Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2692

สรุปบท ตอนที่ 2692 ความสิ้นหวังของหกต่อหนึ่ง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 2692 ความสิ้นหวังของหกต่อหนึ่ง – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2692 ความสิ้นหวังของหกต่อหนึ่ง ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 2692 ความสิ้นหวังของหกต่อหนึ่ง

คำพูดของหลินสวิน โลกภายนอกไม่ได้ยิน

แต่ใครก็ดูออกว่าเขาไม่ได้ลงมือทำให้กู้หลิวไห่ซึ่งไร้พลังตอบโต้แล้วถูกคัดออก

นี่แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นความเมตตาที่เกิดขึ้นมากะทันหัน

ควรรู้ว่านี่เป็นการทดสอบเพื่อรับผู้สืบทอดของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด สำคัญเพียงใด ในการทดสอบรอบที่หนึ่งต้องเอาชนะคู่ต่อสู้สามคนจึงจะผ่านด่าน

สำหรับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิทุกคน ย่อมไม่มีทางพลาดโอกาสทำให้คู่ต่อสู้ถูกคัดออก

แต่หลินสวินกลับไม่ได้ทำเช่นนี้

นี่ทำให้ผู้ฝึกปราณที่ชมการต่อสู้อยู่ที่โลกภายนอกเงียบงัน

“หลินสวินคงไม่ได้ทำเช่นนี้เพราะดูถูกกระมัง หรือจะพูดว่าเขามีจุดประสงค์อื่น”

มีคนอดส่งเสียงไม่ได้

ในที่นั้นเงียบไปอีกครั้ง

ผู้ฝึกปราณหลายคนมองหน้ากัน ล้วนเดาความตั้งใจของหลินสวินออกไม่มากก็น้อย

เพียงแต่คำตอบนี้กลับทำให้พวกเขารู้สึกตะลึง ไม่กล้าด่วนสรุป

“หากเป็นเช่นนี้จริง หลินสวินก็บ้าบิ่นเกินไปแล้ว ทุกคนมองว่านี่เป็นการทดสอบ เขากลับมองการทดสอบเป็นโอกาสเอาชนะคู่ต่อสู้ นี่ช่าง…”

มีเสียงพึมพำแฝงความสะท้านสะเทือนดังขึ้น

บรรยากาศที่เงียบงันในที่นั้นเริ่มไหวเคลื่อน คนไม่รู้เท่าไรถึงขั้นจุ๊ปาก

ส่วนขุมอำนาจอย่างตระกูลตงหวง ตระกูลจงหลี ตระกูลฉี ตระกูลมู่ที่มองหลินสวินเป็นศัตรู ตอนนี้สีหน้าต่างอึมครึม

ผู้สืบทอดคีรีดวงกมล เย่อหยิ่งเพียงใด!

แม้จะไม่ชอบใจ แต่เมื่อเห็นความพ่ายแพ้ของกู้หลิวไห่ พวกเขาต่างตระหนักได้แล้วว่าหลินสวินเป็นคนที่รับมือยาก หมายจะให้เขาถูกคัดออกเกรงว่าคงไม่ง่าย

โชคดีที่นี่เป็นเพียงการทดสอบรอบที่หนึ่ง และยังมีเวลาอีกมาก

แม้ตอนนี้จะปรากฏสถานการณ์เหล่านี้ พวกเขาก็ยังไม่ถึงขั้นวุ่นวายอลม่านเพราะเหตุนี้

……

หลินสวินไม่ได้ทำให้กู้หลิวไห่ถูกคัดออก แต่ก็ไม่ได้ปล่อยเขาไปง่ายๆ เช่นนั้น

ไม่นานสมบัติบนร่างของกู้หลิวไห่ก็ถูกหลินสวินกวาดไปหมด จากนั้นกำราบเขาเข้าไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

ทำทั้งหมดนี้เสร็จหลินสวินจึงจากไปอย่างผ่าเผย

เห็นดังนี้ผู้คนต่างอึ้งจนอ้าปากค้าง นี่เป็นถึงการทดสอบของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ทำเช่นนี้ได้หรือ

ผู้คนมองไปยังเซียวเหวินหยวนที่ยืนนิ่งอยู่หน้าวังกระบี่หมื่นยอดตามจิตใต้สำนึก

การทดสอบรอบที่หนึ่งมีเซียวเหวินหยวนเป็นผู้คุมการทดสอบ เห็นดังนี้แววตาเขาก็แฝงแววประหลาดเช่นกัน

ครู่หนึ่งเขาไอแห้งๆ คราหนึ่งแล้วถึงยิ้มพูด “อืม กฎการทดสอบไม่ได้กำหนดว่าห้ามทำเช่นนี้ แต่รอการทดสอบจบลง ผู้แข็งแกร่งที่ถูกคู่ต่อสู้จับตัวไปก็ยังสามารถรักษาชีวิตไว้ได้ ลัทธิแรกกำเนิดของเราไม่อนุญาตให้มีการตายเกิดขึ้น”

แม้จะเป็นเช่นนี้ทุกคนก็ยังรู้สึกพิกล

ส่วนพวกผู้อาวุโสตระกูลกู้ต่างโกรธจนหน้าเขียวแล้ว แทบจะกระอักเลือด

กู้หลิวไห่เป็นคนที่พวกเขาฝากความหวังไว้ ใครจะคิดว่าการทดสอบเพิ่งเริ่มต้นก็ถูกหลินสวินใช้วิธีที่ดูหมิ่นเช่นนี้กำราบ สมบัติบนตัวถูกกวาดไปหมด แม้แต่ตัวเขายังถูกขัง นี่กระทบกระเทือนจิตใจเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย

เหล่านี้เป็นเพียงแค่เรื่องเล็ก

การโจมตีกู้หลิวไห่จนพ่ายแพ้ ไม่ได้ทำให้หลินสวินรู้สึกสะใจที่ได้แก้แค้นใดๆ สักนิด

อย่างที่หลินสวินพูดก่อนหน้านี้ เขาไม่อยากมอบรายชื่อหนึ่งในสามคนที่ถูกคัดออกกับกู้หลิวไห่ด้วยซ้ำ

และในใจของหลินสวิน การทดสอบรอบแรกนี้อย่างน้อยต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ที่มีความสำคัญเสียหน่อย จึงจะสามารถปลอบประโลมความชิงชังในใจได้

อย่างตงหวงเซ่าเหวิน มู่จุนอู๋ ฉีชิงซือ…

ล้วนนับว่าเป็นคู่ต่อสู้ประเภทนี้

หลินสวินเคยศึกษาข้อมูลของคู่ต่อสู้แต่ละคนที่บันทึกอยู่ในม้วนหยกสีทอง เป็นมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิเหมือนกัน หากกล่าวถึงด้านพลังปราณ ระยะห่างระหว่างกันมีน้อยมาก

ทว่าความแตกต่างของอภินิหารพรสวรรค์ วิชาต่อสู้ที่ครอบครอง รวมถึงสภาวะจิต เจตจำนง ประสบการณ์ต่อสู้ที่ต่างกัน ทำให้พลังต่อสู้ไม่เหมือนกันโดยสมบูรณ์

ฝึกปราณมาถึงตอนนี้ ในระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิ คู่ต่อสู้ที่พอสู้ได้เท่าที่หลินสวินเคยเจอ ก็มีเพียงเย่ฉุนจวินผู้สืบทอดยอดเขาที่เก้าคนเดียวเท่านั้น

และมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิร้อยกว่าคนในการทดสอบครั้งนี้ เกรงว่าจะมีคู่ต่อสู้ไม่กี่คนที่สามารถเทียบกับเย่ฉุนจวินได้

กล่าวง่ายๆ ก็คือ ในระดับนี้ ในการทดสอบครั้งนี้ หลินสวินไม่กลัวใครทั้งนั้น!

ดังนั้นเขาจึงกล้าไม่ปิดบังกลิ่นอายของตนเองสักนิด

……

การต่อสู้ระหว่างหลินสวินและกู้หลิวไห่ใช้เวลาเพียงไม่กี่พริบตาเท่านั้น แต่ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นก็ดึงดูดระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิจำนวนไม่น้อยให้มาเยือน

ไม่นานมีเงาร่างหลายร่างทยอยมาถึง มีทั้งชายและหญิง

ยามเห็นสนามรบที่ว่างเปล่า หลายคนนัยน์ตาหดรัด เผยสีหน้าตกใจ เหมือนคิดไม่ถึงว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะจบลงในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้

เมื่อครู่นี้ใครกันที่ต่อสู้อยู่ที่นี่

ไม่มีใครรู้

ฉับพลันนั้นพวกเขาต่างสบตากัน ล้วนระมัดระวังยิ่งยวด

ไม่นานพวกเขาก็ตัดสินใจแยกย้าย หากเกิดการปะทะกัน จะต้องเกิดเรื่องไม่คาดฝันยิ่งกว่าอย่างแน่นอน

พวกเขาไม่ได้โง่ ย่อมไม่เลือกเข้าปะทะในตอนนี้

ระยะเวลาการทดสอบคือหนึ่งเดือน หลังจากนี้มีโอกาสโจมตีคู่ต่อสู้อีกมาก

ทว่าตอนที่พวกเขาตัดสินใจจะจากไป

หลินสวินที่จากไปก่อนหน้านี้กลับย้อนกลับมาอีกครั้ง ปรากฏตัวในสายตามกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิเหล่านี้

“หลินสวิน!”

“ถึงกับเป็นเจ้าหมอนี่”

“เขาก็ถูกความเคลื่อนไหวของการต่อสู้เมื่อครู่นี้ดึงดูดมาหรือ”

มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิเหล่านี้ต่างเผยสีหน้าประหลาด ยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับ พลังขับเคลื่อนบนตัวโคจรออกมาแล้ว เตรียมพร้อมลงมือ

“ทุกท่าน โอกาสมาแล้ว หรือไม่พวกเราลงมือพร้อมกัน ทำให้เศษเดนคีรีดวงกมลนั่นถูกคัดออกไปก่อนเป็นอย่างไร” มีคนเสนอ

“ได้”

“เยี่ยม”

นี่คือชื่อศาสตราจักรพรรดิบริสุทธิ์ของชายชุดทอง แสงกระบี่ดุจเส้นด้าย มีพลังฟันตัดอันไร้เทียมทาน

“ทะยาน!”

“โอม!”

“ไป!”

…แทบจะในเวลาเดียวกัน มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนอื่นๆ อีกห้าคนก็ออกโจมตี ต่างเผยอภินิหารและสมบัติที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา

ก็เห็นว่ากลางฟ้าดินแถบนั้นแสงสมบัติสว่างไสว วิชามรรคราวกับกระแสน้ำ สมบัติต่างๆ อย่างกระบี่บิน ทวนศึก ประทับมรรค ระฆังทองแดง บรรทัดหยก บาตร ล้วนสาดแสงสีออกมามากมาย เกิดอานุภาพมหัศจรรย์แตกต่างกันไป กดทลายห้วงอากาศ ซัดภูผาธาราจนแหลกละเอียด กลางโลกอันกว้างใหญ่เต็มไปด้วยกระแสพลังที่สามารถทำลายล้างโลกได้

เหล่าผู้ชมการต่อสู้ที่อยู่โลกภายนอกล้วนส่งเสียงอุทานด้วยความตกใจระลอกหนึ่ง อึ้งกับภาพเช่นนี้

มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนเดียวก็สามารถยืนเด่นบนเส้นทางจักรพรรดิได้แล้ว เย่อหยิ่งไร้ศัตรู นับประสาอะไรกับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิหกคนร่วมมือกันในตอนนี้

ภาพนี้สามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิเช่นกันสิ้นหวัง!

ทว่าหลินสวินซึ่งประสบกับการจู่โจมเช่นนี้กลับไม่ได้ถอย สีหน้ายังคงสงบนิ่งและใจเย็นดังเดิม มีเพียงดวงตาลุ่มลึกนั่นที่ปรากฏกลิ่นอายราวกับหุบเหว ทำให้คนหวาดหวั่น

เขาเป็นฝ่ายพุ่งโจมตีเอง

ก้าวออกไปก้าวหนึ่ง พลันนั้นกายมรรคทั้งห้าทะยานออกมา ต่างพุ่งไปทางคู่ต่อสู้พร้อมกับร่างต้นของเขา!

ภาพเหตุการณ์กะทันหันนี้ทำเอาผู้ฝึกปราณทุกคนที่จับตามองดูอยู่ล้วนเบิกตาโพลง

แยกร่างหรือ

ตูม!

ฟ้าพลิกดินตลบ สุริยันจันทราอับแสง

ทันทีที่เปิดฉากต่อสู้ มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิหกคนนั้นก็ตระหนักได้ถึงความสิ้นหวังบางอย่าง

เปรี๊ยะ!

ด้ายเขียวกระบี่บินของชายชุดทอง ทันทีที่ถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งสัมผัส ก็ถูกกระแทกแตกออก แหลกละเอียดไปทั้งหมด

ไม่รอเขาตอบสนอง กระบี่มรรคในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งก็ทะยานออกมา ใช้พลังอันกร้าวแกร่งบดขยี้พลังป้องกันทั้งหมดที่อีกฝ่ายใช้ออกมาเป็นผุยผง

สุดท้ายพร้อมๆ กับเสียงร้องเจ็บปวด ชายชุดทองถูกแหวกอกผ่าท้อง เลือดสาดกลางอากาศ!

แต่ไม่ได้ถูกคัดออก

และยามเขาถูกทำร้ายจนบาดเจ็บรุนแรง ก็ถูกหลินสวินยื่นมือไปจับและยัดเข้าเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง

มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิคนหนึ่ง ถูกกำราบไปเช่นนี้!

ทั้งหมดใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น!

นี่น่าทึ่งยิ่งกว่ายามเอาชนะกู้หลิวไห่เมื่อครู่อย่างไม่ต้องสงสัย ไม่กล้าเชื่อสายตายิ่งแล้ว

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

และยามมองกูบริเวณอื่นๆ ในสนามรบ ร่างแยกของหลินสวินสำแดงอานุภาพที่ไม่ด้อยกว่าร่างต้น โจมตีรุนแรง ใช้ท่าทีประหนึ่งการบดขยี้กดข่มจนคู่ต่อสู้เงยหน้าไม่ขึ้น แม้แต่โอกาสจะหนียังไม่มี!

“นี่ไม่ใช่ร่างแยกมหามรรค แต่เป็นร่างแยกกายมรรคที่เหมือนกับ ‘กายสี่ลักษณ์เก้าวิญญาณ’ มรดกชั้นสูงของตระกูลฝู แต่ละร่างล้วนมีพลังต่อสู้ที่ไม่ขึ้นอยู่กับร่างต้น!”

เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งร้องออกมาอย่างตกใจ ไม่อาจเยือกเย็นได้

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์