Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2703

ตอนที่ 2703 ประท้วง

ลี่จงหย่วนแพ้แล้ว

เขาเป็นผู้เฝ้าด่านเพียงคนเดียวที่ถูกเอาชนะตั้งแต่การทดสอบรอบที่สองดำเนินจนบัดนี้

ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาผู้เฝ้าด่านเก้าคน!

สำหรับเก้ายอดเขาใหญ่ของลัทธิแรกกำเนิด ก็หมายความว่ามกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิที่อยู่ในสิบอันดับแรกของศิษย์แกนหลักคนนี้พ่ายแพ้แล้ว

พ่ายแพ้ด้วยน้ำมือมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิที่ยังไม่ได้เป็นผู้สืบทอดหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดอย่างหลินสวิน!

ก่อนหน้านี้มีคนคิดว่าหลินสวินจะสามารถยืนหยัดได้ถึงครึ่งเค่อ และผ่านการทดสอบครั้งนี้ ถึงอย่างไรความสามารถในการทดสอบรอบแรกของเขาก็เรียกได้ว่าโดดเด่นเฉิดฉาย

และมีคนเคยคิดว่าแม้หลินสวินจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็อาจจะแค่พอฟัดพอเหวี่ยงกับลี่จงหย่วน

ทว่ากลับไม่มีใครคิดว่าหลินสวินจะเอาชนะผู้เฝ้าด่านที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างลี่จงหย่วนในการประลองครั้งนี้!

เก้าหมัดที่เรียกได้ว่าทำลายได้ทุกอย่างนั่น ไม่เพียงเอาชนะลี่จงหย่วน ยังทะลวงสภาวะจิตของเขาอีกด้วย หากไม่เพราะหลีเจินส่งเสียงมรรคเข้าปกป้องในช่วงวิกฤต ผลที่ตามมาย่อมไม่อาจจินตนาการ

เวลานี้ทั่วลานเงียบกริบไร้สรรพเสียง

ผู้คนต่างอึ้งค้างอยู่ตรงนั้น แม้แต่คนใหญ่คนโตระดับอมตะเหล่านั้นยังเงียบงัน ภายในใจก็ไม่อาจสงบได้อยู่นาน

เย่ฉุนจวินมองเห็นการต่อสู้นี้อยู่ในสายตา

ในใจเขาสะเทือนไหวยิ่ง ผุดความรู้สึกขมขื่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าการก้มหัวยอมแพ้ในเขตผนึกเร้นในตอนนั้นไม่ได้อดสู

ถึงขั้นที่เขายังอดรู้สึกไม่ได้ ว่าโชคช่วยที่ครั้งนี้คู่ต่อสู้ของหลินสวินไม่ใช่ตน

หาไม่เกรงว่าคนที่แพ้ครั้งนี้คงไม่ใช่ลี่จงหย่วนแล้ว

และเวลานี้ในใจหลินสวินรู้สึกเสียดายหน่อยๆ

หลังจากอีกฝ่ายสำแดงการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด เดิมเขาตั้งใจจะทำลายสภาวะจิตของอีกฝ่ายในคราวเดียว แต่เห็นชัดยิ่งว่าหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดไม่อนุญาตให้ทำเช่นนี้

การลงมือทันเวลาของหลีเจินช่วยให้ลี่จงหย่วนคงสภาพจิตมรรคไว้ได้อย่างไร้รูป

ถึงอย่างไรก็เป็นผู้สืบทอดแกนหลักยอดเขาที่สอง มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิที่สามารถขั้นสู่สิบอันดับแรกของเก้ายอดเขาใหญ่ได้ หากถูกทำลายทั้งอย่างนี้ เกรงว่าหลีเจินคงไม่อาจชี้แจงกับสำนักได้

แต่หลินสวินก็รู้ดีว่าแม้สภาวะจิตของลี่จงหย่วนจะไม่แหลกสลาย แต่กลับทิ้งเงาทะมึนเอาไว้แล้ว นี่สามารถทำให้เขาติดขัดยามแจ้งมรรคอมตะได้!

หลินสวินไม่ได้คิดมากอีก ตัดสินใจจากไป

ทว่าก็เป็นเวลานี้เอง บรรยากาศเงียบกริบกดดันในที่นี้ถูกเสียงแก่ชราเย็นชาสายหนึ่งทำลายลง

“หุบเหวกลืนกิน! เจ้าคือทายาทของลั่วทงเทียน!”

คนที่เอ่ยพูดคือตงหวงฉยง เขาสีหน้าเขียวคล้ำ ไอสังหารกลางนัยน์ตาเดือดปะทุ

หินก้อนเดียวทำให้เกิดคลื่นนับพันชั้น

ทั่วลานฮือฮาทันที เกิดความปั่นป่วนขึ้น

ลั่วทงเทียน!

เจ้าแห่งมรรคาสวรรค์!

ใครไม่รู้บ้างว่าปีนั้นในน่านฟ้าที่เจ็ด คนผู้นี้ถึงขั้นกล้างัดข้อกับยักษ์ใหญ่เทียมฟ้าอย่างสิบยักษ์ใหญ่อมตะแห่งน่านฟ้าที่แปด

โดยเฉพาะอภินิหารพรสวรรค์ของเขายิ่งเกี่ยวโยงไปถึงกฎเกณฑ์เวลาที่ประหนึ่งของต้องห้าม ก่อนหน้านี้นานมาแล้วเคยทำให้ศัตรูตัวฉกาจเจ็บแค้นไม่รู้เท่าไร!

“ผู้สืบทอดคีรีดวงกมล ทายาทลั่วทงเทียน… เขา… เป็นใครกันแน่”

มีคนสะท้านสะเทือนยากจะเชื่อ

ผู้สืบทอดคีรีดวงกมล ถูกสิบยักษ์ใหญ่อมตะมองเป็นศัตรูร่วมกัน

ส่วนลั่วทงเทียน ยิ่งถูกสิบยักษ์ใหญ่อมตะสังหาร

แต่หลินสวินคนเดียวกลับมีฐานะสำคัญสองอย่าง ใครจะไม่สะท้านไหวบ้างเล่า

“ที่แท้ก็เป็นพรสวรรค์หุบเหวกลืนกิน…”

คนรุ่นอาวุโสมากมายแววตาเหม่อลอย

ตระกูลลั่วในปีนั้นก็เคยยืนตระหง่านในน่านฟ้าที่เจ็ดแห่งนี้ และเคยมีอดีตที่จรัสตาหาใดเปรียบ เรียกได้ว่าเป็นขุมอำนาจอันดับหนึ่งแห่งน่านฟ้าที่เจ็ด

สาเหตุก็เพราะตระกูลลั่วมีเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์ปกครองดูแล!

ลั่วทงเทียนในเวลานั้นสามารถอยู่เหนือคนนับล้านได้ ความเกรียงไกรในอานุภาพทำให้ระดับอมตะทั่วหล้าล้วนอับแสง!

ในยุคนั้น คนรุ่นเดียวกับลั่วทงเทียนย่อมไร้แสง เพราะต่อให้แข็งแกร่งเพียงใดก็เป็นได้แค่ตัวประกอบของลั่วทงเทียน มีชีวิตอยู่ในเงาของเขา

กล่าวได้ว่าในตอนนั้น ลั่วทงเทียนสามารถเป็นนายเหนือหัวหนึ่งเดียวแห่งระดับอมตะได้!

แต่ภายหลังยักษ์ใหญ่ในตำนานแห่งน่านฟ้าที่เจ็ดคนนี้ กลับตายบนเส้นทางเสาะหาประตูนิรันดร์ และนับแต่บัดนั้นตระกูลลั่วก็ตกต่ำลงมาก ความยิ่งใหญ่ในอดีตล้วนถูกคลื่นลมพัดจากไป!

ตระกูลลั่วในตอนนี้ล้มลุกคลุกฝุ่นอยู่ในน่านฟ้าที่หก เกือบถูกน่านฟ้าที่เจ็ดลืมเลือน

ทว่าในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดแห่งนี้ พรสวรรค์หุบเหวกลืนกินกลับปรากฏขึ้นอีกครั้ง!

ปรากฏบนตัวผู้สืบทอดคีรีดวงกมลคนหนึ่ง นี่จะไม่ให้ผู้คนแปลกใจและตะลึงงันได้อย่างไร

“หุบเหวกลืนกิน เจ้าเดรัจฉานนี่สมควรถูกแล่เนื้อเถือหนังเป็นหมื่นๆ ชิ้น!”

“เป็นตัวหายนะจริงๆ!”

“มิน่าถึงได้รีบร้อนอยากเข้าไปลี้ภัยในหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดขนาดนี้ เกรงว่าตัวหายนะนี่จะรู้ว่าตราบใดที่ฝึกปราณในโลกยอดนิรันดร์ต่อไปฐานะของเขาต้องถูกเปิดโปงแน่นอน เพราะก่อเรื่องเอาไว้มากมาย”

เวลานี้ระดับอมตะอย่างพวกฉีทิงจื่อ จงหลีชง มู่ชางเจี่ยต่างก็เอ่ยพูดเย็นชา

ในฐานะเฒ่าดึกดำบรรพ์แห่งยักษ์ใหญ่อมตะน่านฟ้าที่แปด พวกเขาย่อมมีเหตุผลมากพอจะตั้งตนเป็นศัตรูและว่าร้ายหลินสวิน

ทั่วลานอลหม่าน เริ่มมีสัญญาณว่าจะควบคุมไม่ได้

จวินหวนกำลังจะเอ่ยปากก็เห็นหลินสวินส่ายหน้าเอ่ยห้าม “ศิษย์พี่ ให้พวกเขาเห่าไปเถิด ภายหน้ายามเหยียบทำลายตระกูลพวกเขาค่อยคิดบัญชีพวกเขาทั้งหมด!”

เสียงเย็นเยียบเผยความเด็ดขาด

นี่ทำให้ทุกคนใจสะท้าน นี่ไม่ใช่หมายความว่าหลินสวินใช้ฐานะของผู้สืบทอดคีรีดวงกมลและทายาทตระกูลลั่ว ไปประกาศศึกกับสิบยักษ์ใหญ่อมตะแห่งน่านฟ้าที่แปดหรือ

เขาไม่กลัวถูกแก้แค้นเลยหรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์