ตอนที่ 2855 ทัพสัตว์ปีศาจ
หลีเจินเข้าใจในทันที
หากสังหารหยวนฉางเทียนเวลานี้ หยวนซีหลิวที่รออยู่นอกแดนมารสิบทิศย่อมไม่เลิกรา และเผ่าเทพตระกูลหยวนแห่งน่านฟ้าที่เก้าก็จะไม่ยอมเลิกราเป็นแน่
ถึงขั้นที่กลับถึงลัทธิแรกกำเนิด คนใหญ่คนโตอย่างพวกฝูเหวินหลี ฉีเซียวอวิ๋นก็จะใช้จุดนี้เป็นข้ออ้าง สร้างความลำบากให้แก่หลินสวิน!
กลับกันหากให้หยวนฉางเทียนมีชีวิตอยู่ เรื่องทั้งหมดนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น และจะทำให้ความคิดของศัตรูจดจ่ออยู่กับตัวหยวนฉางเทียน ให้เวลาผงาดแก่หลินสวินได้มากยิ่งขึ้น
นี่ไม่ใช่หวั่นเกรง หากแต่เป็นการชั่งน้ำหนักผลได้ผลเสีย
ชั่วขณะเดียวแววตาที่หลีเจินมองหลินสวินก็เปลี่ยนไปจากเดิมแล้วเช่นกัน
ช่วงก่อนหน้านี้ภาพจำที่เขามีต่อหลินสวินก็คือผู้ที่รากฐานพลังน่าสะพรึง พลังต่อสู้เย้ยฟ้า ความกล้าเปี่ยมล้น เสมือนว่าเรื่องราวในโลกไม่มีสิ่งใดที่เขาเกรงกลัว
แต่เมื่อร่วมเคลื่อนไหวเคียงข้างหลินสวินในช่วงนี้ เขาจึงพบว่าหลินสวินรู้อะไรควรไม่ควร จะทำสิ่งใดก็รู้จักวางแผนการ
นี่เห็นชัดว่าหาตัวจับยากยิ่ง
“ผู้อาวุโส ต่อจากนี้ข้าตั้งใจจะล่าสัตว์ระเบียบเป็นหลัก พยายามเลื่อนขั้นพลังปราณขึ้นไปอีกขั้นก่อนเข้าแดนมารปฐพีในอีกเก้าปีให้หลัง”
หลินสวินกล่าว
เวลาสองเดือนก็ทำให้พลังปราณในตัวเขาเกิดการเปลี่ยนแปลง ก้าวสู่ขั้นดับเทพขั้นกลาง นี่ทำให้หลินสวินตั้งตาคอยการเคลื่อนไหวต่อจากนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
เขารู้ดียิ่ง หากไม่มีโอกาสเข้าร่วมศึกมรรคอมตะครั้งนี้ คิดอยากทะลวงขั้นมรรควิถีภายในเวลาอันสั้นเช่นนี้ ยังไม่รู้ว่าต้องเปลืองเวลาอีกกี่ปี
แต่แดนมารสิบทิศไม่เหมือนกัน
ที่นี่สัตว์ระเบียบกระจายตัวทั่วทุกแห่ง สามารถไล่ล่าไขว่คว้าพลังระเบียบอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย แม้ว่าพลังระเบียบเหล่านี้ล้วนมีข้อบงพร่อง แทบไม่เจอชิ้นที่สมบูรณ์ก็ตาม
แต่สำหรับการฝึกปราณขั้นดับเทพกลับเรียกได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าในโลก!
ทว่าหลินสวินตระหนักได้ว่าเมื่อพลังปราณทะลวงถึงขั้นดับเทพขั้นกลาง พลังระเบียบที่ต่ำกว่าระดับปฐพีขั้นหกก็ยากจะส่งผลสักกี่มากน้อยแล้ว
หรือกล่าวได้ว่าพลังระเบียบที่ต่ำกว่าระดับปฐพีขั้นหก ย่อมไม่มีประโยชน์ต่อการเลื่อนขั้นพลังปราณหลินสวินแล้ว
นี่เป็นความจริงที่ไม่ว่าผู้ฝึกปราณคนใดล้วนต้องเผชิญ
ยามอยู่ห้าระดับล่าง หญ้าวิญญาณโอสถวิญญาณใดๆ บางส่วนล้วนทำให้พลังปราณรุดหน้าแบบก้าวกระโดดได้
แต่เมื่อมรรควิถีเลื่อนระดับ ทรัพยากรฝึกปราณที่สามารถเติมเต็มการเคี่ยวกรำในตัวนับวันก็เริ่มหายากและน้อยลงทุกที
นี่ยังเป็นโลกยอดนิรันดร์ หากหลินสวินเอาแต่อยู่ที่ทางเดินโบราณฟ้าดารา จนตอนนี้เกรงว่ายังไม่รู้เลยว่าจะแจ้งมรรคอมตะได้หรือไม่!
ฉะนั้นสำหรับโอกาสนี้ หลินสวินย่อมหวงแหนเป็นพิเศษ
สำหรับการตัดสินใจของหลินสวิน หลีเจินย่อมไม่ติดอะไร
…
หลังจากนั้นเงาร่างหลินสวินและหลีเจินปรากฏตัวอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ของเทือกเขาหมื่นห้วย ลุยน้ำข้ามภูเขา ล่าสัตว์ปีศาจ ยามเหนื่อยล้าก็นั่งขัดสมาธิฝึกปราณ เมื่อพลังกายฟื้นฟูก็บุกตะลุยต่อ…
วันเวลาผ่านไปอย่างสมบูรณ์ถึงขีดสุด
ครึ่งปีให้หลัง
หลินสวินและหลีเจินออกจากเทือกเขาหมื่นห้วย มุ่งหน้าสู่ทะเลทรายหินดำหนึ่งในสามสถานที่อันตรายของแดนมารบูรพา
พื้นที่ล้านลี้ในเทือกเขาหมื่นห้วยล้วนถูกทั้งคู่กวาดเรียบราบคาบหมดแล้ว สังหารสัตว์ปีศาจระดับปฐพีไปเกือบห้าร้อยตัว แต่จำนวนสัตว์ปีศาจระดับสวรรค์กลับมีเพียงน้อยนิด รวมทั้งสิ้นมีไม่ถึงยี่สิบตัว
จากจุดนี้จะเห็นถึงความหายากของสัตว์ปีศาจระดับสวรรค์
หนึ่งปีให้หลัง
หลินสวินและหลีเจินออกจากทะเลทรายหินดำ
ผลเก็บเกี่ยวในครั้งนี้ยิ่งน้อยกว่าเดิม ท้ายที่สุดก็ล่าสัตว์ปีศาจระดับปฐพีได้ไม่ถึงสองร้อยตัว และสัตว์ปีศาจระดับสวรรค์อีกเพียงหกตัวเท่านั้น
สาเหตุเป็นเพราะสถานที่อันตรายแถบนี้ ถูกหยวนฉางเทียนพาพวกเฉาเป่ยโต้วและอวิ๋นเทียนหมิงมาล่าตั้งแต่ยามศึกมรรคอมตะเพิ่งเริ่มขึ้นนานแล้ว
การเลื่อนขั้นของพลังปราณหลินสวินไม่มากนัก ไม่ได้รุดหน้าก้าวกระโดดเหมือนตอนแรกแล้ว แต่ก็ดีกว่าเคี่ยวกรำที่โลกภายนอกเป็นร้อยเท่าพันเท่า
จากการสันนิษฐานของหลินสวินเอง หากอยากเลื่อนขั้นพลังปราณได้อย่างก้าวกระโดดเหมือนก่อนหน้านี้อีก จำเป็นต้องหลอมพลังระเบียบระดับสวรรค์จำนวนมาก
ส่วนระเบียบระดับปฐพีเหล่านั้น ประสิทธิภาพที่มีก็เริ่มน้อยลงเรื่อยๆ แล้ว
สุดท้ายหลินสวินเก็บพลังระเบียบระดับปฐพีที่รวบรวมมาได้เหล่านี้เอาไว้ทั้งหมด ตั้งว่าจะมอบให้สหายในภายหน้า
ช่วยไม่ได้ ‘สมบัติล้ำค่า’ ที่คนในโลกภายนอกตาลุกวาวเช่นนั้น แม้แต่วิญญาณระเบียบอู๋ซวงยังไม่ชายตามอง…
แดนมารบูรพามีสถานที่อันตรายรวมทั้งสิ้นสามแห่ง นอกจากเทือกเขาหมื่นห้วยและทะเลทรายหินดำ ยังมีอีกสถานที่นามว่า ‘ทะเลมารปั่นป่วน’
เพียงแต่หลังจากหลินสวินและหลีเจินมาถึง จึงพบว่าหยวนฉางเทียนกำลังทะยานอยู่ในพื้นที่อันตรายนี้ และล่าสัตว์ระเบียบไปไม่น้อยแล้ว
สำหรับเรื่องนี้หลินสวินก็คร้านจะแก่งแย่งกับหยวนฉางเทียน และตัดสินใจออกจากแดนมารบูรพา
ในแดนมารสิบทิศ นอกจากแดนมารปฐพี แดนมารสวรรค์ ยังมีแดนมารอีกแปดแห่ง
และขุมอำนาจที่เข้าร่วมศึกมรรคอมตะ ทั้งผู้เข้าร่วมศึกจากสี่หอบรรพจารย์และผู้เข้าร่วมศึกจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะ ล้วนถูกเคลื่อนย้ายไปยังแปดแดนมารที่แตกต่างกัน
แต่หลินสวินกล้ามั่นใจว่าในแดนมารเหล่านี้ต้องยังมีพื้นที่ที่ยังไม่เคยถูกกวาดล้างอีกมากมาย
ขอเพียงเร่งทำเวลา ต้องสามารถแย่งพลังระเบียบได้มากขึ้นแน่
และเป็นเวลานี้เอง หลินสวินถึงเพิ่งเข้าใจความหมายของศึกมรรคอมตะ ผู้เข้าร่วมศึกจากแต่ละขุมอำนาจแข่งขันโดยยึดสัตว์ระเบียบเป็นเป้าหมาย สิ่งที่แก่งแย่งก็คือพลังระเบียบเหล่านี้
นี่สามารถนับเป็นคะแนนต่อสู้ เป็นเครื่องยืนยันในการจัดอันดับยามศึกมรรคอมตะปิดม่าน
และนี่ยังเป็นศุภโชคชิ้นใหญ่ยิ่งเช่นกัน ถึงอย่างไรใครจะรังเกียจว่าพลังระเบียบมีมากเกินไปกันเล่า
“ไปแดนมารอาคเนย์”
หลินสวินทำการตัดสินใจ
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์