Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2847

ตอนที่ 2847 หวังเจวี๋ยฮ่วน

หยวนฉางเทียนจ้องเฉาเป่ยโต้วอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยว่า “ผู้อาวุโสเฉา นี่เพิ่งเข้าแดนมารสิบทิศวันแรกท่านก็อดใจรอไม่ไหวเช่นนี้แล้วหรือ”

เฉาเป่ยโต้วสีหน้าแข็งทื่อ กล่าวว่า “จัดการศัตรูย่อมต้องกำจัดให้สิ้นซากโดยเร็ววัน หาไม่ด้วยรากฐานและพลังต่อสู้ของหลินสวิน หากให้เขารวบรวมพลังระเบียบได้มากพอ พลังปราณของเขาต้องเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดเป็นแน่ ภายหน้าหากคิดจะฆ่าเขาเกรงว่าจะยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ”

หยวนฉางเทียนกล่าว “ด้วยมรรควิถีของท่าน หากจะหลอมพลังระเบียบระดับปฐพีขั้นหนึ่งสักสายต้องใช้เวลานานเท่าไร”

“สามวัน”

“แล้วระดับปฐพีขั้นสองล่ะ”

“เจ็ดวัน”

“ระดับปฐพีขั้นเก้าล่ะ”

“ประมาณ… สองเดือน”

เฉาเป่ยโต้วกล่าวอย่างลังเล

หยวนฉางเทียนถาม “เช่นนั้นท่านคิดว่าหากหลินสวินรวบรวมพลังระเบียบได้มากพอ และคิดหลอมพวกมันทั้งหมด ต้องใช้เวลานานเท่าไร”

เฉาเป่ยโต้วนิ่งเงียบไปชั่วขณะ

หยวนฉางเทียนถอนใจยาวกล่าวว่า “เขาเป็นคนของลัทธิแรกกำเนิดของเรา ตอนนี้มีชีวิตอยู่ยังสามารถทำคะแนนล่าสัตว์ระเบียบมากมายให้แก่พวกเราได้ สำหรับพวกเราแล้วก็เป็นประโยชน์อย่างที่สุด ตอนนี้หากเขาตายไปจะไม่น่าเสียดายเกินไปหรือ”

เฉาเป่ยโต้วก้มหน้างุด

เขาไม่เห็นด้วยกับความคิดของหยวนฉางเทียน แต่กลับไม่สามารถคัดค้าน

“ช่างเถิด ในเมื่อท่านเคลื่อนไหวไปแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่อาจย้อนกลับได้อีก”

หยวนฉางเทียนกล่าว “บอกข้า ก่อนหน้านี้ท่านส่งข่าวไปให้ใคร”

เฉาเป่ยโต้วรีบกล่าวพัลวัน “ผู้แข็งแกร่งจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะ”

“อาศัยพวกเขาหรือ”

หยวนฉางเทียนไตร่ตรองครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “พวกเราก็ไปเทือกเขาหมื่นห้วยสักเที่ยว”

อวิ๋นเทียนหมิงที่ไม่ได้เอ่ยปากมาโดยตลอดนัยน์ตาวาววับ “ผู้อาวุโสหยวนคิดจะลงมือด้วยตัวเองหรือ”

“ไม่ ข้าตั้งใจจะรอให้หลินสวินตกที่นั่งลำบาก แล้วช่วยชีวิตเขาสักครั้ง”

หยวนฉางเทียนกล่าวพลางเปลี่ยนเส้นทาง พุ่งทะยานไปห่างออกไป

เฉาเป่ยโต้วและอวิ๋นเทียนหมิงสบตากันปราดหนึ่ง ต่างตามไปเช่นกัน

สองวันให้หลัง

หวังเจวี๋ยฮ่วนมองเทือกเขาหมื่นห้วยจากไกลๆ นิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจา

เขาสวมชุดคลุมหยกทั้งตัว รูปร่างสูงโปร่งเหยียดตรงดุจหอก สะพายกระบี่โบราณลายสนเล่มหนึ่งไว้ที่หลัง ผมยาวดำดุจสีหมึกทั่วศีรษะถูกมัดรวบด้วยเชือกเขียว ท่าทางองอาจ บุคลิกโดดเด่น

เขาคือทายาทยักษ์ใหญ่อมตะตระกูลหวัง ถูกมองเป็นบุตรฟ้าประทานของตระกูล ติดตามฝึกปราณอยู่ข้างกายเฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งตั้งแต่เล็ก

ตอนนี้เป็นขั้นดับเทพสัมบูรณ์แล้ว

ในน่านฟ้าที่แปด เขาเป็นผู้กล้าโดดเด่นที่หาตัวจับยาก ชื่อเสียงสะท้านฟ้าดิน

เพียงแต่ในใจเขากลับไม่เห็นฟ้าดินอย่างน่านฟ้าที่แปดอยู่ในสายตาสักนิด

ตั้งแต่เริ่มฝึกปราณจนตอนนั้น เป้าหมายของเขาก็คือน่านฟ้าที่เก้า!

หมายมั่นว่าจะมุ่งหน้าไปน่านฟ้าที่เก้า วัดฝีมือกับบุตรเทพ ธิดาเทพเผ่าเทพนิรันดร์เหล่านั้นให้ได้ในสักวัน!

“เอาข้อมูลของเจ้าหลินสวินนี่มาให้ข้าดูอีกรอบ”

หวังเจวี๋ยฮ่วนเอ่ยปาก

ข้างหลังเขามีผู้แข็งแกร่งตระกูลหวังยืนอยู่สี่คน ล้วนเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่แจ้งมรรคขั้นดับเทพมานานหลายปี

เมื่อได้ยินหนึ่งในนั้นก็ก้าวออกมาทันที ยื่นม้วนหยกให้ด้วยสองมือ

หวังเจวี๋ยฮ่วนถือม้วนหยก พลิกอ่านอย่างตั้งใจ

ในม้วนหยกบันทึกเรื่องน้อยใหญ่เกี่ยวกับหลินสวิน ไม่เพียงความสามารถที่เผยออกมาในลัทธิแรกกำเนิดเท่านั้น แม้แต่ทุกการเคลื่อนไหวในแดนใหญ่พันศึกยังปรากฏอยู่บนนั้นทั้งหมด

ม้วนหยกนี้หวังเจวี๋ยฮ่วนอ่านมาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งล้วนมีความรู้สึกไตร่ตรองไม่ออก ไม่อาจจินตนาการได้จริงๆ ว่าคนเช่นนี้กลายเป็นผู้สืบทอดที่เจ้าแห่งคีรีดวงกมลเฝ้ารอมาหมื่นกาลได้อย่างไร และมีพลังต่อสู้เย้ยฟ้าเช่นนี้ได้อย่างไร

“เขาเคยไปจากลัทธิแรกกำเนิดเป็นเวลาหกปีกว่า ช่วงเวลานั้นเขาไปที่ไหน”

จู่ๆ หวังเจวี๋ยฮ่วนก็ถามขึ้น

“รายงานนายน้อย ปีนั้นรองหัวหน้าหอลัทธิแรกกำเนิดเสวียนเฟยหลิงเป็นคนพาเจ้าหมอนี่ออกจากลัทธิแรกกำเนิด หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวเขาอีกเลย พวกเราเคยตามหาหลายที่แล้วแต่ล้วนคว้าน้ำเหลว แต่จากการวิเคราะห์ของผู้อาวุโสในตระกูลบางส่วน เป็นไปได้สูงว่าเจ้าหมอนี่อาจไปแหล่งสถานศุภโชค”

มีคนกล่าวเสียงเบา

“แหล่งสถานศุภโชค!”

หวังเจวี๋ยฮ่วนนัยน์ตาหดรัด นิ่งเงียบครู่หนึ่ง เขาเก็บม้วนหยกแล้วกล่าว “ผู้แข็งแกร่งห้าขุมอำนาจใหญ่อย่างตระกูลฝู ตระกูลฉี ตระกูลมู่ ตระกูลจู่ และตระกูลชือมีข่าวบ้างหรือไม่”

ที่นี่เวลานี้ไม่เพียงมีผู้เข้าร่วมตระกูลหวังของพวกเขา ยังมีคนจากสี่ยักษ์ใหญ่อมตะอย่างตระกูลจงหลี ตระกูลจ้ง ตระกูลตงหวง และตระกูลจิงมารวมตัวกันอีกด้วย

“รายงานนายน้อย พวกเขากำลังอยู่ระหว่างเร่งเดินทางมา เกรงว่าพวกเรายังต้องรออีกสักระยะ แต่อย่างมากที่สุดคงไม่เกินสองวัน”

มีคนเอ่ยเสียงเบา

เมื่อได้ยินหวังเจวี๋ยฮ่วนหมุนตัวเดินออกไปไม่ไกลนัก

ที่นั่นมีผู้เข้าร่วมจากสี่ยักษ์ใหญ่อมตะตระกูลจงหลี ตระกูลจ้ง ตระกูลตงหวง และตระกูลจิงรวมตัวอยู่

“จิงอิ่ง ตระกูลจิงของพวกเจ้าเชี่ยวชาญการตามรอยลอบสังหารที่สุด มีความเชื่อมั่นว่าจะตามหาที่อยู่ของเจ้าหลินสวินนี่ในภูเขานี้ได้หรือไม่”

หวังเจวี๋ยฮ่วนมองหญิงสาวคนหนึ่ง

หญิงสาวงดงามที่คิ้วตาคมกร้าวดุจปลายคม กลิ่นอายทั่วร่างเบาหวิวดุจมายาคนหนึ่ง

จิงอิ่ง!

ผู้สืบทอดตระกูลจิง มรรควิถีขั้นดับเทพสัมบูรณ์ และเป็นผู้นำผู้เข้าร่วมศึกตระกูลจิงในครั้งนี้

ได้ยินดังนี้จิงอิ่งก็เอ่ยว่า “ต้องการเวลาสักหน่อย”

หวังเจวี๋ยฮ่วนกล่าว “หนึ่งวันเป็นอย่างไร”

หัวคิ้วจิงอิ่งขมวดน้อยๆ แต่ยังคงพยักหน้ากล่าว “จะพยายามสุดความสามารถ”

หวังเจวี๋ยฮ่วนหันมองผู้เข้าร่วมศึกตระกูลจงหลี ตระกูลตงหวง ตระกูลจ้ง แล้วกล่าวว่า “ครั้งนี้สิบยักษ์ใหญ่อมตะเคลื่อนไหวพร้อมกัน ไม่ใช่เพื่อล่าสัตว์ระเบียบ และไม่ใช่เพื่อประชันฝีมือกับสี่หอบรรพจารย์ แต่เพื่อเจ้าหลินสวินนี่”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์