Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2846

ตอนที่ 2846 ฐานที่มั่น

การต่อสู้นี้ทำให้หลินสวินได้รับพลังระเบียบรวมทั้งสิ้นเก้าสิบเก้าสาย

พลังระเบียบเหล่านี้ล้วนบกพร่องเสียหายเหมือนก่อนหน้านี้ ราวกับว่าในแดนมารสิบทิศไม่มีพลังระเบียบที่สมบูรณ์อยู่สักนิด

ทว่าหลินสวินพอใจมากแล้ว

หลังจากเขายัดพลังระเบียบเหล่านี้เข้าเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง ก็ทอดสายตามองไปไกลๆ อย่างกระปรี้กระเปร่า กล่าวว่า “ผู้อาวุโส พวกเรามุ่งหน้ากันต่อ”

“ไม่พักสักหน่อยหรือ”

หลีเจินอดถามไม่ได้

“รอหลังจากหาสถานที่เหมาะทำเป็นฐานที่มั่นแล้วค่อยพักผ่อนยังไม่สาย”

หลินสวินเอ่ยปากง่ายๆ

หลีเจินมองออกแล้ว หลินสวินในเวลานี้ฮึกเหิมยิ่ง ราวกับนายพรานที่ขึ้นเขาไปล่าสัตว์ อิ่มใจเปี่ยมล้น เต็มไปด้วยการตั้งตาคอยต่อการล่า

“ไม่ว่าอย่างไรก็ระวังไว้หน่อยดีกว่า” หลีเจินเอ่ยเตือน

หลินสวินพยักหน้าน้อยๆ

จากนั้นทั้งคู่ก็มุ่งหน้าต่อ

เทือกเขาหมื่นห้วยกว้างใหญ่สุดขีด พยับหมอกคละคลุ้ง ห้วงอากาศเต็มไปด้วยกลิ่นอายระเบียบที่ผสมปนเป ขณะมุ่งหน้าเดินทาง หลินสวินและหลีเจินต่างไม่กล้าประมาท

เพียงแต่ตลอดทางนี้พบเจอเพียงสัตว์ระเบียบที่จับตัวเป็นกลุ่มสามถึงห้าตัวเท่านั้น ไม่ได้พบกับฝูงสัตว์ระเบียบจำนวนมหาศาลเหมือนก่อนหน้านี้อีก

จนกระทั่งเดินทางไปได้หลายหมื่นลี้ จู่ๆ หลินสวินก็ชะงักเท้า สายตามองไปบนภูเขาใหญ่สีเทาลูกหนึ่งที่อยู่เบื้องหน้าไม่ไกลนัก

“กลิ่นอายของสัตว์ปีศาจระดับสวรรค์!”

นัยน์ตาหลีเจินทอประกาย

“ไม่ผิด ซ้ำยังเหมือนไม่ได้มีแค่ตัวเดียว”

นัยน์ตาหลินสวินเจือแววฮึกเหิมรางๆ “อีกทั้งภูมิศาสตร์ของภูเขานี้ยังเป็นเลิศยิ่ง ตั้งรับง่ายโจมตียาก หากเลือกที่นี่เป็นฐานที่มั่นแล้ววางกระบวนผนึก ก็เท่ากับว่าพวกเรามีที่พักปักหลักในแดนมารบูรพาแห่งนี้แล้ว”

เก้าปี!

ล่าสัตว์ระเบียบก็ดี จัดการศัตรูก็ช่าง เขาล้วนต้องการฐานที่มั่นที่สามารถซ่อนตัวได้สักแห่ง

“ถ้าหากต่อสู้ เกรงว่าจะทำลายที่นี่จนย่อยยับ”

หลีเจินกล่าวใคร่ครวญ

“ง่ายมาก ข้าจะไปล่อพวกมันออกมา”

หลินสวินกล่าวฉับไว

เงาร่างเขาวาบกะพริบ กายมรรคไม้เขียวปรากฏกลางอากาศ กลายเป็นแสงมรรคสายหนึ่งพุ่งไปยังภูเขาใหญ่สีเทาลูกนั้น

“ผู้อาวุโส พวกเราออกจากที่นี่ก่อน”

หลินสวินและหลีเจินล่าถอยเงียบๆ ทันใด

“โฮก…!”

ไม่นานนักส่วนลึกของภูเขาใหญ่สีเทานั่นก็มีเสียงคำรามสะเทือนฟ้าของสัตว์ปีศาจดังก้องขึ้น สะเทือนจนฟ้าดินล้วนเริ่มสั่นโคลงน้อยๆไอลีน

จากนั้นกายมรรคไม้เขียวของหลินสวินพุ่งโฉบออกมาติดๆ ด้านหลังเขามีเงาร่างสัตว์ปีศาจสามตัวไล่ตามอย่างบ้าคลั่ง

ตัวที่แข็งแกร่งที่สุดคือนกดุร้ายตัวหนึ่ง ปีกสองข้างยาวร้อยจั้ง ทั่วลำตัวดุจหลอมจากเงินขาว มีสามหัว กลิ่นอายเยียบเย็นเดือดคลั่ง

เบื้องหลังนกปีศาจมีสัตว์ปีศาจที่รูปร่างคล้ายลูกวัว ผิวขนดำมิดตัวหนึ่งตามมา บนตัวมีกระแสสายฟ้าสีน้ำเงินเข้มแปลกประหลาดไหลเวียน

และตัวที่อยู่หลังสุดเป็นสัตว์ปีศาจรูปร่างเหมือนคนตัวหนึ่ง บนตัวปกคลุมด้วยแผ่นเกล็ดสำริด มีหัวบิดเบี้ยวอัปลักษณ์

กลิ่นอายบนตัวสัตว์ปีศาจสามตัวนี้แผ่ซ่าน ทุกที่ที่เคลื่อนผ่านฟ้าดินล้วนสะเทือนไหว ชั้นเมฆพังทลาย เห็นชัดว่าแข็งแกร่งหาใดเปรียบ

เห็นอยู่ว่าใกล้จะไล่ตามกายมรรคไม้เขียวของหลินสวินทันแล้ว

ฟุ่บ!

แสงมรรคสีดำยิ่งใหญ่สายหนึ่งพลันตัดขวางมาเยือน เป็นปราณดาบอหังการห่อหุ้มด้วยพลังกฎเกณฑ์พร่างพราว

เคร้ง!

นกปีศาจตัวนั้นกระพือสองปีก ถึงกับต้านดาบนี้ไว้ได้

หลีเจินแค่นเสียงเย็น สะบัดดาบพุ่งเข้าหา

ตูม!

เงาดาบท่วมฟ้าอุบัติขึ้น ดุจดั่งม่านราตรีสีดำมาเยือน ปราณดาบแน่นขนัดอหังการแผ่กว้าง เข้าเข่นฆ่ากับนกปีศาจตัวนั้น

และพร้อมกันนั้นกายมรรคไม้เขียวของหลินสวินพลันหมุนตัวพุ่งทะยานขึ้นไป โถมเข้าใส่สัตว์ปีศาจที่มีสายฟ้าสีน้ำเงินเข้มรายล้อมทั่วร่างตัวนั้น

ส่วนสัตว์ปีศาจร่างคนก็ถูกร่างต้นของหลินสวินหมายหัว เข้าโจมตีอย่างรุนแรง

การต่อสู้ปะทุ

ในครั้งนี้หลินสวินไม่ได้ใช้อภินิหารพรสวรรค์ หากแต่ใช้มรรควิถีในตัวเข้าต่อสู้อย่างดุเดือด

และก็เป็นตอนนี้ที่หลินสวินถึงสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงของสัตว์ระเบียบระดับสวรรค์ พวกมันครอบครองพลังระเบียบระดับสวรรค์ ดุร้ายกร้าวแกร่ง ปลดปล่อยนัยเร้นลับพลังระเบียบออกมาอย่างอหังการ แข็งแกร่งยิ่งกว่าขั้นดับเทพสัมบูรณ์ทั่วๆ ไปเสียอีก

นี่สร้างแรงกดดันให้หลินสวินไม่น้อยเช่นกัน แต่ยังไม่ถือเป็นภัยคุกคาม

หลังจากนั้นสักพัก

การต่อสู้ทางฝั่งหลีเจินสิ้นสุดลงก่อน ปีกสีเงินของนกปีศาจตัวนั้นถูกตัดทิ้ง ร่างกายก็ถูกปราณดาบเดือดคลั่งฟันแหลก

มองดูหลีเจินอีกครั้ง ท่าทางสงบสีหน้าผ่อนคลาย ไม่ได้บาดเจ็บสักนิด

แค่คิดก็รู้ว่าหลีเจินในฐานะผู้อาวุโสหอแรกพิสุทธิ์และมีมรรควิถีขั้นดับเทพสัมบูรณ์ ก็ไม่ใช่ผู้ที่คนระดับเดียวกันทั่วๆ ไปจะเทียบชั้นได้เช่นกัน พลังต่อสู้ดุดันอหังการถึงขีดสุด

หลีเจินทอดสายตามองการต่อสู้ของหลินสวิน ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือ

มีหรือเขาจะมองไม่ออกว่าหลินสวินกำลังเอาคู่ต่อสู้มาทดลองพลังต่อสู้ของตนอยู่

‘ไม่ได้ใช้ศาสตรามรรค และไม่ได้ใช้พลังพรสวรรค์เช่นกัน ด้วยมรรควิถีขั้นดับเทพขั้นต้นก็สามารถสังหารสัตว์ปีศาจที่ครอบครองพลังระเบียบระดับสวรรค์ขั้นสี่ได้ เจ้าหมอนี่… ช่างวิปริตจริงๆ…’

หลีเจินทอดถอนใจในใจ

เขารู้ว่าหลินสวินมีศักยภาพแฝงของมรรคยอดอมตะ มรรคาที่แสวงหาก็ต่างไปจากทุกคนในโลก และรู้เช่นกันว่าหลินสวินเป็นหนึ่งบัวที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลรอคอยมาหมื่นกาล และในตัวยังมีพรสวรรค์หุบเหวกลืนกินอีกด้วย

เพียงแต่รู้ก็ส่วนรู้ ยามเห็นหลินสวินใช้พลังปราณขั้นดับเทพขั้นต้น แต่กลับสำแดงพลังต่อสู้ที่ไม่ด้อยกว่าขั้นดับเทพสัมบูรณ์ออกมา หลีเจินก็ยังคงไม่สามารถสงบจิตใจได้อยู่ดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์