ตอนที่ 2837 แดนเนรเทศ
ในปีที่สามที่หลินสวินถูกกักบริเวณ
ในถ้ำสถิตวันนี้ ประตูกาลเวลาที่ขอบเขตเพียงหนึ่งฉื่อลอยอยู่ตรงหน้าหลินสวิน
นี่คือประตูเนรเทศที่บีบรัดกดอัดถึงขีดสุด
ไม่กี่ปีก่อนจากการทดสอบของหลินสวิน ยิ่งขนาดของประตูเนรเทศยิ่งเล็ก ระยะเวลาที่สามารถคงอยู่ยิ่งนาน
เพื่อสิ่งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้หลินสวินจึงหยั่งรู้และอนุมานนัยเร้นลับของอภินิหารพรสวรรค์ขั้นนี้อย่างต่อเนื่อง ลองดูไม่รู้กี่ครั้ง สุดท้ายถึงค่อยๆ บีบกดประตูเนรเทศทีละนิดจนมีขนาดประมาณหนึ่งฉื่อในตอนนี้
และเวลาที่ประตูเนรเทศสามารถคงอยู่ได้ก็คือครึ่งเค่อเต็มๆ แล้ว!
อีกทั้งหลินสวินสามารถควบคุมขนาดของประตูเนรเทศได้ตามใจชอบ ถึงขั้นสามารถเปลี่ยนตำแหน่งได้ตามอำเภอใจ ปรากฏในทุกที่ที่อยากให้ปรากฏ
บังคับควบคุมได้ตามต้องการ!
นี่เป็นการพัฒนาที่น่าทึ่งอย่างมาก
เดิมทีหลินสวินทำเช่นนี้เพื่อให้เข้าไปสำรวจโลกภายในประตูเนรเทศได้
แต่ในชาวงเวลาไม่กี่ปีมานี้ พร้อมๆ กับที่เขาอนุมานนัยเร้นลับและการเปลี่ยนแปลงของประตูเนรเทศ กลับทำให้การควบคุมอภินิหารต้องห้ามนี้ของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด
นี่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่เกินคาด
ตอนนี้มองดูประตูเนรเทศที่ขนาดประมาณหนึ่งฉื่อนี้ ในหัวหลินสวินผุดความคิดอาจหาญหนึ่งขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
หากสักวันสามารถหดประตูนี้ให้มีขนาดเท่าจุดแสงได้ เมื่อสำแดงออกมากะทันหัน รวดเร็วดั่งปราณกระบี่ ต่อให้ถูกคู่ต่อสู้สกัดขวาง แต่ตอนที่อานุภาพของมันปะทุออกมา จะสามารถต้อนคู่ต่อสู้เข้าโลกในประตูได้ในทันทีหรือไม่
ในทำนองเดียวกัน หากขยายประตูเนรเทศอย่างต่อเนื่อง จะสามารถกลืนกินภูผาธาราแห่งหนึ่ง เมืองแห่งหนึ่ง ฟ้าดินผืนหนึ่ง โลกแห่งหนึ่ง… เข้าไปในชั่วพริบตาได้หรือไม่
น่าเสียดายที่ตอนนี้หลินสวินถูกกักบริเวณ ไม่สามารถออกไปได้ ไม่เช่นนั้นเขาก็อยากลองดูจริงๆ ว่าประตูเนรเทศที่ขยายอย่างเต็มที่แล้วสามารถปกคลุมขอบเขตได้กว้างใหญ่เพียงใด
ครึ่งเค่อหลังจากนั้น
ประตูเนรเทศกลายเป็นละอองแสงสลายไปอย่างไร้สุ้มเสียง
หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เริ่มนั่งสมาธิ
ก่อนหน้านี้เขาสำแดงประตูเนรเทศอย่างต่อเนื่อง สูญเสียมรรควิถีแห่งตนมากเกินไป โชคดีที่มีโอสถอมตะสุริยันจันทราคอยเสริม
ไม่เช่นนั้นเขาที่ถูกลงโทษหักเบี้ยประจำเดือนสิบปี อย่าว่าแต่สำแดงอภินิหารประตูเนรเทศบ่อยขนาดนี้เลย กระทั่งฝึกปราณตามปกติยังยากมาก
หนึ่งวันเต็มหลังจากนั้น
หลินสวินที่พลังปราณฟื้นคืนสู่สภาวะสูงสุดหายใจเข้าลึกๆ สำแดงอภินิหารประตูเนรเทศอีกครั้ง
วู้ม!
ประตูเนรเทศที่ขนาดประมาณหนึ่งฉื่อปรากฏเงียบๆ
หลินสวินไม่ได้ลังเล เงาร่างพลันกลายเป็นลำแสงหนึ่งพุ่งเข้าไปในประตูเนรเทศ พริบตาก็หายไปแล้ว
ในถ้ำสถิตมีเพียงประตูเนรเทศที่ลอยอยู่เงียบๆ
หลินสวินเหมือนดั่งดราราเคลื่อนคล้อย มาถึงยังโลกอีกแห่งหนึ่ง
พริบตานั้นในครรลองสายตาของหลินสวินก็เห็นฟ้าดินที่มืดมิดผืนหนึ่ง บนพื้นดินคือหุบเหวโกรกธารที่สลับทับซ้อน มองไม่เห็นก้น
ท้องฟ้าถูกสีดำราวกับหมึกปกคลุม กดข่มใจคน
รอบๆ กว้างใหญ่ไพศาล ล้วนเป็นสีมืดทะมึนเวิ้งว้าง เหมือนไม่มีขอบเขตอย่างไรอย่างนั้น
อยู่ในนี้หลินสวินรู้สึกเพียงว่าร่างกายเหมือนเป็นข้าวเม็ดหนึ่งในมหาสมุทร เกิดความรู้สึกเล็กจ้อย
นอกจากจุดนี้ก็ไม่มีความรู้สึกไม่คุ้นชินใดๆ
‘นี่ก็คือโลกในประตูเนรเทศหรือ’
หลินสวินทอดสายตามองรอบๆ
อภินิหารต้องห้ามอย่างประตูเนรเทศ ลึกลับยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย แตกต่างกับอภินิหารดาบกาลเวลาของเจ้าแห่งมรรคาสวรรค์โดยสมบูรณ์
หลินสวินอยากรู้มานานแล้วว่าในประตูนี้เป็นโลกอย่างไรกันแน่ และศัตรูที่ถูกตนดูดเข้ามาในนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร
และตอนนี้ในที่สุดเขาก็มาแล้ว
หลินสวินก้าวเท้าเดินไปโดยไม่เสียเวลา
ประตูเนรเทศสามารถคงอยู่ได้เพียงครึ่งเค่อ นี่ก็หมายความว่าเขาต้องย้อนกลับออกไปภายในครึ่งเค่อ ไม่เช่นนั้นหากถูกขังอยู่ในนี้…
ตัวหลินสวินเองก็ไม่รู้ว่าจะออกไปอย่างไร
ฟุ่บ!
เงาร่างของเขาพริบไหว ทะยานอยู่ในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลที่มืดมิด ในขณะเดียวกันจิตรับรู้ก็แผ่กระจาย สำรวจทุกสิ่งที่เห็นระหว่างทาง
ไม่นานเสียงอึงอลระลอกหนึ่งดังมาจากฟ้าดินมืดมิดไกลออกไป
หลินสวินทะยานตัวไป ก็เห็นว่าบนห้วงอากาศเหนือโกรกธารใหญ่แห่งหนึ่งถึงกับมีหินโม่ขนาดใหญ่สองชิ้น สีดำหนึ่งขาวหนึ่ง!
หินโม่ทุกชิ้นล้วนมีขอบเขตพันจั้ง หมุนย้อนและบดทับกัน ทำให้ห้วงอากาศบริเวณนั้นล้วนถูกบดขยี้ เกิดเสียงกึกก้องต่อเนื่อง
หลินสวินนัยน์ตาหดรัดเล็กน้อย
พริบตาที่เห็นหินโม่ขาวดำคู่นี้ ข้อมูลมากมายพลันผุดขึ้นในหัวเขา…
จานเทพคร่าศพ!
แปลงจากกฎระเบียบลบล้าง
ไม่ว่าใครที่ถูกดูดเข้ามาในฟ้าดินนี้ ร่างมรรคจะถูกจานเทพบดขยี้จนสลาย!
‘เช่นนี้คู่ต่อสู้ที่ถูกข้าดูดเข้ามาในช่วงหลายปีมานี้ ล้วนถูกจานเทพคร่าศพนี้บดขยี้จนสลายหมดแล้วหรือ’
ในใจหลินสวินหวาดหวั่น
ขณะเดียวกันในจิตรับรู้ของหลินสวินก็สัมผัสได้ถึงการตอบสนองมหัศจรรย์อย่างหนึ่ง ราวกับจานเทพคร่าศพนั่นเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายตน
ในใจเขาสะท้านไหว
ตูม!
จานเทพคร่าศพดำขาวสองชิ้นทะยานขึ้นมาฉับพลัน หมุนตัวอย่างบ้าคลั่งกลางฟ้าดิน พลังบดขยี้อันน่ากลัวที่ปลดปล่อยออกมาทำเอาห้วงอากาศรอบๆ บิดเบี้ยวถล่มทลาย
ยิ่งมีพลังกลืนกินที่น่ากลัวกระจายออกมาจากจุดศูนย์กลางของจานเทพคร่าศพ เหมือนจะดึงสรรพสิ่งกลางฟ้าดินเข้าไปและบดขยี้แหลกสลาย!
นี่น่าเหลือเชื่อมาก
‘หยุด!’
หลินสวินคิดในใจ จานเทพคร่าศพก็พลันหยุดชะงัก กลับไปอยู่บนห้วงอากาศเหนือโกรกธารใหญ่นั่นอีกครั้ง
เพียงแต่ตอนที่เขาลองเก็บจานเทพคร่าศพกลับล้มเหลวแล้ว
ก็หมายความว่าจานเทพคร่าศพสามารถใช้ได้เพียงในฟ้าดินแห่งนี้ ไม่สามารถนำออกไปได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์