Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2872

สรุปบท ตอนที่ 2872 ระเบียบระดับเทพ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2872 ระเบียบระดับเทพ – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2872 ระเบียบระดับเทพ ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2872 ระเบียบระดับเทพ

วันเดียวกัน

พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแดนมารสวรรค์

เมฆาเคราะห์หนาหนัก พายุอสนีถั่งโถม กลางฟ้าดินมีแต่กลิ่นอายทำลายล้าง

จี้ซานไห่ทำศึกกับเมฆาเคราะห์อยู่กลางห้วงอากาศ สง่างามดุจรูปวาด ท่วงท่าดุจทวยเทพ

ต่อให้นางจะได้รับบาดเจ็บเต็มตัวตามเวลาที่ผ่านไป แต่สีหน้ากลับสงบนิ่งดังเก่า มีเพียงอานุภาพที่แข็งแกร่งเกรียงไกรยิ่งขึ้น

เป็นอย่างที่ผู้คนบนโลกยกย่อง แม้นางเป็นสตรี แต่ยามต่อสู้กลับกล้าหาญยิ่ง!

สองชั่วยามต่อมา

เมฆาเคราะห์สลายไป จี้ซานไห่ก้าวสู่ขั้นหลุดพ้นได้อย่างราบรื่น

เทียบกับท่าทางสะบักสะบอมหลังจากข้ามด่านเคราะห์ของหยวนฉางเทียนแล้ว เห็นชัดว่าจี้ซานไห่แตกต่างออกไป อย่างน้อยในช่วงสุดท้ายนางก็ยังคงสง่างามล้ำเลิศเช่นเดิม

สิ่งที่เหมือนกันก็คือ จี้ซานไห่ก็สัมผัสได้ถึงจุดเปลี่ยนอันเร้นลับยากหยั่งถึงนั้นเช่นกัน…

แดนมารสวรรค์แห่งนี้มีพลังระเบียบระดับเทพที่สมบูรณ์ถือกำเนิด!

จี้ซานไห่ไม่ได้เคลื่อนไหวทันที นางเพิ่งทะลวงขั้นหมาดๆ จำเป็นต้องทำให้มรรควิถีมั่นคง

“ทุกท่านสงบใจนั่งสมาธิไปก่อน แจ้งมรรคที่นี่มีความหวังว่าจะสำเร็จมากกว่าโลกภายนอกอยู่ราวสามส่วน”

ก่อนนั่งสมาธิ จี้ซานไห่เอ่ยกำชับ

……

ครืน!

ฟ้าดินสั่นไหว เมฆาเคราะห์บนเวิ้งฟ้าต่างสลายไป

เห็นผู้อาวุโสหลีเจินทะลวงขั้นสำเร็จ หลินสวินก็ยิ้มพลางกุมมือคารวะอย่างอดไม่ได้ “ขอแสดงความยินดีกับผู้อาวุโสที่แจ้งมรรคสำเร็จในวันนี้!”

แม้เงาร่างหลีเจินจะยับเยิน เหนื่อยล้าทานทน แต่กลับสีหน้ายินดีปรีดายากปกปิด เอ่ยว่า “หลินสวิน แดนมารสวรรค์แห่งนี้ไม่เหมือนกับโลกภายนอกดังคาด ยามแจ้งมรรคทลายเคราะห์ประหนึ่งฟ้าดินอำนวยพร!”

หลินสวินเอ่ยพร้อมรอยยิ้มว่า “ว่ากันถึงที่สุดแล้วยังเป็นเพราะรากฐานของผู้อาวุโสหนาแน่นมั่นคง ที่ทะลวงขั้นได้สำเร็จก็เป็นเรื่องสมเหตุสมผล”

หลีเจินหลุดหัวเราะ เขาตรงดิ่งไปนั่งขัดสมาธิบนพื้น เริ่มทำสมาธิ

หลินสวินที่เป็นพยานได้เห็นหลีเจินข้ามด่านเคราะห์มาตลอดจมสู่ห้วงความคิด

ฟ้าดินอำนวยพรหรือ

ถ้าเป็นอย่างนี้ เช่นนั้นก็หมายความว่าถ้าแจ้งมรรคทะลวงขั้นที่แดนมารสวรรค์ จะมีโอกาสสำเร็จมากกว่าโลกภายนอก!

ทันใดนั้นหลินสวินก็ส่ายหัว

เห็นหลีเจินทะลวงขั้น ใจเขาจะไม่อิจฉาและคาดหวังแม้สักนิดได้อย่างไร

เพียงแต่เขารู้ดียิ่งกว่าว่ามรรคาของตนจะรีบร้อนไม่ได้

ฝืนไปไม่ได้ จะเกียจคร้านก็ไม่ได้เช่นกัน ต้องหมั่นเพียรฝึกฝนและตกตะกอน จิตใจต้องสงบเยือกเย็น

หลินสวินเอาเศษเสี้ยวระเบียบระดับเทพชิ้นหนึ่งออกมาแล้วฝึกต่อ

หลายวันนี้เขาหลอมเศษเสี้ยวระเบียบระดับเทพไปแล้วสามชิ้น สัมผัสถึงประโยชน์ล้ำค่าเช่นนี้ได้อย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงแต่มีประโยชน์ในการสร้างความมั่นคงและขัดเกลาพลังปราณ ยังมีประโยชน์ต่อการหลอมกฎเกณฑ์อมตะอย่างเหลือเชื่อ

เหมือนอย่างตอนนี้ กฎเกณฑ์อมตะของเขาถึงกับมีท่วงทำนองเทพของระเบียบนิพพานอยู่กลายๆ!

ตั้งแต่ก้าวสู่ขั้นอายุขัยเทียมฟ้า กฎเกณฑ์อมตะที่หลินสวินหลอมรวมล้วนมาจากการหยั่งรู้ในระเบียบนิพพาน ฝึกปราณมาถึงตอนนี้ กฎเกณฑ์อมตะของเขาก็แปรสภาพไปจนแข็งแกร่งหาใดเปรียบ ระดับเดียวกันคนอื่นเทียบไม่ติด

แต่ก็ในช่วงใกล้ๆ นี้เอง หลังจากหลอมเศษเสี้ยวระเบียบระดับเทพ แล้วถึงทำให้ท่วงทำนองเทพส่วนหนึ่งเผยออกมาในกฎเกณฑ์อมตะของหลินสวินไปด้วย

ความเปลี่ยนแปลงนี้นอกจากทำให้หลินสวินตกตะลึง ยังเกิดความคิดอุกอาจขึ้นมาอย่างหนึ่ง…

ยามกฎเกณฑ์อมตะที่ตนหลอมรวมคล้ายคลึงกับระเบียบนิพพานขึ้นเรื่อยๆ จะมีโอกาสหลอมระเบียบนิพพานได้โดยสมบูรณ์หรือไม่

ด้วยเหตุนี้ช่วงหลายวันนี้หลินสวินจึงหลอมเศษเสี้ยวระเบียบระดับเทพเหล่านี้จนแทบไม่ได้กินไม่ได้นอน

ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจว่าจะแจ้งมรรคทะลวงขั้นในแดนมารสวรรค์ได้หรือไม่แล้ว

สองสามวันผ่านไป

หลีเจินทำให้มรรควิถีของตนเสถียรโดยสมบูรณ์แล้ว

เห็นดังนี้หลินสวินพลันเอ่ยว่า “ผู้อาวุโสไม่ต้องสนใจข้า ท่านไปหาพลังระเบียบระดับเทพสมบูรณ์สายนั้นก่อน ไม่ว่าวาสนาเช่นนี้จะตกอยู่ในมือใคร ก็จะตกอยู่ในมือหยวนชางเทียนไม่ได้เด็ดขาด”

หลีเจินเอ่ยอย่างลังเล “แต่ถ้าตอนนี้หยวนฉางเทียน…”

หลินสวินยิ้มพลางพูดตัดบทว่า “ในใจของคนผู้นี้พลังระเบียบระดับเทพที่สมบูรณ์สายหนึ่งสำคัญกว่าการจัดการข้า ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังมีประทับผนึกเวลา ไม่กลัวว่าจะถูกเขาหาเจอ”

ได้ยินดังนี้หลีเจินจึงพยักหน้าแล้วหมุนตัวจากไป

ด้านหลินสวินหลับตาลงอีกครั้ง นั่งสมาธิต่อ

ในใจเขาสนใจแต่การหลอมเศษเสี้ยวระเบียบระดับเทพ

……

เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า

หลังจากแดนมารสวรรค์เปิดได้สองเดือน

กลางภูเขาสูงชันที่ตั้งอยู่แถบใจกลางแดนนี้ลูกหนึ่ง

ตูม!

ประทับสำริดขนาดเท่ากำปั้น เปล่งแสงสะดุดตาประทับหนึ่งลอยอยู่กลางห้วงอากาศ อานุภาพสูงสุดไม่อาจจินตนาการได้อบอวลออกมา ประหนึ่งเป็นตัวแทนแห่งความเกรียงไกรของฟ้าเบื้องบน

ขณะที่มันลอยอยู่ ฟ้าดินก็สั่นสะเทือน ภูผาธาราไหวกระเพื่อม หมื่นลักษณ์ทั่วหล้าคล้ายกำลังศิโรราบ!

กลิ่นอายน่าครั่นคร้ามเกินไป ละอองแสงที่ปลิวว่อนอยู่เผยนัยเร้นลับแก่นแท้แห่งมหามรรคออกมาจนสิ้น ประหนึ่งนายเหนือหัวเพียงผู้เดียวของฟ้าดินแห่งนี้!

‘ระเบียบระดับเทพที่สมบูรณ์สายหนึ่ง!’

เมื่อเห็นภาพนี้ ความตื่นเต้นอย่างไม่เคยมีมาก่อนผุดขึ้นในใจหยวนฉางเทียน

หยวนฉางเทียนไม่ได้ปฏิเสธ “ไม่ผิด จากสถานกาณ์ตอนนี้ ยิ่งผ่านไปนานคู่แข่งก็ยิ่งเยอะ ถึงตอนนั้นไม่ว่าใครอยากได้วาสนานี้ เกรงว่าจะไม่ง่าย”

มุมปากจี้ซานไห่เผยแววเวทนา เอ่ยว่า “พวกเขามาไม่ได้แล้ว”

เพียงไม่กี่คำง่ายๆ แต่กลับทำให้หยวนฉางเทียนนัยน์ตาหดรัด ฝืนยิ้มเอ่ยว่า “แม่นางซานไห่อย่าล้อเล่น ฝีมือของสองคนนี้ข้ารู้ดี ไม่ว่าใครต้องการต่อกรกับพวกเขา เกรงว่าจะไม่มีโอกาสเอาชนะพวกเขาเท่าไรนัก”

จี้ซานไห่ถอนใจเบาๆ อย่างอดไม่อยู่ เอ่ยว่า “ดูท่าเจ้าจะไม่รู้อะไรจริงๆ ถ้าเจ้าอยากรอให้มีคนมาก่อกวนถึงจะยอมจริงๆ เช่นนั้นก็รออยู่ที่นี่เถอะ แต่ข้าเองก็ไม่ถือที่จะบอกเจ้าว่ายิ่งยืดเยื้อต่อไป ก็รังแต่จะยิ่งไม่เป็นผลดีกับเจ้า”

หยวนฉางเทียนนิ่วหน้าเล็กน้อย ฉงนใจไม่ว่หยุด

เขาเอ่ยหยั่งเชิง “พูดเช่นนี้ แม่นางซานไห่หมายจะเอาวาสนานี้ไปให้ได้ใช่ไหม”

ที่เหนือความคาดหมายก็คือจี้ซานไห่ส่ายหัวเอ่ยว่า “มีคนที่ต้องการมันยิ่งกว่าข้า”

“ใคร” หยวนฉางเทียนประหลาดใจ

“หลินสวิน” จี้ซานไห่เอ่ยง่ายๆ

หยวนฉางเทียนตาเบิกกว้าง แทบไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง “หลินสวิน!? แม่นางซานไห่คงไม่ได้คิดจะ… มอบศุภโชคนี้ให้เขาหลังจากชิงไปได้กระมัง”

“ทำไมจะไม่ได้”

จี้ซานไห่ย้อนถาม ท่าทางเหมือนสมควรเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว

หยวนฉางเทียนกลับไม่อาจเยือกเย็นโดยสมบูรณ์แล้ว กล่าวว่า “แม่นางซานไห่ การล้อเล่นนี้ไม่ตลกสักนิด เขาหลินสวินเป็นผู้สืบทอดคีรีดวงกมล เจ้าคงไม่ใช่ไม่รู้ว่าเจ้าแห่งคีรีดวงกมลอาจารย์ของเขาไม่เป็นที่ต้อนรับในน่านฟ้าที่เก้าได้อย่างไรกระมัง”

จี้ซานไห่เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “อาจารย์เขาเกี่ยวอะไรกับข้า”

หยวนฉางเทียนแทบคลั่งแล้ว นี่เรียกว่าไม่เกี่ยวกันได้อย่างไร

“ว่าไปแล้วเจ้ากับหลินสวินมาจากลัทธิแรกกำเนิดเหมือนกัน ถ้าข้ามอบวาสนานี้ให้เขา เจ้าควรดีใจแทนเขาถึงจะถูก”

จี้ซานไห่เอ่ยคล้ายขบคิด

ได้ยินดังนี้มุมปากหยวนฉางเทียนยังกระตุกแรงๆ อัดอั้นจนอยากกระอักเลือด ดีใจแทนหลินสวินหรือ

ดีใจกับผีสิ!

ถ้าไม่ใช่ว่าสภาวะจิตที่ขัดเกลามานานปีแข็งแกร่งพอ หยวนฉางเทียนยังอยากสบถเต็มแก่ เขาหลินสวินเก่งกล้าสามารถมาจากไหน มีสิทธิ์อะไรมาครอบครองวาสนาเช่นนี้

เพียงแต่เห็นท่าทางจี้ซานไห่ไม่คล้ายโกหก นี่ทำให้ในใจหยวนฉางเทียนยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์ เอ่ยว่า “แม่นางซานไห่ เจ้าแน่ใจว่าจะทำเช่นนี้จริงหรือ นี่เป็นถึงระเบียบระดับเทพ แม้แต่กับตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพวกเราก็ยังเรียกได้ว่าเป็นสมบัติที่ไม่อาจประเมินค่าได้….”

จี้ซานไห่พูดตัดบท “ข้ายินยอม แต่เห็นชัดนักว่าเจ้าดูไม่ยินยอม ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงอีก ไม่สู้เจ้ากับข้ามาประลองกันสักตั้งที่นี่เป็นอย่างไร”

เด็ดขาดฉับไว เรียบง่ายตรงไปตรงมา

หยวนฉางเทียนพูดไม่ออก สีหน้าแปรผันไม่หยุด

เขาไม่ได้มั่นใจว่าจะสู้จี้ซานไห่ได้ แต่เขามั่นใจว่าถ้าตนไม่ถอย จี้ซานไห่ก็ทำอะไรเขาในช่วงสั้นๆ ไม่ได้เช่นกัน!

เขาสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กำลังคิดจะพูดอะไร

ก็ในตอนนี้เองมีเสียงเคลื่อนย้ายทะลวงอากาศดังขึ้นไกลออกไป

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์