Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2704

สรุปบท ตอนที่ 2704 ดำเนินตามกฎ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2704 ดำเนินตามกฎ – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2704 ดำเนินตามกฎ ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2704 ดำเนินตามกฎ

การทดสอบรอบที่สองดำเนินต่อไป

เพียงแต่หลังผ่านการโจมตีครั้งใหญ่ที่หลินสวินเอาชนะลี่จงหย่วน แม้ว่าการประลองถัดจากนี้จะยังคงเรียกได้ว่าดุเดือดและอลังการ แต่ทุกคนมักรู้สึกว่าค่อนข้างจืดชืดจำเจ

จนกระทั่งหลายชั่วยามให้หลัง

การทดสอบรอบที่สองสิ้นสุดลง ในบรรดายี่สิบเจ็ดคนที่เข้าร่วมการทดสอบ มีคนผ่านการทดสอบทั้งหมดสิบหกคน อีกสิบเอ็ดคนถูกคัดออก

การทดสอบรอบที่สามจะเริ่มในอีกหนึ่งวันให้หลัง

วังกระบี่หมื่นยอด

ภายในโถงรับรองชั้นที่หนึ่ง มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิสิบหกคนอย่างพวกหลินสวินถูกจัดให้เข้าไปพักผ่อนในโถงรับรองที่แตกต่างกัน

หอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดจัดเตรียมโอสถเทพรักษาอาการบาดเจ็บและของจำเป็นสำหรับการฝึกปราณไว้ให้ทุกคนโดยเฉพาะ โอสถเทพและทรัพยากรฝึกปราณเหล่านั้นล้วนเป็นสมบัติล้ำค่าหายากในโลกภายนอก

ฟู่!

ในโถงหนึ่งในนั้น หลินสวินถอนหายใจยาว รู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว

ท่าทีที่หอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดแสดงออกในการทดสอบรอบที่สองทำให้เขาเบาใจโดยสิ้นเชิง

อย่างน้อยนี่ก็หมายความว่าขอเพียงกลายเป็นผู้สืบทอดหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ก็ไม่ต้องสนใจภัยคุกคามจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะอีกต่อไป

แต่หลินสวินก็รู้ดีว่าภายในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดมีคนใหญ่คนโตจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะ คนจากขุมอำนาจศัตรูเหล่านี้ไม่มีทางนิ่งดูดายเป็นแน่

และนี่ก็หมายความว่า วันเวลาภายหน้าที่เขาอยู่ในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดย่อมไม่มีทางสงบสุข

แต่หลินสวินไม่สนใจเรื่องพวกนี้

เขาไม่เชื่อว่าภายในลัทธิแรกกำเนิด ใครจะใจกล้าถึงขั้นลงมือสังหารตนเองกับมือ!

“สหายน้อย ขอคุยเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่”

ทันใดนั้นเสียงของเซียวเหวินหยวนดังขึ้นจากนอกโถง

หลินสวินอึ้งไป จากนั้นหยัดตัวลุกขึ้นต้อนรับเซียวเหวินหยวนที่ยืนอยู่ให้เข้ามา

“วันนี้ต้องขอบคุณผู้อาวุโสยิ่งนักที่กล่าวทวงความเป็นธรรม โปรดรับการคารวะจากผู้น้อย”

หลินสวินโค้งคารวะก่อนโดยไม่เอ่ยถามจุดประสงค์การมาของเซียวเหวินหยวน กล่าวขอบคุณจากใจ

เซียวเหวินหยวนอึ้งไป ยิ้มกล่าว “วันนี้สิ่งที่ข้า รองหัวหน้าหอฟาง และผู้อาวุโสหลีเจินปกป้อง คือกฎของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ไม่ใช่การออกหน้าแทนเจ้า”

หลินสวินกล่าว “ข้าเข้าใจ”

ทั้งคู่นั่งลง กล่าวถามทุกข์สุขกันครู่หนึ่ง เซียวเหวินหยวนถึงเอ่ยว่า “หากไม่ผิดคาด ผู้แข็งแกร่งที่ผ่านการทดสอบรอบที่สองทั้งสิบหกคนอย่างพวกเจ้า ล้วนสามารถผ่านการทดสอบรอบที่สามได้อย่างราบรื่น”

“และเพราะเป็นเช่นนี้ พวกตงหวงฉยงจึงเลือกประท้วงเจ้าในการทดสอบรอบที่สอง”

เป็นประโยคปุบปับ แต่หลินสวินคิดๆ ดูก็ไม่แปลกใจนัก

การทดสอบรอบที่สามชื่อว่า ‘เมฆครามฝากชื่อ’

ยามนั้นขอเพียงสามารถใช้พลังเจตจำนงของตนฝากชื่อไว้ในบริเวณสามพันจั้งเหนือวังกระบี่หมื่นยอดได้ ก็เท่ากับผ่านการทดสอบแล้ว

หากไม่สามารถไปถึงบริเวณสามพันจั้งเหนือวังกระบี่หมื่นยอดก็จะถูกคัดออก

จากความเข้าใจของหลินสวิน คนที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมการทดสอบรอบที่สามครั้งนี้เหมือนเช่นเขา แทบไม่ต้องกังวลว่าจะเสี่ยงถูกคัดออกด้วยซ้ำ

และนี่ก็หมายความว่า พวกตงหวงฉยง ฉีทิงจื่อไม่มีโอกาสประท้วงเขาในการทดสอบรอบที่สามสักนิด

ดังนั้นพวกเขาได้แต่ทำเช่นนี้ในการทดสอบรอบที่สอง!

เซียวเหวินหยวนกล่าว “เดิมทีเจ้ายังไม่ใช่ผู้สืบทอดหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดอย่างแท้จริง ไม่อาจบอกคำพูดเหล่านี้แก่เจ้า แต่ในเมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว เรื่องบางอย่างเจ้าเองก็น่าจะรู้ดี”

ในใจหลินสวินเย็นวาบ กล่าวว่า “ผู้อาวุโสโปรดแถลงไข”

เซียวเหวินหยวนคิดครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ลัทธิแรกกำเนิดของพวกเรารู้ว่าเจ้าจะมาเข้าร่วมการทดสอบครั้งนี้ตั้งแต่สามปีก่อนแล้ว หรือกล่าวได้ว่า พวกเรารู้เรื่องนี้ก่อนเจ้าก้าวหนึ่งเสียอีก”

หลินสวินรู้สึกแปลกใจทันที ลอบกล่าวในใจ หรือว่านี่เป็นสิ่งที่ศิษย์พี่สามเป็นคนจัดการไว้แล้วล่วงหน้า

“เจ้าแค่ต้องจำไว้ว่า เป็นเพราะรู้ว่าเจ้าจะมาเข้าร่วมการทดสอบ เรื่องนี้จึงก่อให้เกิดคลื่นลมและข้อถกเถียงใหญ่โตภายในลัทธิแรกกำเนิด”

เซียวเหวินหยวนกล่าว “มีคนมากมายคัดค้าน คิดว่าเจ้าเป็นตัวหายนะ จะนำความวุ่นวายมาสู่ลัทธิแรกกำเนิด”

“และมีคนมากมายคิดว่าเรื่องของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด ต้องใช้กฎของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดมาตัดสิน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหรือผู้เข้าร่วมการทดสอบคนอื่นๆ ขอเพียงกลายเป็นผู้สืบทอดหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิด นั่นก็คือคนของลัทธิแรกกำเนิด”

หลินสวินเอ่ย “หรือกล่าวได้ว่า เพราะสองจุดยืนนี้ทำให้ภายในลัทธิแรกกำเนิดแบ่งออกเป็นสองฝ่ายหรือ”

เซียวเหวินหยวนยิ้ม “เรื่องราวมีหรือจะง่ายดายเช่นนี้ มีคนกอดอกดูอยู่ด้านข้าง ไม่ได้แสดงจุดยืนอะไรออกมา และมีคนไม่พอใจกับภัยเงียบและปัญหาเรื้อรังบางอย่างที่มีอยู่ในตอนนี้ของลัทธิแรกกำเนิดนานแล้ว และหวังให้มีตัวก่อกวนเหมือนอย่างเจ้าโผล่มา จะได้กวนน้ำให้ขุ่น เช่นนี้จึงจะสามารถอาศัยโอกาสไปกำจัดภัยเงียบและปัญหาเรื้อรังบางส่วนได้”

เซียวเหวินหยวนนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอย่างใคร่ครวญว่า “สรุปแล้วสำหรับการมาของเจ้า ทุกคนต่างมีความคิดและข้อพิจารณาของตัวเอง”

หลินสวินรู้สึกรับมือยากทันควัน ทุบหัวจนแตกก็คิดไม่ถึงว่าการมาของตนจะถึงกับเรียกคลื่นลมขึ้นในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดได้ขนาดนี้

หลังใคร่ครวญครู่หนึ่ง เขาเอ่ยถามว่า “เช่นนั้นตามความเห็นของผู้อาวุโส หากข้ากลายเป็นผู้สืบทอดหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดจริงๆ ควรจะทำตัวอย่างไร”

คำตอบของเซียวเหวินหยวนง่ายดายยิ่ง มีเพียงประโยคสั้นๆ ว่า “กระทำตามกฎ”

หลินสวินไตร่ตรองคร่าวๆ และเข้าใจทันควัน ไม่ว่าพวกคนใหญ่คนโตของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดเหล่านั้นจะคิดเห็นอย่างไร ขอเพียงตนไม่ละเมิดกฎระเบียบของหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดก็ไม่มีใครทำอะไรตนได้!

“ขอบคุณผู้อาวุโสยิ่งนักที่ชี้แนะ”

หลินสวินกล่าวพลางประสานหมัดคารวะ

ด้วยความสามารถของอวิ๋นเทียนหมิง หากคิดกลั่นแกล้งและปองร้าย หมายจัดการผู้สืบทอดที่เพิ่งเข้าสำนักอย่างเขา เช่นนั้นก็ยากจะป้องกันอย่างแน่นอน

และด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ ในยอดเขาอื่นๆ ก็รับรองได้ยากว่าจะไม่เกิดเรื่องราวทำนองนี้ขึ้น

หากยอดเขาที่เก้าไม่มีเรื่องยุ่งเหยิงวุ่นวายอย่างที่เซียวเหวินหยวนว่าจริง ต่อให้อยู่ลำดับรั้งท้ายในบรรดาเก้ายอดเขาใหญ่ หลินสวินก็เต็มใจไป!

เช้าวันรุ่งขึ้น

บนลานมรรคใหญ่หน้าวังกระบี่หมื่นยอด ผู้แข็งแกร่งสิบหกคนอย่างพวกหลินสวินรออยู่ที่นั่นแล้ว

วันนี้พวกเขาจะเริ่มการทดสอบรอบที่สามแล้ว!

การทดสอบครั้งนี้ง่ายดายยิ่ง ต่างจากการทดสอบก่อนหน้านี้ ไม่ใช่การต่อสู้และเข่นฆ่า หากแต่เป็นการทดสอบด้านมรรควิถีและพลังเจตจำนง

พลังผนึกด้านนอกของวังกระบี่หมื่นยอดในเวลานี้ถูกกำจัดไปแล้ว เผยให้เห็นลักษณะแท้จริงของวังกระบี่หมื่นยอด

สิ่งก่อสร้างดุจกระบี่เทพแห่งนี้ ทั่วตัวเรือนปรากฏกลิ่นอายประหนึ่งแรกกำเนิดอมตะ เมื่อไม่มีการบดบังของพลังผนึก กลิ่นอายที่มันปลดปล่อยออกมากดดันจนคนไม่น้อยในที่นี้ล้วนอึดอัด

แม้จะเป็นระดับอมตะยังไหวหวั่นไม่หยุด

ลือกันว่าตัวเรือนของวังกระบี่หมื่นยอดแห่งนี้เป็นกระบี่คู่ใจของหัวหน้าลัทธิแรกกำเนิด ก่อนหน้านี้นานมากแล้ว เพราะไอสังหารที่แปดเปื้อนกระบี่นี้ร้ายแรงเกินไปจึงถูกหัวหน้าลัทธิแรกกำเนิดผนึกไว้ที่นี่เองกับมือ

ถึงขั้นมีข่าวลือว่าอันที่จริงทั่วทั้งเมืองเทพหมื่นยอดก็สร้างขึ้นเพื่อกำราบกระบี่นี้!

แหงนมองจากลานมรรค วังกระบี่หมื่นยอดสูงเสียดฟ้าราวหมื่นจั้งเต็ม ทั่วตัวเรือนแผ่ไอแรกกำเนิดขุ่นมัวคลุมเครือ ลึกลับทำให้คนพรั่นใจ

สูงขึ้นไปเกินสามพันจั้ง เมฆาครามมหามรรคลอยเอื่อยเป็นปุยๆ เบียดเสียดเนืองแน่น แต่ยิ่งสูงขึ้นไป จำนวนของเมฆาครามมหามรรคนั่นยิ่งลดน้อยลง

เมฆาครามมหามรรคแต่ละก้อนล้วนเป็นสิ่งที่ผู้เข้าลัทธิแรกกำเนิดหน้าใหม่แต่ละคนฝากทิ้งไว้ในกาลเวลาที่ผ่านมา ถูกประทับไว้ที่นี่ คงอยู่จนถึงบัดนี้

การทดสอบรอบที่สามอยู่สูงขึ้นไปสามพันจั้งเหนือวังกระบี่หมื่นยอด ใช้พลังเจตจำนงในตัวควบรวมเมฆาครามมหามรรค ฝากชื่อไว้บนนั้น!

ฟางเต้าผิงกล่าวกำชับ “ผู้อาวุโสตงหวงชิง การทดสอบรอบที่สามนี้ให้เจ้าเป็นผู้ดูแลหลัก”

ตงหวงชิงดำเนินการตามคำสั่ง กวาดสายตามองพวกหลินสวินสิบหกคนแล้วกล่าวด้วยสีหน้าขึงขัง “กฎการทดสอบพวกเจ้ารู้ชัดแล้ว จำไว้ ไม่ว่าใครล้วนมีโอกาสเพียงครั้งเดียว หวังว่าพวกเจ้าจะไม่ประมาท”

“การทดสอบเริ่มต้น ณ บัดนี้!”

ฟึ่บ!

สายตาทุกคนที่อยู่นอกลานล้วนหันมองโจวจือจือเป็นจุดเดียว

การทดสอบรอบแรก เขาผ่านด่านเป็นคนแรก การทดสอบรอบที่สอง เขาก็ลงสนามต่อสู้ตัดสินเป็นคนแรกเช่นกัน

และตอนนี้ เขาจะกลายเป็นผู้เข้าสู่การทดสอบรอบที่สามเป็นคนแรก

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์