคลื่อนไหวขนาดนี้แล้ว นี่เจ้าหวังจะดึงดูดคนอื่นมาหรือ”
หลินสวินเอามือไพล่หลัง แววตาลุ่มลึกขณะพูดเรียบๆ
กู้หลิวไห่ดวงตาราวกับกระบี่ ชักกระบองสำริดคู่ที่สะพายอยู่ด้านหลังออกมา เอ่ยว่า “คนที่อยากฆ่าเจ้ามีเยอะมาก ข้าไม่อยากสู้กับเจ้าจนถึงที่สุดตั้งแต่การทดสอบเพิ่งเริ่มขึ้น”
“ดังนั้นเจ้าจึงวางแผนจะดึงดูดคนอื่นๆ มา ยืมพลังของพวกเขาทำให้ข้าถูกคัดออกหรือ” หลินสวินถาม
กู้หลิวไห่พยักหน้า “ไม่ผิด”
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะอยู่รอดจนรอคนอื่นๆ มาถึงหรือ” หลินสวินสีหน้าไม่ดีใจหรือเสียใจ
กู้หลิวไห่อดยิ้มไม่ได้ “หลินสวิน เจ้าหลงระเริงเกินไปแล้ว แค่ยื้อเวลาช่วงหนึ่งเท่านั้นเจ้าคิดว่าข้าทำไม่ได้หรือ”
“เจ้าทำไม่ได้”
กู้หลิวไห่ตะโกน ภาพอสนีดับโลกาที่สั่งสมพลังมานานทะยานฟ้าท่ามกลางเสียงกึกก้อง ราวกับเคราะห์อสนีไร้เทียมทานมาเยือนโลก
แปดทิศสี่ด้าน เมฆสิบฝั่งทรุดตัว!
ปรากฏการณ์ประหลาดดับโลกาที่น่ากลัวทำให้ฟ้าดินอับแสง
กลับเห็นหลินสวินยื่นมือใหญ่ออกไปตบคราหนึ่งโดยไม่มองด้วยซ้ำ
ปัง!!!
ภาพอสนีดับโลกาที่ถูกกู้หลิวไห่มองว่าเป็นอภินิหารพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดพลันสั่นไหวรุนแรง ระเบิดออกท่ามกลางเสียงแตกหัก
ลูกตาของกู้หลิวไห่เกือบหลุดออกมา หน้าเปลี่ยนสีไปอย่างสิ้นเชิง
ไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของตน ถูกฝ่ามือเดียวตบแหลกละเอียดง่ายๆ เช่นนี้หรือ
นี่เหมือนค้อนหนักที่ทุบลงบนหัวใจเขาอย่างรุนแรง ทำให้สภาวะจิตของเขามีสัญญาณเสียการควบคุม
และตอนนี้ฝ่ามือใหญ่ที่บดบังฟ้านั่นก็ตบลงมาอีกครั้ง
มองจากไกลๆ เหมือนม่านนภามาเยือน ปิดฟ้าบังตะวัน!
ชั่วขณะนี้กู้หลิวไห่รู้สึกเพียงว่าร่างตนเล็กจ้อยราวกับมดปลวก เกิดความรู้สึกสิ้นหวังไร้ที่พึ่ง เจ้าหมอนี่…
แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไร!
ตูม!
ความเจ็บปวดรุนแรงไร้ขอบเขตแผ่ไปทั่วร่างกู้หลิวไห่ เขาได้ยินเสียงกระดูกแตก เสียงเลือดสาดกระเซ็นของตน ทำให้เขาส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด
พริบตานั้นกู้หลิวไห่รู้สึกเพียงว่าตนกำลังจะตายแล้ว!
และในสายตาของทุกคนที่โลกภายนอก ภายใต้ฝ่ามือนั้นของหลินสวิน กู้หลิวไห่ถูกตบจนเละ ทั้งร่างถูกทุบลงกับพื้น เลือดเนื้อไม่เหลือสภาพ ร่างกายแตกหัก
พื้นดินบริเวณนั้นพังทลายเป็นโกรกธารขนาดใหญ่ รูปทรงรอยฝ่ามือ
ภาพที่เผด็จการนี้ทำให้ระดับอมตะเหล่านั้นยังสติหลุดเล็กน้อย
บุคคลแห่งยุคที่จัดอยู่ในสิบยอดมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิแห่งน่านฟ้าที่เจ็ด ถูกฝ่ามือเดียวกำราบง่ายๆ เช่นนี้หรือ
นี่น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ทั่วลานมรรคเงียบกริบ
พวกตงหวงฉยง ฉีทิงจื่อต่างขมวดคิ้วไม่หยุด
แน่นอนว่ากู้หลิวไห่ไม่ใช่คนธรรมดา แต่กลับถูกกำราบเช่นนี้ ความแข็งแกร่งของพลังต่อสู้ที่หลินสวินเผยออกมาเหนือความคาดหมายของพวกเขาไปแล้ว
และสำหรับเรื่องนี้ จวินหวนเพียงยิ้มด้วยท่าทางผ่อนคลายเท่านั้น
การต่อสู้ครั้งนี้ควรเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว
ในฝุ่นควันที่จางหายไป
กู้หลิวไห่ที่ร่างกายแตกหักเปื้อนเลือด น่าอนาถอย่างที่สุด กลับค้นพบกะทันหันว่าตนยังไม่ตาย และยังไม่ถูกคัดออก
นี่ทำให้เขาอดประหลาดใจไม่ได้
ก็เป็นตอนนี้เองที่เสียงราบเรียบของหลินสวินดังขึ้น
“ก่อนหน้านี้ข้าบอกแล้วว่าเจ้ารั้งข้าไว้ไม่ได้ น่าเสียดายที่ศักยภาพของเจ้าอ่อนแอเกินไป ฐานะก็ไม่เพียงพอ รายชื่อสามคนในมือข้า… จะให้เจ้าง่ายๆ ไม่ได้”
กู้หลิวไห่อึ้งงัน
หมายความว่าอย่างไร
ตนไม่มีคุณสมบัติให้หลินสวินเตะออกจากการทดสอบด้วยซ้ำหรือ
การเย้ยหยันที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้ราวกับมีดที่แทงเข้าไปในใจของกู้หลิวไห่อย่างแรง ภาพตรงหน้าพลันดำมืด ฟ้าพลิกดินหมุน
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์