Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2721

สรุปบท ตอนที่ 2721 นำแมวขาวมาเป็นหมอน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 2721 นำแมวขาวมาเป็นหมอน – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 2721 นำแมวขาวมาเป็นหมอน ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 2721 นำแมวขาวมาเป็นหมอน

ปีนั้นยามอยู่นอกแดนลับทวยเทพ คงเจวี๋ยถูก ‘กระบี่ตัดมรรค’ ของตระกูลหวังทะลวงอก บาดเจ็บหนักเจียนตาย

ภายหลังถูกหลินสวินเก็บไว้ในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง หลายปีนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวสักนิดมาตลอด

แต่ยามนี้คงเจวี๋ยตื่นแล้ว!

หลินสวินเชิญคงเจวี๋ยออกมาทันที ฝ่ายหลังนั่งขัดสมาธิกับพื้น รับน้ำเต้าสุราที่หลินสวินยื่นมาให้ คว้าน่องสัตว์เหลืองเกรียมมันเยิ้มข้างหนึ่งกินอย่างเอร็ดอร่อย

คงเจวี๋ยผมเผ้ายุ่งเหยิง ทั้งตัวสกปรกมอมแมม แต่หน้าตาท่าทางกลับหล่อเหลาสุภาพ

หลินสวินสำรวจโดยละเอียดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็วางใจ เห็นชัดว่าบาดแผลบนตัวคงเจวี๋ยสมานแล้ว แต่สติของเขายังสับสน ปัญหาด้านสภาวะจิตยังคงอยู่

ซย่าจื้อมองคงเจวี๋ยอย่างสงสัยคราหนึ่ง ไม่ได้เอ่ยถาม

แต่หลินสวินกลับกล่าวอธิบาย “เขาชื่อคงเจวี๋ย เป็นอาจารย์อาของข้า”

ซย่าจื้อพยักหน้าเล็กน้อย ตั้งหน้าตั้งตากินอาหารเลิศรสหลายหลากต่อ

“อาจารย์อา ท่านยังจำข้าได้ไหม” หลินสวินกล่าวหยั่งเชิง

ปีนั้นยามอยู่นอกแดนลับทวยเทพ คงเจวี๋ยเคยฟื้นคืนสติและมรรควิถีกลับมาชั่วขณะ เผยอานุภาพน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขต สังหารบุคคลระดับอมตะพวกนั้นจนเยี่ยวหดตดหาย

เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ยามนั้น ในใจหลินสวินพลันสั่นระรัวอย่างอดไม่ได้

แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังคือคงเจวี๋ยดื่มเหล้ากินเนื้อต่อไป ไม่สนใจเขาโดยสิ้นเชิง

หลินสวินชิงน้ำเต้าสุราของคงเจวี๋ยมาพลางกล่าว “อาจารย์อา ท่านจำข้าไม่ได้จริงหรือ ตอนนั้นข้าเป็นคนพาท่านออกมาจากเมืองจรดฟ้า”

“ดื่มเหล้า ข้าอยากดื่มเหล้า” คงเจวี๋ยร้อนรนแล้ว โวยวายจะชิงน้ำเต้าสุรา

“เช่นนั้นท่านก็ตอบคำถามของข้า แล้วข้าจะให้ท่านดื่มเหล้า” หลินสวินกล่าว

สายตาคงเจวี๋ยประเมินหลินสวินครู่หนึ่ง แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความงุนงงพลางกล่าว “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร แต่ในเมื่อเจ้าเป็นคนพาข้ามา ก็ย่อมไม่มีทางไม่ให้ข้าดื่มเหล้า”

หลินสวินหมดคำพูดไปพักหนึ่ง คืนน้ำเต้าสุราให้คงเจวี๋ย

เขาแผ่จิตรับรู้เข้าไปสำรวจในร่างคงเจวี๋ยเงียบๆ แต่กลับพบว่าในตัวอีกฝ่ายว่างเปล่า ไม่มีมรรควิถีและพลังเลยสักนิด

‘แปลกจริงๆ ดูเหมือนว่าหากไม่อาจฟื้นฟูสภาวะจิตของอาจารย์อาได้ สติกับมรรควิถีของเขาก็ไม่มีทางฟื้นคืนกลับมาแน่…’

หลินสวินใคร่ครวญ

ปีนั้นยามอยู่แดนปรินิพพาน พลังเจตจำนงของอาจารย์เจ้าแห่งคีรีดวงกมลเคยบอกว่า ยามเสาะหามรรคยอดอมตะทำให้สภาวะจิตของคงเจวี๋ยเกิดปัญหา

คิดช่วยเขาฟื้นฟูจิตมรรค แน่นอนว่าต้องแก้ด้วยมรรคยอดอมตะ

นี่ก็หมายความว่าบนโลกนี้คนที่ช่วยคงเจวี๋ยได้ มีแค่หลินสวินเท่านั้น!

เพราะเขาคือหนึ่งบัวเบ่งบานที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลเฝ้ารอมาหมื่นกาล ครอบครองระเบียบนิพพาน ภายหน้าขอเพียงก้าวสู่มรรคาอมตะ ย่อมต้องสัมผัสนัยเร้นลับแห่งมรรคยอดอมตะได้แน่

ก็เหมือนมรรคคาถาที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลกล่าวไว้

ยอดหนทางสู่อมตะ แดนปรินิพพาน

เคราะห์จ่อมจมชั่วกัปกัลป์ หนึ่งบัวเบ่งบาน

ทุกประโยคของมรรคคาถาบทนี้ล้วนแฝงนัยลึกซึ้งยิ่งใหญ่ เกี่ยวข้องกับมรรคาในภายหน้าของหลินสวินอย่างแนบแน่น

“รอภายหน้ายามข้าก้าวสู่มรรคาอมตะ ต้องช่วยอาจารย์อาฟื้นฟูจิตใจได้แน่ อาจารย์เคยบอกว่าภายหน้าให้ข้าพาท่านกลับไปทางเดินโบราณฟ้าดาราด้วย”

หลินสวินเอ่ยเสียงเบา

คงเจวี๋ยเหมือนไม่ได้ยิน กินดื่มต่อไป คล้ายไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหลินสวินกำลังพูดกับเขา

“สุราไม่เลว อาหารเลิศรสก็ไม่แย่ รังเกียจไหมหากข้าจะลองชิมด้วย”

ทันใดนั้นเสียงต่ำลึกเจือความน่าเกรงขามพลันดังขึ้น

หลินสวินตัวแข็งทื่อ ในครรลองสายตาเห็นแมวขาวยักษ์อ้วนพีตัวหนึ่งเดินเข้ามาไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ มันเยื้องย่างแผ่วเบาเหมือนไร้สุ้มเสียง ส่ายหางปุกปุยไปมาเบาๆ

ขณะกล่าวแมวขาวยักษ์นั่งลงด้านข้างแล้ว มันใช้อุ้งเท้าหยิบปลาย่างตัวหนึ่งขึ้นมาละเลียด

หลินสวินในตอนนี้เกร็งไปทั้งตัว ขนลุกไปทั้งร่าง ไม่อาจสงบใจได้อย่างสิ้นเชิง แมวขาวลึกลับตัวนี้มาได้อย่างไร

พลังผนึกรอบถ้ำสถิตถึงกับประหนึ่งไร้ตัวตน!

ซย่าจื้อเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย มองแมวขาวยักษ์ตัวนี้คราหนึ่ง ยังคงไม่พูดจาเหมือนเดิม

ส่วนคงเจวี๋ยก็ไม่มองแมวขาวยักษ์สักนิด ดื่มเหล้าอย่างสำเริงสำราญยิ่ง

“ท่านนี้… ท่านนี้คือผู้อาวุโสคนหนึ่งจากหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดของข้า ไม่ต้องตื่นเต้น” หลินสวินรีบอธิบายให้ซย่าจื้อฟัง

แต่ตัวเขากลับดูตื่นเต้นมาก

ช่วยไม่ได้ แมวขาวยักษ์ที่ดูแล้วมีขนเรียบลื่นส่องประกายนี้ ในตัวกลับมีพลังที่อันตรายถึงชีวิต!

แต่ไม่ว่าจะเป็นซย่าจื้อ คงเจวี๋ย หรือแมวขาวยักษ์ล้วนดูนิ่งสงบนัก ต่างคนต่างกินดื่ม ไม่ก้าวก่ายกัน ถึงกับมีความรู้สึกว่าบรรยากาศดูกลมเกลียวอย่างแปลกประหลาด

ภาพนี้ทำให้หลินสวินมองจนเบิกตากว้าง อึ้งงันอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นจึงนิ่งสงบลงทีละน้อย

ความเป็นมาของแมวขาวยักษ์ย่อมไม่ธรรมดา มันมาครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อกินดื่มแน่ แต่หลินสวินกลับเดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายมาทำไมกันแน่

เพราะซย่าจื้อ?

เพราะอาจารย์อาคงเจวี๋ย?

หรือเพราะระเบียบนิพพาน?

“ยังมีอีกไหม” ซย่าจื้อพลันเอ่ยถาม

อาหารถูกกำจัดไปจนเกลี้ยงแล้ว เมื่อซย่าจื้อเอ่ยปาก คงเจวี๋ยกับแมวขาวยักษ์ก็มองหลินสวินด้วยเช่นกัน

หลินสวินตัวแข็งทื่อเล็กน้อยไปอีกครั้ง กล่าวว่า “แน่นอนว่ามี”

เขาพูดพลางนำอาหารเลิศรสนานัปการที่ตนสะสมไว้หลายปีออกมาทั้งหมด

ต่อให้ในใจหลินสวินมีข้อสงสัยนับไม่ถ้วน แต่ยังอดกลั้นไม่ไปรบกวนอีกฝ่าย

“หลินสวิน”

ครู่ใหญ่แมวขาวยักษ์จึงหันนัยน์ตาเขียวมรกตนั้นมาทางหลินสวิน ทั้งเจือความน่าเกรงขาม

แต่ด้วยถูกคงเจวี๋ยหนุนตัวอยู่ ทำให้ภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขามของมันลดลงไปมากอย่างเห็นได้ชัด

“ผู้อาวุโสมีเรื่องใดชี้แนะหรือ”

หลินสวินกล่าว

“อย่าให้นางกับเขาปรากฏตัวในลัทธิแรกกำเนิด”

แมวขาวยักษ์กล่าว “ต่อให้เจ้ามีระเบียบนิพพานก็ไม่อาจทำเช่นนี้ได้อีก”

หลินสวินนัยน์ตาหดรัดเล็กน้อย ในใจกลับม้วนซัดไม่หยุด ไม่อาจนิ่งสงบได้ ฝึกปราณมาหลายปีขนาดนี้ แมวขาวยักษ์เป็นคนแรกที่มองออกว่าเขามีระเบียบนิพพาน!

“พลังระเบียบของลัทธิแรกกำเนิดนี้เหนือกว่าระดับสวรรค์ ต่อให้ระเบียบนิพพานต้านทานได้ แต่กลับจะทำให้ระเบียบของลัทธิแรกกำเนิดเกิดคลื่นสะเทือน”

เสียงแมวขาวยักษ์ดูน่าเกรงขาม “ครั้งนี้เพราะข้ามา จึงไม่ได้ทำให้คนอื่นสังเกตเห็นร่องรอย แต่ครั้งหน้า… ยากรับรองว่าจะไม่ถูกคนอื่นสังเกตเห็น”

หลินสวินหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย คราวนี้ถึงรู้ว่ายามตนพาซย่าจื้อออกมาจากเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ชักนำให้เกิดการตอบสนองจากระเบียบลัทธิแรกกำเนิด และการต้านทานของระเบียบนิพพาน ดูเหมือนสลายระเบียบลัทธิแรกกำเนิดได้ แต่การเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกตินี้กลับดึงดูดความสนใจของแมวขาวยักษ์

ด้วยเหตุนี้มันจึงถูกชักนำมา!

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่กล่าวเตือน” หลินสวินเอ่ยจริงจัง “แต่ผู้น้อยยังไม่รู้ชื่อเสียงเรียงนามของผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าบอกกล่าวได้หรือไม่”

แมวขาวยักษ์ส่ายหัว “รอภายหน้าค่อยบอกเถอะ เดิมมีแต่รอเจ้าก้าวสู่มรรคาอมตะ ข้าจึงเจอเจ้าได้ ครั้งนี้เป็นเพียงเหตุไม่คาดฝัน”

มันพูดพลางหยัดร่างขึ้น หลุดพ้นจากศีรษะของคงเจวี๋ยที่หนุนตัวอยู่ ลุกขึ้นเดินไปนอกถ้ำสถิต

เห็นชัดว่าคิดจากไปแล้ว

“ผู้อาวุโส”

หลินสวินมีข้อสงสัยสุมอกที่ยังไม่ได้เอ่ยถาม มีหรือจะยอมให้อีกฝ่ายจากไปเช่นนี้

แต่ครู่ต่อมาแมวขาวยักษ์ก็หายไปกลางอากาศ ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอยและกลิ่นอาย

นี่ทำให้หลินสวินจนคำพูดอย่างอดไม่ได้

ในเมื่อรู้จักกับอาจารย์อาคงเจวี๋ยแล้ว ยังต้องทำตัวลึกลับเช่นนี้ด้วยหรือ

ตอนนี้เองเสียงต่ำลึกน่าเกรงขามนั้นของแมวขาวยักษ์ดังขึ้นในใจหลินสวิน ‘หากเจ้าอยากผงาดในลัทธิแรกกำเนิดโดยเร็ว ก็ชิงโอกาสมุ่งหน้าไปฝึกปราณที่หอแรกนภาให้เร็วที่สุด’

‘หอแรกนภา?’ หลินสวินรู้สึกผิดคาดโดยพลัน

‘ทำไมเจ้าถึงโง่เขลาเช่นนี้ เมื่อกลายเป็นรองหัวหน้าหอแรกนภา ก็ไปช่วงชิงตำแหน่งหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ได้เช่นกัน เทียบกับการเข้าไปในหอแรกพิสุทธิ์แล้ว หอแรกนภาให้โอกาสเจ้าได้มากกว่า’ เสียงของแมวขาวยักษ์ดังขึ้นในใจหลินสวินอีกครั้ง

คราวนี้หลินสวินจึงเข้าใจกระจ่าง

…………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์