Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2795

ตอนที่ 2795 หายนะที่ทำนายได้

นอกแดนผนึกเรืองแสง

ตำหนักโอ่โถงหลายหลังตั้งตระหง่านอยู่ อาบอยู่ในแสงดารา ดูศักดิ์สิทธิ์และน่าเกรงขาม

ตั้งแต่สองสามีภรรยาลั่วชิงสวินถูกขังอยู่ในแดนผนึกเรืองแสง ขุมอำนาจสามเผ่าเทพชั้นยอดกับตระกูลฉินก็สร้างตำหนักมากมายที่นี่ ประจำการในบริเวณฟ้าดาราใกล้เคียง

หลายปีมานี้สามเผ่าเทพชั้นยอดกับตระกูลเผ่าฉินต่างส่งคนใหญ่คนโตที่เทียบได้กับขั้นหลุดพ้นสองคนมาประจำการที่นี่

หรือพูดอีกอย่างก็คือ นอกแดนผนึกเรืองแสงแห่งนี้มีผู้ยิ่งใหญ่ขั้นหลุดพ้นดูแลอยู่แปดคน!

นี่เป็นกำลังพลที่น่ากลัวยิ่ง สร้างความหวาดหวั่นให้ขุมอำนาจเผ่าเทพจำนวนมากในแหล่งสถานศุภโชคได้ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ตระกูลฉินยังส่งผู้ฝึกปราณสามร้อยคนมาประจำการ คอยดูแลผู้ยิ่งใหญ่ขั้นหลุดพ้นแปดคนนี้โดยเฉพาะ

ฟ้าดาราเวิ้งว้างเงียบสงัด แดนผนึกเรืองแสงที่อยู่ไกลออกไปอบอวลด้วยกลิ่นอายขุ่นมัวแรกกำเนิด รัศมีแสงแสบตายาวหลายพันจั้งสายแล้วสายเล่าฉายวาบเป็นครั้งคราว คล้ายสายฟ้าเรียวยาวเจิดจ้าเป็นสายๆ

นั่นคือพลังแห่งกาลเวลา!

ทั้งแดนผนึกเรืองแสงถูกกระแสเวลาอันปั่นป่วนปกคลุม น่ากลัวถึงขีดสุด

ทว่าตั้งแต่ช่วงเกือบสองร้อยปีที่คู่สามีภรรยาลั่วชิงสวินถูกขังอยู่นี้ นอกแดนผนึกเรืองแสงกลับเงียบสงบเป็นอย่างยิ่ง ไม่เกิดคลื่นลมแต่อย่างใด

อันที่จริงหากมีคนใหญ่คนโตขั้นหลุดพ้นแปดคนอยู่ที่นี่ มองไปทั้งแหล่งสถานศุภโชค เกรงว่าคงมีไม่กี่คนที่กล้ามาหาเรื่อง

“สหายยุทธ์ทุกท่าน ข้าเกิดสังหรณ์บางอย่างจึงได้ใช้วิชาลับทำนายดู และทำนายเจอลางหายนะบางอย่าง เกรงว่าช่วงใกล้ๆ นี้จะเกิดเรื่องใหญ่ จึงขอเชิญทุกท่านมาพูดคุย”

วันนี้จู่ๆ ก็มีเสียงชราแหบแห้งหนึ่งดังขึ้นในส่วนลึกของตำหนักหนึ่งในแดนผนึกเรืองแสง

ทันใดนั้นกลิ่นอายน่าครั่นคร้ามสายแล้วสายเล่าผุดขึ้นกลางฟ้าดารา ต่างพุ่งไปยังตำหนักหลังนั้นอย่างฉับไว

ส่วนลึกของตำหนักนี้ ผู้ยิ่งใหญ่สองคนอย่างเหลียงชิวสุ่ย เหลียงชิวอวิ๋นนั่งขัดสมาธิอยู่บนเบาะรองนั่ง

คนที่เอ่ยปากก่อนหน้านี้คือเหลียงชิวสุ่ย เขามีผมและเคราหนวดดุจหิมะ ใบหน้าซูบตอบ มือถือบรรทัดหยกสีดำที่มีกลิ่นอายหม่นทะมึนเล่มหนึ่ง

เหลียงชิวอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ ร่างผอมแห้ง รอยย่นแน่นเต็มใบหน้า แต่งกายชุดดำทั้งชุด ทั้งร่างมีหนาวเยือกเสียดกระดูกเป็นริ้วๆ โอบล้อม

พวกเขามาจากเผ่าเทพตระกูลเหลียงชิวแห่ง ‘ยุคมรรคราชัน’ ในอารยธรรมยุคสมัยนับร้อยแห่งของแหล่งสถานศุภโชค รากฐานพลังและอำนาจของตระกูลเหลียงชิวสามารถจัดอยู่ในห้าอันดับแรก!

พวกเขามาจากเผ่าเทพตระกูลเหลียงชิวแห่ง ‘ยุคมรรคราชัน’ ในอารยธรรมยุคสมัยนับร้อยแห่งของแหล่งสถานศุภโชค รากฐานพลังและอำนาจของตระกูลเหลียงชิวสามารถจัดอยู่ในห้าอันดับแรก!

ตระกูลเหลียงชิวยังเป็นตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่สามเผ่าเทพชั้นยอดที่ประจำการนอกแดนผนึกเรืองแสงนี้

“หายนะหรือ เหอะๆ มีเรื่องไม่กลัว กลัวแต่จะไม่มี ประจำการอยู่ที่นี่มาเกือบสองร้อยปี ข้าล่ะเบื่อจะแย่แล้ว”

ที่มาพร้อมกับเสียงคือแสงเทพสายหนึ่งที่พุ่งเข้าตำหนัก แล้วกลายเป็นเด็กหนุ่มในชุดนักพรตแดงเพลิง คิ้วกระบี่เนตรดารา ยามยกมือวาดเท้าล้วนเผยความอหังการ

อิ๋งเซี่ยวยวน!

คนใหญ่คนโตขั้นหลุดพ้นจากเผ่าเทพตระกูลอิ๋งแห่งยุคเงาเมฆ ดูเหมือนเป็นเด็กหนุ่ม แต่ความจริงแล้วมีชีวิตมาไม่รู้กี่หมื่นปี

ที่ปรากฏตัวตามเขามาติดๆ คือหญิงชุดม่วงรูปงามหมดจดผู้หนึ่ง มือถือคทาสมประสงค์หยกขาวเล่มหนึ่ง บนคทาสมประสงค์มีอักษรมรรคแปลกประหลาดว่า ‘อสนีเซียน’ สลักอยู่

อิ๋งชิง!

มาจากเผ่าเทพตระกูลอิ๋งเช่นเดียวกับอิ๋งเซี่ยวยวน

ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัวก็นั่งอยู่บนเบาะรองนั่งที่วางอยู่บนพื้นด้านหนึ่งตามสบาย

“พี่อิ๋งพูดถูก พวกเราหวังว่าใกล้ๆ กับแดนผนึกเรืองแสงจะเกิดเรื่องขึ้นจริงๆ”

เสียงหัวเราะเบิกบานเสียงหนึ่งดังขึ้น จากนั้นเงาร่างสองร่างก็เข้าตำหนักมาแทบจะพร้อมกัน

ผู้พูดร่างสูงโปร่ง แขนเสื้อกว้างไหวกระพือ สวมเกี้ยวประดับบัวทองม่วง มือถือแส้หางม้าที่คล้ายหมอกควัน

เยี่ยนอันเต้า!

คนใหญ่คนโตขั้นหลุดพ้นของเผ่าเทพตระกูลเยี่ยนยุคต้นพิสุทธิ์

ส่วนข้างกายเยี่ยนอันเต้าคือชายชุดขาวผู้หนึ่ง รูปลักษณ์งามสง่า พาดกระบี่สำริดโบราณที่มีรอยเลือดกระดำกระด่าง

เขามีนามว่าเยี่ยนอันสิง มาจากเผ่าเทพตระกูลเยี่ยนเช่นเดียวกับเยี่ยนอันเต้า

ไม่ว่าจะเป็นเผ่าเทพตระกูลอิ๋งของอิ๋งเซี่ยวยวนกับอิ๋งชิง หรือเผ่าเทพตระกูลเยี่ยนของเยี่ยนอันเต้าและเยี่ยนอันสิง ล้วนอยู่ในสิบอันดับแรกของเผ่าเทพในโลกยุคสมัยร้อยกว่าแห่ง

แม้ด้อยกว่าตระกูลเหลียงชิวอยู่บ้าง แต่ยังเรียกได้ว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในแหล่งสถานศุภโชค!

สรุปแล้วสามเผ่าเทพนี้ก็คือเผ่าเทพชั้นยอดที่มีความสามารถสมชื่อ ในตระกูลล้วนมีพวกน่ากลัวเทียบเท่าระดับนิรันดร์ควบคุมดูแล

ไม่นานนักคนใหญ่คนโตขั้นหลุดพ้นของเผ่าเทพต้าฉินก็มาแล้ว

คือฉินเวิ่นเจินและฉินจิ่วอี้

ฉินเวิ่นเจินผิวสีทองแดง รูปลักษณ์เกรียงไกร องอาจห้าวหาญ

ฉินจิ่วอี้ผอมแห้งเหมือนไม้ไผ่ เบ้าตาลึกโหล คล้ายลมสามารถพัดเขาปลิวไปได้

หลังจากทั้งสองเข้าตำหนักมาแล้วก็แยกกันนั่งประจำที่ แต่กลับนั่งบนเบาะรองนั่งที่อยู่ท้ายสุด

ช่วยไม่ได้ ในแง่ระดับปราณพวกเขาอาจเทียบเคียงทุกคนในนี้ได้ แต่ขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังกลับห่างชั้นยิ่งกับสามเผ่าเทพชั้นยอด เป็นเพียงขุมอำนาจชั้นรองเท่านั้น

ยามนี้คนใหญ่คนโตขั้นหลุดพ้นแปดคนมากันครบแล้ว

“ในเมื่อสหายยุทธ์ทำนายเห็นลางหายนะบางอย่าง เช่นนี้แล้วจะต้องเกี่ยวกับแดนผนึกเรืองแสงเป็นแน่ นี่หมายความว่าจะมีคนมาช่วยสามีภรรยาคู่นั้นใช่หรือไม่”

อิ๋งเซี่ยวยวนในชุดนักพรตแดงเพลิง รูปลักษณ์เหมือนเด็กหนุ่มเอ่ยถาม

สายตาคนอื่นต่างมองไปที่เหลียงชิวสุ่ยเช่นกัน

“น่าจะเป็นเช่นนั้น”

เหลียงชิวสุ่ยพยักหน้า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์